16thApril

16thApril

16thApril

 

March 20,2021

ฉัตร’ชู ๔ แก้ ๔ ก้าวเพื่อชาวเทศบาล จริงจัง‘โคราชเมืองหลวงหมูกระทะ’

“ฉัตร ก้าวหน้า” ชูนโยบาย ๔ แก้ ๔ ก้าว ขอเป็นพ่อบ้านดูแลเทศบาลฯ เน้นทำการเมืองแบบใหม่ มีความโปร่งใส เผยสถิติที่ผ่านมามีคนเลือก ๑๔,๐๐๐ คะแนน มั่นใจเป็นคน พบง่ายเรียกใช้คล่อง ชู ‘โคราชเมืองหลวงหมูกระทะ’

ตามที่ “โคราชคนอีสาน” เคยนำเสนอบทสัมภาษณ์ของผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ทั้งนายอัคคชา พรหมสูตร ผู้สมัครหมายเลข ๑ กลุ่มโคราชมหานคร และนายประเสริฐ บุญชัยสุข ผู้สมัครหมายเลข ๒ กลุ่มโคราชชาติพัฒนา โดยครั้งนี้ได้สัมภาษณ์นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัครหมายเลข ๔ กลุ่มก้าวหน้า ซึ่งเป็นผู้สมัครรายที่ ๓ ที่ยินดีเปิดเผยเหตุผลการลงสมัครและนโยบายที่นำเสนอต่อประชาชน

นโยบาย ๔ แก้ ๔ ก้าว

นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ เปิดเผยว่า “เราไม่มีการเลือกตั้งเทศบาลมา ๙ ปี ในครั้งนี้ผมก็สนใจในการเมืองท้องถิ่น และต้องการจะทำอะไรให้บ้านเกิด โดยกลุ่มก้าวหน้าได้รวบรวมนโยบายหลายเรื่องมาจัดเป็นกลุ่ม เพื่อนำเสนอให้เข้าใจง่าย และให้สอดคล้องกับหมายเลขผู้สมัครนายกเทศมนตรีของกลุ่ม คือ เบอร์ ๔ จึงเป็นนโยบาย ๔ แก้ ๔ ก้าว ออกมา โดยจะเน้นในการแก้ไขโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อดูแลเรื่องถนน น้ำประปา และทางเท้า ซึ่งกลุ่มเทศบาลก้าวหน้าจะขอเสนอตัวเป็นพ่อบ้านหรือแม่บ้าน ทุกวันนี้สังคมเมืองเปลี่ยนไปทุกวัน โคราชจึงต้องการพ่อบ้านแม่บ้านที่ใส่ใจ ทุ่มเท และดูแล แก้ที่ ๑ คือ การแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานแก้ที่ ๒ คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงซ้อน ถนนมิตรภาพปัจจุบันเป็นถนนสายหลัก ต่างจากเมื่อก่อนที่จะเป็นถนนผ่านเมือง เนื่องจากเมืองสมัยก่อนอยู่ในเขตคูเมือง แต่เมื่อเมืองเติบโตขึ้น การค้าขายหรือเศรษฐกิจในเขตเมืองก็ซบเซาลงไป และการเจริญก็กระจายออกมาอยู่รอบตัวเมืองแทน ดังนั้นจึงเสนอนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้วยแนวคิด เมืองที่สามารถเดินได้อย่างปลอดภัย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปิดถนน ทำถนนคนเดินโดยใส่คอนเทนต์ลงไป เช่น ถนนข้างวัดพายัพเลียบคูเมือง จัดเป็นถนนคนเดินให้คนในเขตเทศบาลนครฯ มาจับจองพื้นที่ค้าขาย ส่งเสริมให้คนในเมืองมาเดิน มาร่วมทำกิจกรรมด้วยกัน รวมทั้งจัดพื้นที่ให้เยาวชนได้มารวมกลุ่มแสดงความสามารถ เช่น การเต้นบีบอย เล่นกีฬา และให้โอกาสผู้สูงอายุหรือเยาวชนที่สนใจ เปิดพื้นที่เต้นลีลาศ นอกจากนี้ยังมีนโยบายปรับปรุงคูเมืองและสวนรอบคูเมือง รวมทั้งภายใน ๖ เดือน จะต้องติดตั้งไฟส่องสว่างให้เพียงพอ”

รถเมล์ไฟฟ้าแก้ปัญหารถติด

“แก้ที่ ๓ คือ การแก้ปัญหารถติด ตลอดระยะเวลา ๑๐ ปีที่ผ่านมา คนโคราชคงทราบดีว่า การจราจรติดขัดมากและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ที่ผ่านมาแทบจะไม่มีการตัดถนนใหม่เพื่อระบายการจราจรในเขตเมือง การที่จราจรติดขัดนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากบ้านเราไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ ในอีก ๕-๑๐ ปีนี้ โคราชจะเจริญอย่างก้าวกระโดด มีความเจริญต่างๆ มาจ่อรออยู่ที่หน้าบ้าน เช่น มอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูง แต่เรายังไม่มีระบบขนส่งที่มีคุณภาพคอยให้บริการนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางมาทำธุรกิจ ซึ่งตัวผมไม่ได้มองระบบขนส่งมวลชนรถรางไฟฟ้า เพราะไกลตัวเกินไป แต่ที่จะนำมาใช้คือ รถเมล์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คนโคราชสามารถผลิตและดูแลเองได้ เมื่อนำมาใช้กับแอปพลิเคชัน ก็จะสามารถบอกตำแหน่งรถและกำหนดเวลาในการเดินทางได้อย่างสะดวก หากทุกคนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนก็จะช่วยให้ลดปริมาณรถบนถนนได้ ต้นทุนในการเดินทางลดลง จากนั้นเมืองก็จะมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น ที่สำคัญรถเมล์ไฟฟ้ายังช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย และแก้ที่ ๔ คือ แก้ปัญหาทางการเมือง ทำให้มีความโปร่งใส นี่เป็นอุดมการณ์ของคณะก้าวหน้า เราต้องการทำการเมืองแบบใหม่ มีความโปร่งใส และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ผมเชื่อว่า แนวคิดนี้ทุกกลุ่มก็เห็นด้วยเช่นเดียวกัน เราคาดหวังที่จะได้เห็นคนรุ่นใหม่ๆ ใส่ใจการเมืองมากขึ้น เพราะหมดเวลาที่จะบอกว่า การเมืองเป็นเรื่องสกปรกแล้ว ซึ่งการเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัวเรา ต้องเปิดกว้างให้กับใครก็ตามที่รักบ้านเมือง ต้องการเข้ามาพัฒนาอย่างจริงจัง”

ก้าวไปสู่อนาคต

นายฉัตร กล่าวอีกว่า “ในส่วนของนโยบาย ๔ ก้าวนั้น ก้าวแรก ต้องการก้าวไปสู่ความเป็นเทศบาลมั่นคงด้านสุขภาพ เพราะเราต้องการเห็นผู้สูงอายุในเขตเทศบาลนครฯ มีสุขภาพที่มั่นคงแข็งแรง โดยนำคิวอาร์โค้ดมาติดไว้ที่ริชแบรนด์ (Wristband) เมื่ออสม.มาตรวจก็สามารถเช็คข้อมูลได้ทันที จัดให้มีการพบหมอออนไลน์ เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล และเพิ่มศูนย์แพทย์ชุมชนที่มีประสิทธิภาพให้มากขึ้น ก้าวที่ ๒ ก้าวสู่ความเท่าเทียมกันทางเทคโนโลยีนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามามีส่วนในการบริหารงานเทศบาลนครฯ ประชาชนสามารถจ่ายค่าน้ำค่าไฟผ่านแอปพลิเคชันได้ จากนั้นพัฒนาต่อให้สามารถใช้ได้กับทุกหน่วยงาน นอกจากนี้เรื่องง่ายๆ แต่มีคนร้องเรียนมาก เช่น ไฟส่องสว่างดับ ต่อไปก็ทำรหัสติดไว้ที่เสาไฟฟ้าเมื่อหลอดต้นไหนดับก็สามารถแจ้งรหัสผ่านระบบออนไลน์ เจ้าหน้าที่ก็จะรู้ได้ทันทีว่า เสาไฟต้นไหนดับ ต้นไหนมีปัญหา จะได้ไม่ต้องโทรเข้ามาที่สำนักงานแล้วไม่มีคนรับสาย”

“ก้าวที่ ๓ ก้าวสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต เยาวชนเราไม่ได้เน้นในการเป็นเลิศด้านวิชาการ แต่ควรเพิ่มเติมสิ่งที่ควรจะเรียนรู้ สอนเกี่ยวกับเรื่องตรรกะและความคิด สอนเกี่ยวกับเรื่องไฟแนนซ์ ควรจะรู้ตั้งแต่เด็กๆ จะได้รู้จักการเก็บเงินหรือออมเงิน เรียนรู้เกี่ยวกับ E-commerce เยาวชนจะได้รู้จักช่องทางการหาเงินหรือมีรายได้ นอกจากนี้เยาวชนนอกระบบที่ไม่ได้เข้าโรงเรียนก็ควรได้รับการเรียนรู้ด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนตลอดเวลา เยาวชนและประชาชนจะต้องไล่ตามให้ทัน ในการลงพื้นที่หาเสียง มีพ่อค้าแม่ค้าให้แนวคิดมาว่า เทศบาลฯ ควรจะทำสตูดิโอขายสินค้า ซึ่งเปิดให้พ่อค้าแม่ค้าที่สนใจขายของออนไลน์มาใช้งาน และเราก็จะมีแพลตฟอร์มให้บริการด้วย และก้าวที่ ๔ ก้าวสู่เศรษฐกิจยุคดิจิทัล นำนโยบายที่กล่าวมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน หลายคนรู้จักเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่ยังมีคนอีกกลุ่มที่เขาไม่รู้จัก และเทคโนโลยียังจะเปลี่ยนไปอีกมาก ดังนั้นเทศบาลก้าวหน้าจะเสนอให้ประชาชนก้าวไปพร้อมกัน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการกำหนดอนาคตใน ๔ ปีข้างหน้า ทั้งหมดนี้คือโครงการเบื้องต้น ๔ แก้ ๔ ก้าว” นายฉัตร กล่าว

ถนนพังต้องรีบแก้ไข

เมื่อถามว่า “จะแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ถนน น้ำประปา และเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างไร” นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ เปิดเผยว่า “ขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบเรื่องถนนในเมืองอย่างมาก ทำได้เพียงรอการเยียวยา ส่วนไหนที่ทำเสร็จแล้วเทศบาลฯ ต้องเข้าไปเร่งแก้ไขให้ถนนกลับมาเรียบอีกครั้ง ซึ่งทุกคนทราบดีว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แต่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะต้องกำชับผู้รับเหมาว่า จุดไหนขุดหรือเจาะ ควรจะเร่งคืนพื้นผิวถนนให้ดี ให้เรียบ อย่าปล่อยไว้เป็นหลุมเป็นบ่อเช่นนี้ เทศบาลฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็ต้องไปติดตามความเรียบร้อยด้วย ผู้รับเหมาทำแล้วดีหรือไม่ ประชาชนพอใจแล้วหรือยัง และในส่วนที่ยังไม่เริ่มก่อสร้าง ให้รีบแจ้งคนในพื้นที่ทราบถึงการทำงานและระยะเวลา ซึ่งทุกคนทราบดีว่า โครงการนี้ทำให้เมืองเจริญก้าวหน้า แต่ก่อนจะก้าวไปถึงจุดนั้น คนที่เจ็บปวดคือ ประชาชนในพื้นที่”

น้ำประปาแก้ทีละนิด

“ในส่วนของปัญหาน้ำประปา ปัจจุบันเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีการใช้น้ำเพิ่มมากขึ้น ทำให้ท่อประปาที่ทำไว้ในอดีตรองรับการใช้น้ำไม่ได้ เทศบาลฯ จึงเริ่มมีการเปลี่ยนท่อไปแล้วบางส่วน ซึ่งในขณะขุดหรือเปลี่ยนท่อ บางครั้งก็อาจจะไปกระแทกกับท่อเก่า ทำให้ท่อแตกและน้ำก็รั่วออกมา บางครั้งจุดที่แตกก็รับเอาดินหรือฝุ่นไปด้วย ทำให้น้ำประปาขุ่น หากเทศบาลฯ จะแก้ไขด้วยการเปลี่ยนท่อทั่วเมืองเป็นแบบ HDPE คิดว่า คงทำครั้งเดียวไม่ได้ หากทำก็จะเหมือนกับการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน จะเกิดการก่อสร้างทั่วเมือง รวมทั้งการเปลี่ยนท่อทั้งเมือง ต้องใช้งบประมาณเกือบ ๔ พันล้าน ซึ่งเทศบาลมีไม่พอแน่นอน ดังนั้น จึงจะค่อยๆ ทำ ทำไปทีละจุด ทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ไปกระทบกับท่อเก่า ใช้วิธีนี้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน”

ตั้งใจแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

“การทำให้เศรษฐกิจคึกคักเป็นความตั้งใจของผม และทำแน่นอน แต่การส่งเสริม สนับสนุน ให้คนเมืองอยู่ดีกินดีต้องทำควบคู่กันไปด้วย ซึ่งการส่งเสริมเศรษฐกิจ เราเตรียมกิจกรรม งานเทศกาล และการเพิ่มองค์ความรู้ให้กับธุรกิจการค้า ผู้ประกอบการบางรายที่มีองค์ความรู้ที่ดีก็จะสามารถรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจและก้าวกระโดดไปได้ แต่ถ้าผู้ประกอบการยังมองแบบเดิมหรือทำแบบเดิม อาจจะสูญเสียรายได้ไปในยุคนี้ โดยเทศบาลฯ จะคอยสนับสนุน ให้ความรู้ ส่งเสริม และสนับสนุนในการจัดงานหรือกิจกรรม” นายฉัตร กล่าว

แข่งกับตัวเอง

โคราชคนอีสาน ถามอีกว่า “คิดว่าผู้สมัครนายกเทศมนตรีคนใด คือ คู่แข่ง” นายฉัตร ตอบว่า คู่แข่งของผม คือ ตัวผมเอง ทุกวันนี้ผมตั้งใจว่า ในหนึ่งวันต้องเดินหาเสียงให้ครบทั้ง ๔ เขต และพยายามใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด แต่ในช่วงกลางวันก็อาจจะได้พบกับประชาชนน้อย เพราะหลายคนต้องไปทำงาน แต่ก็พยายามปรับเปลี่ยนวิธีการหาเสียงต่อไป ซึ่งในการหาเสียงทุกครั้ง จะจดรายชื่อไว้ว่า ชุมชนนี้ไปมาหรือยัง กลุ่มนักธุรกิจกลุ่มนั้นได้พบหรือยัง หรือเจอแค่คนเดียวผมก็ยินดีที่จะหยุดเล่านโยบายให้ฟัง ซึ่งขณะนี้การหาเสียงน่าจะเกินครึ่งทางมาแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกมากตามที่ตั้งใจไว้ หากทำได้ครบตามเวลาก็ต้องการจะไปหาเสียงซ้ำหรือไปพูดคุยอีกรอบในพื้นที่ต่างๆ ส่วนการปราศรัยใหญ่นั้น ผมคิดว่า จะต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพราะปัจจุบันมีทั้งภาวะโรคระบาด การเดินทาง และค่าใช้จ่าย หากถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกคน และยังพูดคุยหรือตอบโต้กันได้อีกด้วย”

กลุ่มก้าวหน้าไม่มีนายทุน

“ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ต้องสร้างความสามัคคีในทีม เพราะเดิมผมเป็นผู้สมัครสมาชิกเทศบาล แต่ครั้งนี้เป็นหัวหน้าทีม จึงต้องรับหน้าที่ในการตั้งโจทย์ในการมอบหมายภารกิจว่า วันนี้ทำอะไร หารายละเอียดในแต่ละเขต แต่ละชุมชน จากนั้นจึงนำข้อมูลมารวมกัน และศึกษาปัญหาในแต่ละพื้นที่ ผมก็จะลงพื้นที่ไปกับแต่ละเขต ช่วงเช้าอาจจะเขตหนึ่ง ช่วงบ่ายอาจจะไปกับอีกเขต ทำงานให้ประสานกันอย่างตรงไปตรงมา โดยการเลือกลูกทีมเข้ามาครั้งนี้ เรามีอุดมการณ์ ๔ ข้อ คือ ๑.ขอให้เป็นคนที่รักประชาธิปไตย ๒.ทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่ใช้อิทธิพลข่มขู่คุกคาม ๓.หากชนะการเลือกตั้งเข้าไปแล้ว จะต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ทุจริตคอร์รัปชัน และจะต้องดำเนินการรัฐเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนรับรู้ความโปร่งใส และ ๔.เป็นคนที่ตระหนักถึงความเสมอภาคและเท่าเทียม ให้ความเคารพในความแตกต่างในเรื่องความเชื่อ รูปลักษณ์ ความคิดเห็น ศาสนา ชาติพันธุ์ เพศสภาพ และไม่เป็นคนแสดงอำนาจต่อประชาชน สำหรับค่าใช้จ่ายในการหาเสียง เราไม่มีกลุ่มนายทุนหนุนหลัง ค่าสมัครทุกคนต้องจ่ายเอง ป้ายหาเสียงก็ใช้วิธีลงขัน ที่สำคัญเราไม่ทำธุรกิจการเมือง ในที่สุดก็ได้ผู้สมัครสมาชิกมาทั้งหมด ๒๔ คน” นายฉัตร กล่าว

โคราชเมืองหลวงหมูกระทะ

เมื่อถามว่า “นโยบายโคราชเมืองหลวงหมูกระทะเป็นการหาเสียงแบบจริงจังหรือเล่นๆ” นายฉัตร เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารแล้วทำได้จริง ซึ่งโคราชมีพี่ใหญ่เป็นผัดหมี่โคราช รองลงมาคือขนมจีนประโดก หากจะมีหมูกระทะอีกสักเมนูจะเป็นอะไรไป เมื่อมีกระแสเผยแพร่ออกไป ถือว่า เราสื่อสารสำเร็จ และสามารถดึงความทรงจำของทุกคน ที่เคยกินหมูกระทะตั้งแต่เด็ก เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ทุกคนเคยกินจริง รวมทั้งเรื่องนี้ยังเป็นการสื่อสารถึงสภาพเศรษฐกิจได้ด้วย การทำนโยบายนี้อาจจะมีหลายคนสงสัยว่า ทำเล่นหรือไม่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกคนอ่านแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ต่อไปใครผ่านไปผ่านมาโคราช ปกติก็จะกินแต่ผัดหมี่หรือขนมจีน ต่อไปก็มากินหมูกระทะอีกเมนู ทำให้มีจุดเด่น มีจุดขาย และอร่อยไม่เหมือนใคร โดยนโยบายหลักเราคือ ๔ แก้ และ ๔ ก้าว ซึ่งก็มีนโยบายย่อยออกมาอีกมาก เช่น นโยบายโคราชเมืองหลวงหมูกระทะ เป็นนโยบายที่ฉีกออกมาเพื่อแก้ไขให้ตรงจุด”

ต้องทำการบ้านมากขึ้น

ต่อข้อถามว่า “มีความคาดหวังอย่างไรกับการเลือกตั้งครั้งนี้” นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ตอบว่า เราต้องพิสูจน์กับคนรุ่นใหม่ในสนามเลือกตั้งเทศบาล ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะมีความชื่นชมและชื่นชอบ แต่เขาจะดูว่าเรามีนโยบายอะไร มีอะไรไปนำเสนอ ไม่ใช่ว่าเห็นคนนั้นคนนี้แล้วจะชอบทันที ที่สำคัญคนกลุ่มนี้เวลาสนใจนโยบายอะไร จะสอบถามเข้ามาทันที และเราก็ต้องตอบเขาให้ได้เช่นกัน ซึ่งจากสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทั้งการเลือกตั้งใหญ่และการเลือกตั้ง อบจ. ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีคะแนนที่เลือกคณะก้าวหน้าประมาณ ๑๔,๐๐๐ คะแนน ซึ่งทีมอื่นก็มีคะแนนนิยมชมชอบเช่นกัน ทำให้เราต้องทำการบ้านมากขึ้น อธิบายและแสดงนโยบายให้เข้าใจกับทุกกลุ่ม เชื่อว่า ถ้าสื่อสารมากขึ้นก็อาจจะทำให้ได้คะแนนเพิ่มเติมมากขึ้น”

นายฉัตร กล่าวท้ายสุด ว่า “ในการเลือกตั้งเทศบาล ทุกคนห่างหายกันไปประมาณ ๙ ปี ครั้งนี้เป็นโอกาสอีกครั้งหนึ่งที่จะเลือกคนเข้ามาบริหาร ผมมีความมั่นใจและมีความตั้งใจในประสบการณ์ทางความคิด การบริหารธุรกิจ ซึ่งทีมสมาชิกทุกคนก็มีความสามารถที่หลากหลาย นโยบายของเราเป็นไปได้ภายใน ๔ ปี และอยู่ในกรอบงบประมาณที่จำกัด ผมพร้อมที่จะประสานงานกับทุกหน่วยงาน เพื่อสร้างความเจริญให้กับโคราชบ้านของทุกคน ขอเสนอกลุ่มคนรุ่นใหม่ พลังใหม่ และมีความตั้งใจเข้ามาดูแลโคราช การเลือกตั้งครั้งนี้ เลือกอนาคตของทุกคน ขอให้เชื่อใจมั่นใจ และก้าวไปอนาคตด้วยกัน ไว้ใจเทศบาลก้าวหน้า พบง่ายเรียกใช้คล่อง พร้อมรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถ”

  นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ อายุ ๔๗ ปี จบการศึกษาจากโรงเรียนมารีย์วิทยา โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จบปริญญาตรีหลักสูตรบริหารการขนส่งระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยเป็นอดีตรองประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา และส.ท.กลุ่มประสานมิตร เคยลงสมัคร ส.อบจ.อำเภอเมือง เขต ๑ คณะก้าวหน้า เคยเป็นผู้อำนวยการสถาบัน SMEs มทร.อีสาน และผู้จัดการทั่วไป บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๗๐ วันพุธที่ ๑๐ - วันอังคารที่ ๑๖ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔

 

989 1377