ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้ายืนยัน สินค้าไม่ขาด วอนประชาชนอย่ากักตุน รณรงค์ทุกห้างฯ ใช้มาตรการ Social Distance เว้นระยะห่าง ๒ เมตร ด้าน “ไพจิตร มานะศิลป์” เผยเตรียมทำหน้ากากอนามัยแบบผ้าแจกฟรี จำนวน ๑ แสนชิ้น เชื่อไม่เกินความสามารถของคนโคราช

เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๓ ที่หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับประชุมผู้ประกอบการศูนย์การค้า ห้างโมเดิร์นเทรด และห้างท้องถิ่นในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของจังหวัด รวมถึงติดตามสถานการณ์ราคา ปริมาณ และความต้องการสินค้าของประชาชนในพื้นที่ 

นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน กล่าวว่า “เมื่อวันที่ ๓ มีนาคมที่ผ่านมาเคยประชุมไปแล้ว ครั้งนั้นคุยกันว่า แต่ละห้างฯ จะมีแนวทางอย่างไรบ้าง โดยล่าสุดจังหวัดนครราชสีมา มีประกาศและข้อสั่งการมาตรการรับมือไวรัสโควิด-๑๙ ออกมาแล้ว จึงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง นอกจากจะหาแนวทางให้ห้างฯ ต่างๆ แล้ว จะเห็นว่า ประชาชนตื่นตระหนกกับสถานการณ์อย่างมาก โดยเห็นได้ชัดจากชั้นวางสินค้าโล่ง จำนวนสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่ซื้อเพื่อนำไปกักตุน จึงต้องมาคุยกันว่า แต่ละแห่งจะมีมาตรการรับมืออย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายต่อไป”

นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด และผู้บริหารห้างสรรพสินค้าคลังพลาซ่า กล่าวว่า “ในภาวะแบบนี้ เราจะต้องใช้มาตรการ Social Distance หรือระยะห่างทางสังคม เพราะจะทำให้เราผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี ซึ่งความจริงแล้ว เราไม่ทราบเลยว่า นอกจากผู้ติดเชื้อ ๓ ราย รอบๆ ตัวเราจะมีใครติดเชื้อบ้าง เรียกว่า ขณะนี้ไว้ใจใครไม่ได้ เริ่มจากสถานที่ทำงานหรือออฟฟิศทุกแห่ง ต้องจัดรูปแบบใหม่ โดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย ๒ เมตร ส่วนให้ห้างสรรพสินค้า บริเวณที่มีความเสี่ยงสูงได้แก่ ๑.จุดเข้าแถวจ่ายเงิน จะต้องทำสัญลักษณ์ในการเข้าแถวห่างจากคนข้างหน้าและข้างหลัง ๒ เมตร ๒.บริเวณศูนย์อาหารหรือร้านอาหารต่างๆ ต้องจัดให้มีระยะห่างเช่นกัน แต่ถ้าให้ปลอดภัยที่สุด ๑ โต๊ะ จะต้องมีเก้าอี้ ๑ ตัว และต้องมีการทำความสะอาดโต๊ะด้วยแอลกอฮอล์ตลอดเวลา ๓.ลิฟต์ ต้องให้ผู้ใช้ลิฟต์หันหน้าเข้าหาผนัง เพื่อป้องกันการไอหรือจามใส่กัน และมาตรการที่ทุกห้างทำอยู่แล้ว คือ การตั้งจุดคัดกรองก่อนเข้า ให้มีเจลล้างมือทุกจุด หากเป็นไปได้ อาจจะปิดทางเข้าให้เหลือเพียงไม่กี่จุด ซึ่งจะทำให้คัดกรองได้ ๑๐๐%”

วอนอย่าแห่กักตุนสินค้า

นายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ เดอะมอลล์ราชสีมา กล่าวว่า “ข่าวที่บอกว่า โคราชสินค้าหมด เพราะคนแห่มาซื้อไปกักตุน ต้องขอชี้แจงแทนทุกห้างว่า สินค้าไม่หมดแน่นอน แต่ทุกห้างจะมีเวลาการลงสินค้า อาจจะทุก ๓๐ นาที หรืออย่างมากก็ ๒ ชั่วโมง ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ยังไม่ลงของ แล้วประชาชนมาเห็นก็ถ่ายภาพไปลงโซเชียล บอกว่าสินค้าหมด ทำให้เกิดเป็นข่าวว่าโคราชเป็นเหมือนกรุงเทพฯ ซึ่งจริงๆ สินค้าไม่ได้หมด แต่ขอให้รอ และส่วนมากสินค้าที่หมดจะเป็นยี่ห้อดังๆ ดังนั้นสินค้าเรามีให้ตลอดแน่นอน” 

ภายหลังจบการประชุม นายไพจิตร มานะศิลป์ เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “คลังพลาซ่าเป็นตัวอย่างที่จะเริ่มทำ Social Distance คือ มีระยะปลอดภัย ๒x๒ เมตร เราเริ่มตั้งแต่ภายในสำนักงานก่อน พนักงานทุกคนจะต้องนั่งห่างกัน ๒ เมตร และที่คลังพลาซ่า บริเวณแคชเชียร์มีเส้นบอกตำแหน่งยืน เป็นจุดๆ ให้ยืนห่างกัน ๒ เมตร ที่ศูนย์อาหาร โต๊ะต้องห่างกัน ๒ เมตร บริเวณในลิฟต์ปรับให้ยืนแค่ ๔ คน อยู่คนละมุมลิฟต์ ทั้งหมดนี้เพื่อความปลอดภัย เพราะว่า เป็นวิธีการที่พิสูจน์แล้วที่อู่ฮั่น เมืองจีน ซึ่งปัจจุบันที่เมืองจีนไม่มีผู้ติดเชื้อแล้ว เพราะฉะนั้นวิธีการนี้จะช่วยให้เราห่างไกลโรคโควิด”

“วันนี้มีการพูดถึงการกักตุนอาหาร ซึ่งผมต้องการฝากถึงคนโคราชว่า ที่คลังพลาซ่า บริเวณคลังซูเปอร์มาเก็ต สินค้าทุกอย่างไม่มีขาด บางครั้งที่ไปแล้วอาจจะไม่มี เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือปลากระป๋อง เป็นแค่ช่วงเวลาเท่านั้น ไม่เกินครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมง พนักงานก็จะมาเติมสินค้า หากสินค้าบางอย่างหมดสต็อก ก็ไม่เกิน ๑-๒ วัน เราก็จะมาเติมให้ ไม่ใช่เฉพาะที่คลังพลาซ่า แต่ทั้งเดอะมอลล์ เซ็นทรัล เทอร์มินอล และทุกที่ ขอให้มั่นใจได้ว่า สินค้าไม่ขาดตลาด ไม่จำเป็นต้องกักตุนกัน เพราะว่า การกักตุนจะทำให้สินค้าบูดเน่าเสียหาย ใช้ไม่ทันหมด ดังนั้นต้องรอ เมืองไทยเราเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าทุกอย่าง เราไม่ได้นำเข้า โดยเฉพาะอาหารแห้ง หากหมดจริงๆ เรายังไปตลาดซื้อของได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๓ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดนครราชสีมาที่ ๒๑๑๔/๒๕๖๓ เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด-๑๙ ในพื้นที่ ๓๒ อำเภอ ขณะนั้นมีผู้ติดเชื้อสะสม ๕ ราย และรอแพทย์ยืนยันผลตรวจ ๑๓ ราย ซึ่งมีแนวโน้มขยายวงลุกลามอย่างต่อเนื่อง จึงมีมติให้ปิดห้างสรรพสินค้า ยกเว้นแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านอาหารให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น รวมทั้งตลาดและตลาดนัดให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น รวมทั้งอาหารสัตว์ ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ จนถึงวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๓

ในขณะที่ “โครงการทำหน้ากากอนามัยแจกฟรี” นั้น นายไพจิตร มานะศิลป์ เปิดเผยว่า ความจริงเป็นโครงการของ Korat Strong ที่ทำต่อเนื่องมา คราวนี้เป็น “KoratStrong สู้ภัยโควิด” ต่อเนื่องจากโครงการช่วยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์กราดยิง โดยขณะนี้กำลังจะหาทุนประมาณ ๑ ล้านบาท เพื่อผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า ไม่ใช่หน้ากากทางการแพทย์ จำนวน ๑ แสนชิ้น ถ้าใครสนใจ ขอเชิญร่วมโครงการกับเรา โดยการบริจาคเงิน สามารถติดต่อมาที่เพจ KoratStrong ได้

“หน้ากากอนามัยแบบผ้านี้ เราจะแจกฟรีทั้งหมด ความจริงต้องการหาได้สัก ๑ แสนชิ้น แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องการ ๓ แสนชิ้น โดยแจกในเมืองก่อนและถ้าหน้ากากมีจำนวนมาก ก็จะแจกทั้งจังหวัด หากสามารถหาได้ ๒-๓ ล้านชิ้น ตรงนี้ไม่เกินความสามารถของคนโคราช หากเราพร้อมใจกันร่วมใจกัน ถ้ามีเงินเข้ามาช่วยสนับสนุนตรงนี้จะแจก ๓ ล้านชิ้นเลยก็ได้ ให้ได้ใช้ทุกๆ คน จะได้ไม่ต้องมานั่งหาหน้ากากทางการแพทย์ ซึ่งให้แพทย์ใช้ดีกว่า โดยโครงการนี้จะทำให้เร็วที่สุด อาจจะทยอยผลิต หากยังหาไม่ถึงตามต้องการ อาจจะทำทีละ ๑ หมื่นชิ้น แจกเท่าที่จะทำได้ โดยผ่านทางโรงพยาบาล ซึ่งถือว่าสำคัญที่สุด อาจจะให้โรงพยาบาลแจกญาติที่มาเยี่ยมผู้ป่วย ขณะนี้ญาติที่มาเยี่ยมผู้ป่วยน่าสงสารที่สุดคือ เขาไปนั่งอยู่ในจุดเสี่ยงและก็ไม่มีหน้ากากใช้ เพราะหน้ากากต้องให้แพทย์ใช้ ดังนั้นต้องมอบให้โรงพยาบาลก่อน และต่อมาจึงเป็นตามชุมชนต่างๆ” นายไพจิตร กล่าว

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๕ ฉบับที่ ๒๖๒๑ วันพุธที่ ๒๕ - วันอังคารที่ ๓๑ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓