20thApril

20thApril

20thApril

 

September 19,2020

มข.ทุ่ม ๔,๓๐๐ ล้านบาท ศูนย์การแพทย์ชั้นเลิศ พร้อมเปิดบริการปี’๖๗

มข.ลงนามว่าจ้างเอกชนก่อสร้าง “โครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการการแพทย์ชั้นเลิศ” เบื้องต้นใช้งบ ๔,๓๐๐ ล้านบาท บนพื้นที่ ๓๒ ไร่ หวังให้บริการด้านสาธารณสุขที่ดีที่สุด สนองตอบทั้งภาคอีสานและประเทศเพื่อนบ้าน รองรับ ๖๒๒ เตียง ใช้เวลาก่อสร้าง ๔ ปี พร้อมเปิดบริการในปี ๒๕๖๗

 

เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๓ ที่สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ดร.ณรงค์ชัย อัครเสรณี นายกสภามหาวิทยาลัยฯ เป็นประธานพิธีลงนามสัญญาโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการการแพทย์ชั้นเลิศ ระหว่าง รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กับนายครูซ คาลี วาเดีย ผู้แทนบริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) พร้อมกับพิธีลงนามในสัญญาระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ ดร.ปิยวัชร  ชัยเสรี  ผู้แทน บริษัท อรุณ ชัยเสรี คอนซัลติ้ง เอนจิเนียร์ส จำกัด ในฐานะผู้ควบคุมงานก่อสร้าง โดยมี คณะกรรมสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น และผู้บริหารมหาวิทยาลัย ร่วมเป็นเกียรติและเป็นสักขีพยาน

ดร.ณรงค์ชัย อัครเสรณี กล่าวว่า การก่อสร้างอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศ เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ มข.บนพื้นที่ประมาณ ๓๒ ไร่ โดยเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นจำนวน ๘ ไร่ และเป็นพื้นที่ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานน้ำบาดาล เขต ๔ ขอนแก่น จำนวน ๒๔ ไร่ ซึ่งได้คืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์เพื่ออนุญาตให้ มข.ใช้ในการก่อสร้างโครงการ โดยมีบริษัทสถาปนิก ๑๑๐ จำกัด เป็นผู้ออกแบบ และบริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ควบคุมโครงการ  มีวงเงินในการก่อสร้างร่วม ๔,๐๐๐ ล้านบาท เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีพื้นที่บริการเพิ่มขึ้นอีก ๑๒๐,๐๐๐ ตารางเมตร ซึ่งโครงการนี้ นอกจากการขยายบริการทางการแพทย์แล้วยังทำให้สามารถเพิ่มการผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อีกปีละ ๑๕๐ คน สามารถขยายการสร้างงานวิจัย และนวัตกรรมทางการแพทย์อีกจำนวนมากนับเป็นโครงการที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมถึงภูมิภาคข้างเคียงได้อีกด้วย”

“สภามหาวิทยาลัยขอนแก่นมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อตอบสนองสังคมและสิ่งหนึ่งที่เราทำได้ดีมาก นอกจากเรื่องในการให้บริการทางการศึกษาก็คือ การให้บริการทางการศึกษา คือการให้บริการทางการสาธารณสุขด้านสาธารณสุขให้ดีที่สุดกว้างขวางที่สุด สนองทุกจุดในจังหวัด ภาคอีสาน และประเทศเพื่อนบ้าน ฉะนั้นโครงการนี้โครงการนี้เป็นโครงการที่สภาให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และผลักดันมาโดยตลอด เพราะว่าเห็นชัดเจนว่า คณะแพทยศาสตร์มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน โครงการนี้จึงได้เกิดขึ้น ในปัจจุบันเทคโนโลยีมาเร็วมากขึ้นมีสิ่งที่เรารู้จักกันทั่วไป คือ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งทางคณะแพทย์ได้นำมาใช้ในส่วนต่างๆ อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข  เชื่อว่าถ้านำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ได้อย่างเต็มที่จะช่วยในการดูแลสุขภาพจะทำให้ความสามารถในการดูแลสุขภาพของประชาชนจะดีขึ้นอย่างยอดเยี่ยม”  ดร.ณรงค์ชัย กล่าว

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข. กล่าวว่า อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศประกอบด้วยอาคารกลาง งบประมาณ ๔,๓๐๐ ล้านบาท ยังไม่รวมค่าครุภัณฑ์ ประมาณ ๑ พันล้านบาท โดยมีบริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด ในราคาประมูล ๓,๙๐๐ ล้านบาท จึงเป็นผู้ชนะการประมูล โดยจะมีพื้นที่บริการ ๑๒๐,๐๐๐ ตารางเมตร  ทำให้สามารถขยายบริการทางการแพทย์ โดยมีเตียงผู้ป่วยในได้เพิ่มอีกกว่า ๖๒๒ เตียง มีห้องผ่าตัดเพิ่มอีก ๒๕ ห้อง และห้อง ICU อีก ๑๑๗ เตียง ซึ่งจำนวนห้องผ่าตัดและเตียงวิกฤตยังขาดอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ในโครงการยังไม่ทอดทิ้งพี่น้องประชาชนที่มาจากทางไกล ฐานะไม่ดีจากต่างจังหวัด จัดเรือนพักสำหรับญาติผู้ป่วยที่เก็บเงินวันละ ๕-๑๐ บาทอีก ๔๐๐ ยูนิต พร้อมอาคารจอดรถได้อีก ๑,๐๐๐ คัน โครงการนี้มีระยะเวลาก่อสร้าง ๔ ปี โดยจะมีการวางแผนออกแบบ และสำรวจความต้องการในระยะต่อไป”

“การก่อสร้างในเฟส ๑ ไม่มีปัญหาในเรื่องงบประมาณ เนื่องจากคณะยังมีงบประมาณเพียงพอโดยมีทุนสำรองอยู่จำนวน ๒,๐๐๐ กว่าล้านบาท ซึ่งยังคงต้องมีการเปิดรับบริจาคอีกต่อไป เพื่อก่อสร้างอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศในเฟสที่ ๒-๓ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมระดมทุนบริจาคต่อไป อย่างไรก็ดีศูนย์บริการทางการแพทย์ชั้นเลิศจะนำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในด้านการแพทย์มากขึ้น โดยจะนำมาใช้ในการวินิจฉัยโรค การตรวจทางพยาธิ การตรวจทางเอ็กซเรย์ การตรวจโรคบางอย่าง ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ รวมทั้งการใช้เอไอเป็นเครื่องมือในการติดตามผู้ป่วย และการเปลี่ยนแปลงของโรคให้ถูกต้องแม่นยำ นอกจากนี้ ยังจะใช้ AI ในการให้บริการทางการแพทย์ระยะไกล หรือ Telemedicine  รวมทั้งในด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์จำพวกหุ่นยนต์มาช่วยเสริมในการให้บริการทางการแพทย์ให้ดียิ่งขึ้น ถูกต้องแม่นยำ รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมทางการแพทย์ KKU Health Care Innovation Center ซึ่งเป็นศูนย์ที่จะดึงบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล รวมทั้งด้านวิศวคอม วิศวกรรมสารสนเทศ Com Science คณะวิชาต่างๆ ทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ แม้แต่คณะสถาปัตยกรรม เพื่อออกแบบที่พักอาศัย ครอบคลุมไปถึงการดูแลคนไทยสูงอายุที่อายุยืน ว่าทำอย่างไรจึงจะสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุทั้งที่โรงพยาบาล และที่บ้านให้ปลอดภัยได้อย่างไรอีกด้วย” อธิการบดี มข. กล่าว

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๔๕ วันพุธที่ ๑๖ - วันอังคารที่ ๒๒ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๓

 

731 1343