รองศาสตราจารย์ ร.อ. ดร.กนต์ธร ชำนิประศาสน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและพัฒนาความเป็นสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ประธานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (รพ. มทส.) เผยว่า “มทส. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่เข้าร่วมปฏิบัติการกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดย รพ. มทส. ได้ปรับปรุงอาคารหอพักสุรนิเวศ 17 เป็นสถานกักตัวเฝ้าระวังผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือ LQ (Local Quarantine) และเปิดรับผู้มากักตัวเพื่อสังเกตอาการตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อฯ และสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ร้องขอมา นับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2563 มีจำนวนสะสม 51 ราย นอกจากนี้ มีผู้ป่วยตรวจพบเชื้อ COVID-19 ซึ่งอาการคงที่ นอนพักรักษาตัวตามขั้นตอนในห้องความดันลบ ณ อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ จำนวน 2 ราย

สำหรับสถานการณ์การเฝ้าระวังผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ณ หอพักสุรนิเวศ 17 นับว่าดีขึ้นตามลำดับ ผู้ที่เข้ารับการกักตัวมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากครบระยะการกักตัวและเดินทางกลับบ้านแล้ว รวม 31 ราย นับตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2563 จำนวน 10 ราย วันที่ 15 เมษายน 2563 จำนวน 5 ราย และวันที่ 16 เมษายน 2563 จำนวน 16 ราย ยังคงเหลือผู้เข้ากักตัวอีกจำนวน 20 ราย ซึ่งจะครบกำหนดการกักตัวและเดินทางกลับบ้านได้ระหว่างวันที่ 17 - 28 เมษายน 2563

“ตลอดระยะเวลาของการกักตัว รพ. มทส. ได้อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ทั้งสถานที่พัก ระบบการดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แรกเข้า การปฐมนิเทศแจ้งกฎระเบียบการปฏิบัติตัวระหว่างการกักตัว 14 วัน ระบบติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ถูกกักตัวและเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง การดูแลอาหาร 3 มื้อ ซึ่งเป็นอาหารจาก รพ. มทส. หรือผู้กักตัวจะสั่งอาหารจาก 7 Eleven หรือบริการส่งอาหาร หรือจากครอบครัว ก็สามารถทำได้ โดยมีเจ้าหน้าที่นำไปส่งให้ แต่ผู้ถูกกักตัวต้องอยู่แต่ในห้อง ระหว่างวันจะมีเจ้าหน้าที่ของ รพ. มทส. สอบถามอาการ มีทีมจิตแพทย์ดูแลให้คำปรึกษา และการดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากผู้เข้ากักตัวและส่วนใหญ่พึงพอใจมากที่สุดแทบทุกด้านระหว่างการกักตัวที่นี่” รองศาสตราจารย์ ร.อ. ดร.กนต์ธร กล่าว