December 26,2020
ขอนแก่นแถลงพบติดโควิด-19 พุ่งอีก 1 ราย รวมล่าสุด 3 ราย
ขอนแก่น พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 3 เป็นแม่ค้าอาหารทะเล ติดเชื้อมาจากสมุทรสาคร เป็นเพื่อนกับผู้ติดเชื้อรายที่ 2 ย้ำชัดยังไม่ล็อคดาวน์จังหวัด แต่ทุกคนต้องการ์ดไม่ตก พร้อมระบุทุกอำเภอรายงานการหยุดจัดกิจกรรมขนาดใหญ่มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งถนนคนเดิน-กิจกรรมปีใหม่ และสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความปลอดภัย
วันที่ 26 ธันวาคม 2563 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ชั้น 3 สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผุ้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ 3 ของ จ.ขอนแก่น หลังผลการตรวจยืนยันชัดเจนว่าติดเชื้อหลังเดินทางกลับมาจาก จ.สมุทรสาคร ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนและเจ้าพนักงานสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟังและกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า “ยืนยันว่าจังหวัดขอนแก่นขณะนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 3 เป็นหญิง อายุ 36 ปี เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยรายที่ 2 ซึ่งเป็นแม่ค้าจำหน่ายอาหารทะเลในพื้นที่ อ.แวงใหญ่ ซึ่งมีประวัติเดินทางไปค้าขายในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยปรากฏไทมน์ไลน์การเดินทางเช่นเดียวกันกับผู้ป่วยรายที่ 2 คือวันที่ 30 พ.ย.ผู้ป่วยออกเดินทางจาก อ.แวงใหญ่เวลาประมาณ 12.00 น. โดยเดินทางไปที่ตลาดค้าส่งสัตว์น้ำบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ ซึ่งถึงเวลาประมาณ 21.00 น. จากนั้นเวลาประมาณ 00.00 น.ได้เดินทางต่อไปที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ทำการซื้ออาหารทะเล โดยมีคนงานเมียนมาขายของให้ โดยผู้ขายไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่ผู้ป่วยสวมหน้ากากตลอดเวลา จนถึงเวลา 02.00 น. ผู้ป่วยเดินทางกลับ อ.แวงใหญ่และถึงแวงใหญ่เวลา 07:00 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม จากนั้นผู้ป่วยนำของลงขายที่หน้าร้านตรงข้ามปั๊มน้ำมันพีทีแวงใหญ่และได้นำส่งร้านร้านต่างๆ ประกอบด้วย ที่ อ.ชนบท, อ.เมือง, อ.บ้านไผ่, อ.พล จ.ขอนแก่น, อ.บรบือ จ.มหาสารคาม และ จ.ร้อยเอ็ด”
“หลังจากนั้นมาขายของต่อที่ร้านหน้าปั๊มน้ำมันพีที อ.แวงใหญ่ และตลาดสดแวงใหญ่ เมื่อวันที่ 3-9 ธันวาคม ขายของที่หน้าร้านปั๊มน้ำมันพีทีและตลาดสดแวงใหญ่ วันที่ 10 ธันวาคม เดินทางออกจากแวงใหญ่ ช่วงประมาณเที่ยงวันเดินทางไปที่ตลาดบางบอนซื้อของอาหารทะเล จากนั้นเดินทางไปที่ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ซื้ออาหารทะเลและเดินทางกลับ วันที่ 11-16 ธันวาคม ผู้ป่วยไม่ได้เดินทางออกนอกพื้นที่ วันที่ 17-18 ธันวาคม ผู้ป่วยเดินทางไปที่ อ.โกสุมพิสัย และ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ก่อนเข้ารายงานตัวกับเจ้าพนักงานในพื้นที่ และเข้ารับการตรวจคัดกรองและผลตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19”
นายสมศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า "ยังคงยืนยันว่าขอนแก่นยังไม่ได้มีการประกาศล็อคดาวน์ในพื้นที่แต่อย่างใด ยังคงสามารถเดินทางเข้า-ออก และดำเนินกิจการต่างๆ ได้ตามปกติ แต่ขอให้ทุกคนไม่ประมาทการ์ดอย่าตก ดูแลตนเองและครอบครัวอย่างใกล้ชิดและที่สำคัญขอความร่วมมือทุกคนที่เดินทางผ่าน หรือเข้าและออก จ.สมุทรสาคร เข้ารายงานตัวกับเจ้าพนักงาน และกักตัวเองเพื่อแสดงออกถึงความรับผิดชอบของสังคม ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างดี ทำให้วันนี้ขอแก่น มีผู้เข้ารายงานตัวแล้วรวม 576 ราย รอผลการตรวจ 134 ราย ยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รวม 3 ราย และเฝ้าระวัง 442 ราย
“ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น จังหวัดได้มีการตั้งจุดตรวจโควิด-19 เพิ่มขึ้นที่ อ.แวงใหญ่ และ อ.แวงน้อย และมีรายงานจากทั้ง 26 อำเภอว่าการจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก หรือการรวมตัวกันของบุคคลนั้นมีการของดการจัดกิจกรรมแล้วทั้งหมด ทั้งถนนคนเดินในเขตเทศบาลนครขอนแก่น, การจัดกิจกรรมปีใหม่ หรือการสวดมนต์ข้ามปี
“อย่างไรก็ดีสำหรับหน่วยงานใด หรือพื้นที่ใดที่กำหนดจัดกิจกรรมและมีคนจำนวนมากขอให้ขออนุญาตและเสนอแผนงานด้านสาธารณสุขให้กับเจ้าพนักงานได้ทราบ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือกระทำการที่ไม่เป็นไปตามประกาศของจังหวัดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเข้มงวดทันทีไม่มีละเว้น" นายสมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า “ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ 3 ราย แยกเป็น รายที่ 1 เพศหญิงวัย 24 ปี ซึ่งขณะนี้สู่ขั้นตอนการรักษา ที่ รพ.ขอนแก่น อาการดีขึ้นตามลำดับ รายที่ 2 เป็นหญิง อายุ 32 ปี ขณะนี้ส่งต่อการรักษามาที่ รพ.พล และ รายที่ 3 เป็นหญิง อายุ 36 ปี ขณะนี้ทำการรักษาอยู่ที่ รพ.แวงใหญ่ ซึ่งทุก รพ.นั้น มีห้องความดันลบรักษาตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งผู้ป่วยทุกรายต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 14 วัน ตามแนวทางทางการแพทย์ ซึ่ง รพ.ทุกแห่ง มีทีมแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางรักษาอยู่ รพ. ละ 3 ทีม ซึ่งเพียงพอต่อการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ขณะที่การส่งต่อตัวผู้ป่วยนั้น จะใช้ทีมแพทย์และรถรับ-ส่ง ผู้ป่วย ที่เดินทางจากส่วนกลางเพียงจุดเดียวเพื่อลดความเสี่ยงและให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด”
689 1,415