วันที่ 19 ม.ค. 2564 เวลา 14.00 น.พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร., พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ นายวศินพิศุต พุทธนิมนต์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ด่านศุลกากรหนองคาย สนธิกำลังร่วมตำรวจสืบสวน บช.ภ.2,บช.ภ.4, บก.ปอท, ฝ่ายปกครอง และศุลกากร  เข้าทำการตรวจสอบโกดังไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ริม ถ.ศรีจันทร์ บ.โนนสวรรค์ ม.6 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังสืบทราบว่า มีการใช้เป็นสถานที่ในการเก็บเครื่องเล่นพนันที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง ได้ประสานงานเจ้าของโกดังมาพบ ก่อนแสดงหมายค้นให้กับเจ้าของได้รับทราบ พร้อมทั้งเชิญฝ่ายปกครองเข้าร่วมรับทราบถึงขั้นตอนของการดำเนินงาน จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ได้ใช้คีมตัดเหล็กทำการตัดกุญแจที่ล็อคประตูด้านหน้าไว้อย่างแน่นหนา

            ซึ่งเมื่อเปิดออกไปพบว่า ภายในแบ่งแยกอาคารโกดังออกเป็น 2 จุด กำลังเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นโกดังใหญ่ ที่ตั้งอยู่ภายใน โดยใช้คีมตัดเหล็กทำการตัดประตูเหล็กที่ปิดอยู่อย่างแน่นหนาอีกชั้น และเมื่อเปิดเข้าไปพบตู้สลอต และตู้พนัน จำนวน 418 ตู้ รวมมูลค่าประมาณ 16.7 ล้านบาท วางเรียงอยู่ภายในโกดัง โดยมีการใช้ผ้าใบคลุมปิดไว้อย่างมิดชิด กำลังจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ยังคงสามารถที่จะเล่นได้ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 สนธิกำลังร่วมพนักงานสอบสวน, ฝ่ายสืบสวน และศุลกากร ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดตามขั้นตอน ขณะที่บริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะภายในตัวอาคารมีรอยรถยนต์จำนวนมาก ลักษณะเหมือนมีการเคลื่อนย้ายเข้ามาไม่นานนัก

            พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์  โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ตู้สลอตที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้วันนี้มีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ จ.ชลบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ ชุดสืบสวน บช.ภ.2 ได้ตรวจยึดตู้สลอตมาได้แล้วจำนวน 178 ตู้ ที่ จ.สระแก้ว จึงมีการควบคุมตัวคนขับรถมาสอบสวนจนได้ข้อมูลเบาะแสที่แน่ชัด ก่อนที่จะขยายผลสืบสวนร่วมทุกฝ่าย”

            “จนกระทั่งสืบทราบชัดว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวยังคงมีการเคลื่อนย้ายตู้สลอตและอุปกรณ์เล่นการพนันอีกลอตใหญ่ ใส่รถบรรทุก จำนวน 5 คัน กระจายกันมาเก็บซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งทีมสืบสวนแกะรอยจนแน่ชัดว่ารถบรรทุกทั้งหมดที่ทำเป็นรถขนส่งสินค้าทั่วไป ขับเข้ามาในพื้นที่ภาคอีสานและทยอยกันมาและมีจุดนัดหมายที่ขอนแก่น กำลังเจ้าหน้าที่จึงแบ่งสายกันตามประกบรถทุกคัน เพื่อรอการรวมตัวที่แน่ชัด”

            “ขณะเดียวกันแนวทางการสืบสวนยังคงพบว่า กลุ่มเครือข่ายนักพนัน มีการเช่าโกดังแห่งนี้ เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทำสัญญา 3 ปี จ่ายเดือนละ 50,000 บาท ซึ่งเจ้าของซึ่งเป็นชาวขอนแก่นก็ให้เช่าโดยไม่ทราบว่า คนที่มาเช่านั้นจะเก็บรักษาอะไร และเมื่อการสอบสวนพบว่า รถบรรทุกทั้ง 5 คัน เข้าเขตขอนแก่นในวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนกระทั่งช่วงเย็น รถทั้งหมดจึงเริ่มทยอยกันลำเลียงตู้สลอตเข้ามาที่โกดังจนแล้วเสร็จในช่วงค่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและการเป็นจุดสังเกตของประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นเมื่อสืบทราบแน่ชัดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอหมายค้นจากศาล จ.ขอนแก่น ทำการเข้าตรวจค้นในวันนี้จนสามารถตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าวทั้งหมด”

            “โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เมื่อมีการทดสอบตู้สลอตที่ยึดมาได้บางส่วนพบว่า ยังคงสามารถใช้งานได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเพิ่งจะมีการเคลื่อนย้ายเข้ามาในพื้นที่ และขณะนี้คนขับรถบางส่วนได้ติดต่อเข้าขอมอบตัวแล้ว โดยระบุเพียงว่าได้รับการว่าจ้างให้ขนสินค้าเท่านั้น โดยนำมาพักที่ จ.ขอนแก่น และจะมีการขนอีกครั้งไปที่ จ.อุบลราชธานี ดังนั้นจึงขอยืนยันว่า ของกลางทั้งหมดไม่ได้มีการนำมาเล่นหรือนำมาตั้งไว้ที่ จ.ขอนแก่น แต่เป็นการมาพักไว้เพื่อรอขนย้ายไปที่ จ.อุบลราชธานี ตามการระดมกวาดล้างการลักลอบเล่นการพนันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เร่งรัดติดตามจับกุมกันอย่างเข้มงวดในระยะนี้ อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวนั้น จะถูกสอบสวนและสาวไปถึงผู้ที่ว่าจ้าง รวมทั้งผู้ที่มาทำสัญญาเช่าโกดังที่ จ.ขอนแก่น เพื่อที่จะเอาผิดตามกฎหมายในคดีอาญาและการฟอกเงิน ทั้งหมดด้วย”

            “ยังคงคาดว่าของกลางที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบเล่นการพนัน ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายขบวนการดังกล่าวนี้นั้นยังคงมีอยู่อีก ซึ่งได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างรัดกุมต่อไป เพราะเชื่อว่าของกลางที่กลุ่มขบวนการเครือข่ายลักลอบเล่นการพนันดังกล่าว ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ยังคงมีอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว จะส่งมอบให้กับด่านศุลกากรหนอคาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าว

            ขณะที่ นายวศินพิศุต  พุทธนิมนต์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า “เมื่อขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้วเสร็จ ด่านศุลกากรหนองคาย จะรับช่วงต่อเพราะผิดตาม พรบ.ศุลกากรอย่างชัดเจน เพราะมีการลักลอบนำเครื่องดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะต้องรอฝ่ายพิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ทราบว่าแผงวงจรและอุปกรณ์ดังกล่าวทั้งหมดนี้มีการลักลอบนำเข้ามาจากที่ใด  เพราะจากการตรวจสอบพบว่า แผงวงจรนั้นใช้งานได้ และบางชิ้นไม่ได้ผลิตในประเทศไทย ดังนั้นขณะนี้เราไม่รู้ว่าที่มาของตู้ทั้งหมดนี้มาจากที่ใด แต่การประกอบนั้นครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งการทำงานร่วมกันระหว่างศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”