สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน ๒๕๖๔ เติบโตทะลุ ๙๐% ทุกตลาด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น ๕๘,๑๓๒ คัน เพิ่มขึ้น ๙๓.๑% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง ๑๖,๙๘๘ คัน เพิ่มขึ้น ๙๒.๔% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ๔๑,๑๔๔ คัน เพิ่มขึ้น ๙๓.๑% ขณะที่ รถกระบะขนาด ๑ ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน ๓๒,๖๐๕ คัน เพิ่มขึ้น ๙๔.๙%

 เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนเมษายน ๒๕๖๔ ว่า ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน ๒๕๖๔ เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๒ มีปริมาณการขาย ๕๘,๑๓๒ คัน เพิ่มขึ้น๙๓.๑% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น  ๙๒.๔% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ๙๓.๑% โดยได้รับปัจจัยบวกจากข้อเสนอพิเศษ และกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีการแข่งขันกันกันอย่างรุนแรงในช่วงงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ ๔๒ ที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อลูกค้าในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่อยู่ในความสนใจ และมีความต้องการในการใช้งาน โดยยอดจองในงานดังกล่าว รวมทั้งที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ทั่วประเทศกำลังทยอยส่งมอบถึงมือลูกค้า

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด

ในขณะที่ตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมมีแนวโน้มชะลอตัว สืบเนื่องจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ระลอก ๓ มีความรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลด้านลบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีจากความพยายามของภาครัฐ โดยกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การสนับสนุนเป็นอย่างดีจากองค์กรเอกชนทุกภาคส่วน ผนึกกำลังในการร่วมคลี่คลายสถานการณ์ ทำให้ยังพอมองเห็นทางออกในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีโอกาสกลับมาได้ในไตรมาสที่ ๓ ของปีนี้ หลังจากการดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้รับการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนเมษายน ๒๕๖๔ ในส่วนของตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย ๕๘,๑๓๒ คัน เพิ่มขึ้น ๙๓.๑% โดยอันดับที่ ๑ โตโยต้า ๑๙,๑๕๐ คัน เพิ่มขึ้น ๗๒.๘% ส่วนแบ่งตลาด ๓๒.๙%, อันดับที่ ๒ อีซูซุ ๑๔,๙๕๓ คัน เพิ่มขึ้น ๑๑๗.๘% ส่วนแบ่งตลาด ๒๕.๗% และอันดับที่ ๓ ฮอนด้า ๕,๔๑๙ คัน เพิ่มขึ้น ๑๐๔.๖% ส่วนแบ่งตลาด ๙.๓%

ในขณะที่ตลาดรถยนต์นั่ง ในเดือนเมษายนมีปริมาณการขาย ๑๖,๙๘๘ คัน เพิ่มขึ้น ๙๒.๔% โดยอันดับที่ ๑ โตโยต้า ๔,๙๕๖ คัน เพิ่มขึ้น ๗๐.๕% ส่วนแบ่งตลาด ๒๙.๒%, อันดับที่ ๒ ฮอนด้า ๔,๔๓๗ คัน เพิ่มขึ้น ๙๙.๑% ส่วนแบ่งตลาด ๒๖.๑%, อันดับที่ ๓ มาสด้า ๒,๒๙๖ คัน เพิ่มขึ้น ๑๑๔.๒% ส่วนแบ่งตลาด ๑๓.๕% สำหรับตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ มีปริมาณการขาย ๔๑,๑๔๔ คัน เพิ่มขึ้น ๙๓.๑%อันดับที่ ๑ อีซูซุ ๑๔,๙๕๓ คัน เพิ่มขึ้น ๑๑๗.๘% ส่วนแบ่งตลาด ๓๖.๓%, อันดับที่ ๒ โตโยต้า ๑๔,๑๙๔ คัน เพิ่มขึ้น ๗๓.๖% ส่วนแบ่งตลาด ๓๔.๕% และอันดับที่ ๓ ฟอร์ด ๒,๗๗๗ คัน เพิ่มขึ้น ๑๓๐.๕% ส่วนแบ่งตลาด ๖.๗%

ทางด้านตลาดรถกระบะขนาด ๑ ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย ๓๒,๖๐๕ คัน เพิ่มขึ้น ๙๔.๙% อันดับที่ ๑ อีซูซุ ๑๓,๖๕๕ คัน เพิ่มขึ้น ๑๑๗.๙% ส่วนแบ่งตลาด ๔๑.๙%, อันดับที่ ๒ โตโยต้า ๑๒,๔๓๒ คัน เพิ่มขึ้น ๗๗.๑% ส่วนแบ่งตลาด ๓๘.๑% และอันดับที่ ๓ ฟอร์ด ๒,๗๗๗ คัน เพิ่มขึ้น ๑๓๐.๕% ส่วนแบ่งตลาด ๘.๕% (ส่วน PPV ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด ๑ ตัน) ๕,๑๔๗ คัน แยกเป็นโตโยต้า ๒,๐๑๕ คัน, อีซูซุ ๑,๙๓๐ คัน, มิตซูบิชิ ๖๖๑ คัน, ฟอร์ด ๕๐๖ คัน  และนิสสัน ๓๕ คัน

ส่วนตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย ๒๗,๔๕๘ คัน เพิ่มขึ้น ๘๑.๑% อันดับที่ ๑ อีซูซุ ๑๑,๗๒๕ คัน เพิ่มขึ้น ๙๗.๒% ส่วนแบ่งตลาด ๔๒.๗%, อันดับที่ ๒ โตโยต้า ๑๐,๔๑๗ คัน เพิ่มขึ้น ๖๖.๒% ส่วนแบ่งตลาด ๓๗.๙% และอันดับที่ ๓ ฟอร์ด ๒,๒๗๑ คัน เพิ่มขึ้น ๑๒๘.๕% ส่วนแบ่งตลาด ๘.๓%

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๘๑ วันพุธที่ ๒ - วันอังคารที่ ๘ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔