“วันสื่อมวลชน ครั้งที่ ๓๐” สำเร็จงดงาม ‘เทวัญ’ แนะสื่อที่ดีต้องเสนอข่าวจริง และเที่ยงตรง ไม่สร้างความตระหนก ด้าน ‘หัสดิน’ บุคคลดีเด่น’๖๒ พร้อมร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ ย้ำรายได้ต่อหัวชาวโคราชต้องสูงขึ้น

สมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตรนครราช สีมา จัดงาน “วันสื่อมวลชน ครั้งที่ ๓๐” เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๘.๓๐ น. ที่โรงแรมดิ อิมพีเรียล โคราช โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน ท่ามกลางผู้มีเกียรติเข้าร่วมจากวงการต่างๆ กว่า ๒๐๐ คน เช่น นายอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา เขต ๒, นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ อดีตส.ส.นครราชสีมา รวมทั้งผู้ได้รับการเชิดชูเป็นบุคคลดีเด่นปีต่างๆ ซึ่งมีนายสุนทร จันทร์รังสี ประธานที่ปรึกษาสมาพันธ์สื่อมวลชนฯ พร้อมด้วยที่ปรึกษาฯ ได้แก่ นายบำรุง วสันตกรณ์ กรรมการผู้จัดการ KCTV, ดร.กำปั่น นิธิวรไพบูลย์ (กำปั่น บ้านแท่น) ศิลปินเพลงพื้นบ้านแห่งชาติ, นายประสิทธิ์ เทศสูงเนิน อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครฯ และผู้จัดรายการ “ชีพจรกีฬา” ซึ่งล้วนเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนฯ ทั้งสิ้น พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาพันธ์สื่อมวลชนฯ นำโดยนางสาวฉัตรสุรางค์ กองภา ประธานสมาพันธ์ฯ ปีบริหาร ๒๕๖๓-๒๕๖๕ โดยในงานนายประสิทธิ์ เทศสูงเนิน ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนฯ ปีบริหาร ๒๕๖๑-๒๕๖๓ ได้ส่งมอบตำแหน่งและภารกิจแก่นางสาวฉัตรสุรางค์ กองภา และคณะกรรมการชุดใหม่ 

จากนั้น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า บทบาทที่สำคัญที่สุดของสื่อมวลชนคือ เสนอข่าวที่เป็นจริง และเที่ยงตรง ผมมีโอกาสได้รับนโยบายจากทางรัฐบาลให้กำกับดูแลงานสื่อมวลชน ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตนคลุกคลีกับงานข่าวและสื่อมวลชนมาโดยตลอด งานสื่อมวลชนสำคัญที่สุดคือ การให้ข่าวที่เที่ยงตรง ยกตัวอย่างเหตุรุนแรงที่โคราชเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ สื่อมวลชนหลายแขนงถูกตำหนิ จากการเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อน ทำให้คนร้ายทราบความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ แต่สื่อของโคราชไม่ถูกตำหนิ กลับได้รับคำชื่นชมในการนำเสนอข่าว จึงต้องขอบคุณสื่อมวลชนในสังกัดสมาพันธ์ฯ ที่ทำงานได้อย่างเที่ยงตรง

“อีกวิกฤตที่ประสบทั่วโลกคือ เชื่อไวรัสโควิด-๑๙ ที่แพร่ไปหลายประเทศ ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-๑๙ แล้ว ๑ ราย เรื่องนี้ผมเป็นห่วงการนำเสนอของสื่อ ซึ่งมีผลกับความกังวลประชาชน รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ แต่วันนี้สื่อมวลชนทุกแขนงให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง การนำเสนอผ่านคอลัมนิสต์พูดในเชิงบวกมากขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี นอกจากนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับประธานสมาพันธ์ฯ คนใหม่ (นางสาวฉัตรสุรางค์ กองภา) และขอบคุณประธานฯ คนเก่า (นายประสิทธิ์ เทศสูงเนิน) ที่ทำงานได้อย่างดียิ่ง รวมถึงประธานที่ปรึกษาพี่สุนทร (นายสุนทร จันทร์รังสี) ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ช่วยกันประคับประคองงานข่าวในโคราช รวมทั้งแสดงความยินดีกับบุคคลดีเด่น ปี ๒๕๖๒ และขอให้สมาพันธ์ฯ อยู่คู่สื่อมวลชนโคราชไปตลอด”

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่เกิดขึ้นตลอดระยะ ๓๐ ปีที่ผ่านมาของสมาพันธ์สื่อมวลชนฯ ที่เกิดขึ้นในวันสื่อมวลชนทุกปีคือ การมอบโล่เกียรติยศบุคคลดีเด่นแห่งปี ซึ่งมอบปีละ ๑ คนเท่านั้น โดยปีนี้คณะกรรมการสมาพันธ์ฯ มีมติเลือกนายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา และเลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย เป็นบุคคลดีเด่นแห่งปี ๒๕๖๒ หรือ Person of the Year 2019 ซึ่งได้รับเกียรติจากนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มอบโล่เกียรติยศ พร้อมกล่าวแสดงความยินดีอย่างคนที่คุ้นเคยกันดีว่า 

“การมอบรางวัลบุคคลดีเด่นแห่งปีของสมาพันธ์สื่อมวลชนฯ จะเห็นว่า ๑ ปี จะมอบเพียง ๑ คน และบุคคลที่ได้รับรางวัลในปีนี้ถือว่า เหมาะสมมากๆ เป็นบุคคลที่มีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และทุกครั้งจะคุยกันเรื่องงาน อาทิ จะพัฒนาเศรษฐกิจของโคราชอย่างไรให้ดีขึ้น เวลาของคุณหัสดินทั้งหมดจะทุ่มเทให้กับการทำงานเสมอในทุกๆ องค์กรที่ได้ร่วมทำงาน ต้องชื่นชมคณะกรรมการสมาพันธ์ฯ ที่เลือกบุคคลดีเด่นได้ดีจริงๆ และต้องขอยืนยันว่าคุณหัสดินเป็นคนที่เก่ง มีความรู้ ความสามารถ ต้องขอแสดงความยินดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะช่วยกันทำงานและพัฒนาเศรษฐกิจโคราชให้เจริญยิ่งขึ้นไป”

หลังจากนั้น ผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานต่างร่วมมอบช่อดอกไม้และของที่ระลึกเพื่อแสดงความยินดีกับนายหัสดิน โดยมีมารดา (นางสุพร สุวัฒนะพงศ์เชฏ) ยืนเคียงข้างอย่างอบอุ่น ทั้งนี้นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ บุคคลดีเด่นแห่งปี ๒๕๖๒ กล่าวแสดงความรู้สึก และปาฐกถาพิเศษสั้นๆ ในหัวข้อ “ทิศทางพัฒนาเมืองโคราช” ความว่า 

“ผมขอขอบคุณสมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตรนครราชสีมา ที่มอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้กับผม ซึ่งเป็นหนึ่งในรางวัลที่รู้สึกภาคภูมิใจในชีวิต ซึ่งสมาพันธ์สื่อมวลชนฯ เป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูง เนื่องจากเป็นองค์กรที่ร่วมทำหน้าที่สื่อมวลชนในโคราชให้ดีขึ้นมาเป็นระยะเวลายาวนาน และตลอด ๓๐ ปี เชื่อว่าสมาพันธ์ฯ นำความจริงมานำเสนอให้ปรากฏ ไม่เอนเอียง และทำหน้าที่สื่อมวลชนเป็นอย่างดี การที่ผมมีโอกาสมาทำงานที่จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากได้รับโอกาสในการศึกษา เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนในจังหวัดฯ ผมต้องขอบคุณทุกสถาบันการศึกษาที่ช่วยหล่อหลอมให้ผมมีโอกาสในวันนี้ รวมถึงสมาชิก เจ้าหน้าที่ และกรรมการในทุกองค์กรที่ผมมีโอกาสร่วมทำงาน โดยเฉพาะองค์กรปัจจุบันที่ผมทำงานคือ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา”

นายหัสดิน กล่าวอีกว่า สภาอุตสาหกรรมฯ เป็นหน่วยงานที่ทรงเกียรติ ได้รับการยอมรับจากสังคม ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ทำให้ได้รับการยอมรับ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้รับการยอมรับขนาดไหน แต่หน้าที่ก็ถูกผูกไว้ กับระบบเศรษฐกิจ เมื่อภาวะเศรษฐกิจไม่สู้ดี การขับเคลื่อนงานใดๆ ที่เป็นประโยชน์ของโคราช ก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม เมื่อได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมฯ เป็นสมัยที่ ๒ ซึ่งครบรอบ ๓๐ ปีเช่นเดียวกัน เราก็ตั้งใจว่า จะมีกิจกรรมดีๆ ซึ่งเราพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการทำให้ระบบเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาดีขึ้น

“ผมตั้งเป้าไว้ว่า ในอีก ๒ ปีข้างหน้า ผมจะพยายามทำงานให้มากขึ้น ผลักดันโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษนครราชสีมา สาธารณูปโภคต่างๆ ที่รัฐบาลจัดให้ เช่น มอเตอร์เวย์ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ มาแปรให้เป็นโอกาสเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดของเรา ผลักดันให้เกิดโครงการใหม่ๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของโคราชสูงกว่าของประเทศ แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานในจังหวัด ซึ่งเราต้องร่วมกันทำงานต่อไป”

นายหัสดิน กล่าวว่า “การทำงานในตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา มีความสำเร็จมากมาย ซึ่งขอมอบความสำเร็จเหล่านั้นให้กับคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่สภาอุตสาหกรรมฯ การทำงานเพื่อสังคมไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากสมาชิกในองค์กรที่สังกัด และจากความร่วมมือขององค์กรอื่นๆ ดังนั้น ต้องขอบคุณทุกๆ องค์กรที่ร่วมกันทำงาน สำหรับรางวัลบุคคลดีเด่นแห่งปี มีหลายท่านที่เคยได้รับรางวัลนี้ ผมเห็นว่า ผู้นำของโคราชที่ทำให้สังคมโคราชดีขึ้นยังมีอีกมาก และเป็นผู้ที่สมควรได้รับรางวัลนี้เช่นกัน ผมหวังว่าในปีต่อๆ ไป ผมจะได้มีโอกาสมาร่วมแสดงความยินดีกับหลายๆ ท่าน ทั้งนี้ ผมขอบคุณทุกกำลังใจที่เกื้อหนุนกันมาโดยตลอด”

“การทำงานในวันนี้ ยังไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจในโคราชมีความเจริญ แม้วันนี้ GDP จะเป็นอันดับ ๑ ของอีสาน แต่อย่างไรก็ตาม รายได้ต่อหัวยังน้อยกว่าขอนแก่น เป้าหมายของเราจึงต้องทำผลิตภัณฑ์มวลรวม และรายได้ต่อหัวของโคราชให้สูงขึ้น

นายหัสดิน กล่าวท้ายสุดว่า “ผมต้องขอบคุณคุณพ่อประภาสที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งคุณแม่สุพรผู้ที่คอยให้กำลังใจมาโดยตลอด รวมถึงลูกๆ ที่เข้าใจ แม้ว่าพ่อจะไม่ค่อยมีเวลา ขอบคุณทุกเพื่อนๆ น้องๆ ที่คอยสนับสนุน เกื้อกูลกันมาโดยตลอด และมอบรางวัลที่ได้รับวันนี้ให้กับทุกท่าน และช่วยกันนำพาให้จังหวัดนครราชสีมาเติบโต โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจรากหญ้าของโคราชยังต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่อไป” 

ทั้งนี้ “โคราชคนอีสาน” จะนำเสนอรายละเอียดและภาพงาน “วันสื่อมวลชน ครั้งที่ ๓๐” ในฉบับต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๑๘ วันพุธที่ ๔ - วันอังคารที่ ๑๐ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓