19thSeptember

19thSeptember

19thSeptember

 

July 08,2021

โคราชอ่วม’ผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด ‘รพ.มหาราช’หวั่นวิกฤตเตียงเต็ม เปิด‘รพ.สนามรอบ ๒’

โคราชพบผู้ติดเชื้อโควิด-๑๙ พุ่งต่อเนื่อง คลัสเตอร์ใหญ่ยังระบาดไม่หยุด ติดเชื้อสะสมเกือบ ๒ พัน สสจ.ถามมาตรการที่ใช้อยู่เพียงพอหรือยัง ด้านโรงพยาบาลมหาราชฯ ใกล้วิกฤต หวั่นผู้ป่วยไม่มีเตียงเหมือนในกรุงเทพฯ ต้องเปิดโรงพยาบาลสนามรอบ ๒ ‘ผู้ว่ากอบชัย’เตรียมเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม

สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) ระลอกที่ ๓ ในจังหวัดนครราชสีมา มีการระบาดตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๖๔ ซึ่งสถานการณ์ช่วงหนึ่งเริ่มดีขึ้น แต่หลังจากพบคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้สถานการณ์เริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้ง โดยมีการประชุมรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์

ความคืบหน้าในวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ โดยมี นพ.วิชาญ คิดเห็น รองนายแพทย์ สสจ.นครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

นพ.วิชาญ คิดเห็น เปิดเผยว่า “สถานการณ์ในโคราชขณะนี้ ทุกอำเภอกำลังเผชิญกับภาวการณ์ระบาด เป็นพื้นที่สีแดงเกือบทั้งจังหวัด เหลืออำเภอเมืองยางเพียงอำเภอเดียวที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ ตั้งแต่มีการระบาดระลอกที่ ๓ ซึ่งวันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ ๔๒ ราย ผมเห็นตัวเลขก็รู้สึกไม่สบายใจ หากติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่แรก แล้วตั้งคำถามว่า การระบาดช่วงนี้จะเป็นอย่างไร คำตอบ คือ เราต้องดูที่ต้นตอของปัญหา โดยในช่วงต้นเดือนเมษายน เป็นการระบาดจากผับในย่านทองหล่อ จากนั้นผู้ป่วยก็เดินทางกลับมาโคราช เพราะกรุงเทพฯ มีคำสั่งปิดสถานบันเทิง อย่าลืมว่า การระบาดของสถานบันเทิง ทำให้โคราชมีผู้ติดเชื้อสะสมถึง ๑,๐๐๐ ราย แต่ในการระบาดช่วงหลัง เป็นการกระจายมาจากพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ด้วยสาเหตุการปิดแคมป์คนงาน ซึ่งการระบาดช่วงนี้จะรุนแรงกว่าช่วงแรก ดังนั้นมาตรการที่โคราชมีอยู่ จะต้องมาคิดว่า มาตรการเพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อสะสมถึง ๒,๐๐๐ ได้หรือไม่ แต่ในระดับประเทศ เขาสรุปไว้แล้วว่า มาตรการที่เราใช้อยู่นั้นไม่เพียงพอ เพราะในขณะมีมาตรการ ก็ยังทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้ทุกวัน คำว่าไม่เพียงพอไม่ใช่แปลว่า ไม่ดี แต่อาจจะจัดกัดด้านพละกำลัง ส่วนสถานการณ์การฉีดวัคซีนวันนี้ เข็มที่ ๑ ฉีดไปแล้ว ๑๗๖,๐๕๒ ราย เข็มที่ ๒ ฉีดไปแล้ว ๑๐๗,๘๔๔ ราย โดยตั้งเป้าไว้ ๒,๑๑๖,๗๐๐ ราย ซึ่งในเดือนกรกฎาคม วัคซีนจะทยอยมาเพิ่มอีก โคราชอาจจะได้รับวัคซีนเพิ่มอีกประมาณไม่ต่ำกว่า ๑๐๐,๐๐๐ โดส”

เตรียมรับสถานการณ์แย่ที่สุด

นพ.วิชาญ คิดเห็น กล่าวอีกว่า “ข้อแนะนำจากผม สำหรับการรับข้อมูลคลัสเตอร์ต่างๆ ขอให้นำไประวังและพิจารณา แต่สถานการณ์ขณะนี้ทุกที่ คือ จุดเสี่ยง ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดวางเอาไว้ ซึ่งหากดูจากตัวเลขวันนี้ นี่เป็นสถานการณ์ที่แย่ที่สุดเท่าที่เผชิญมา แล้วจะแย่กว่านี้หรือไม่ก็อยู่ที่ว่า ทุกคนจะช่วยกันอย่างไร นาทีนี้เราต้องช่วยกัน ถ้าเป็นประชาชนทั่วไป ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าให้ติดเชื้อ รวมถึงช่วยป้องกันบุตรหลานด้วย ไปไหนมาไหนก็ขอให้ล้างมือบ่อยๆ และอย่าอยู๋ในสถานที่นั้นนานเกินไป แต่คนทำมาหากินก็เข้าใจ ดังนั้น ขอให้ป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ และขอให้เตรียมตัวรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุด หากผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกมาก ก็อาจจะต้องเพิ่มมาตรการขึ้นด้วย เหมือนสมัยที่นายวิเชียร จันทรโณทัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ขณะนั้นมีประกาศเคอร์ฟิวจังหวัด ห้ามออกนอกเคหะสถาน หากสถานการณ์แย่ลงเรื่อยๆ ก็ขอให้เตรียมรับมือเอาไว้ ในส่วนของข้าราชการ ขอให้ช่วยระดมกำลังมาสู้โควิด และช่วยสอดส่องประชาชนที่เดินทางกลับมาโคราช บางคนเขาก็ดี มาถึงก็แจ้งเจ้าหน้าที่ แต่บางคนอาจจะไม่แจ้ง และอย่าลืมว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งที่อยู่ใต้เส้นความลำบาก บางทีข้าวอาจจะไม่พอกิน เมื่อพ่อกลับมาอาจจะต้องถูกกักตัว ลูกก็ไม่มีคนดูแล เรื่องนี้ขอให้ท้องถิ่นช่วยดูแล และในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ เราเข้าใจว่าทุกคนเหนื่อย เราจะคอยรับฟังทุกคำติติงและคำเสนอแนะของทุกคน ผู้บริหารก็กำลังช่วยอย่างเต็มที่ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ทำงานตามอัตรากำลังที่มี และพยายามหาทรัพยากรให้ทุกคนทำงานได้อย่างเต็มที่”

รพ.มหาราชฯ ใกล้วิกฤต

นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า “สถานการณ์ของโรงพยาบาลมหาราชฯ เมื่อวานมีคนไข้ ๑๑๗ ราย และรับมาเพิ่ม ๒๑ ราย แต่จำหน่ายออกแค่ ๒ ราย รวมแล้วยังรักษาอยู่ ๑๓๖ ราย จำนวนเตียงที่ว่างของผู้ใหญ่ ๙ เตียง ซึ่งมีไว้สำหรับดูแลเคสอาการหนัก ๓ เตียง ทุกๆ ๑๐ ราย จะมีผู้ป่วยอาการหนัก ๑ ราย สิ่งที่จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบ คือ จำนวนผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้น แต่จำนวนเตียงเราเหลือน้อยลง สถานการณ์ของ รพ.มหาราชฯ เริ่มจะคล้ายกับกรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งผู้ป่วยอาการปกติ หรือไม่มีอาการ ทั้งจังหวัดยังสามารถช่วยกันได้ แต่ผู้ป่วยอาการหนัก ต้องใส่ท่อช่วยหายใจนั้นยังยากอยู่”

“ส่วนผู้ป่วยอาการปกติ เราให้รักษาตัวในห้องพิเศษ อาคารไฟฟ้าฯ จำนวน ๓ ชั้น ชั้นที่ ๗ ๘ และ ๙ เมื่อวันก่อนเราปรับโดยการนำเตียงออก แล้วให้นอนบนฟูก ๒ คนต่อ ๑ ห้อง แต่วันนี้ต้องปรับอีกครั้ง เป็น ๓ คนต่อ ๑ ห้อง เพราะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และเนื่องจากขณะนี้มีการเดินทางกลับของคนไข้หลายราย เรารับสายโทรศัพท์ เขาบอกว่า อยู่กรุงเทพฯ หาเตียงไม่ได้ กลับไปตายที่บ้านดีกว่า และเมื่อวานมีเคสของจังหวัดบึงกาฬ แต่มาหอบเหนื่อยที่อำเภอโนนสูง สุดท้ายก็ต้องมานอนที่ รพ.มหาราชฯ ผมเชื่อว่า เราจะเจอแบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ดังนั้น รพ.มหาราชฯ จะเร่งปรับปรุงอาคารเฉลิมพระเกียรติชั้น ๑ ให้เร็วขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะใช้งานได้ เพื่อรองรับผู้ป่วยอาการหนัก ซึ่งผู้ป่วยอาการเล็กน้อยนั้น ทั้งจังหวัดยังช่วยกันได้ แต่เคสอาการหนักหากตัวเลขยังเป็นแบบนี้เรื่อยๆ ผมเชื่อว่า เราจะเป็นเหมือนกรุงเทพฯ” นพ.เจษฎ์ กล่าว

คลัสเตอร์สำคัญในโคราช

นางสาวทิพวรรณ ศรีทรมาศ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ สสจ.นครราชสีมา ในฐานะนักระบาดวิทยา รายงานสถานการณ์คลัสเตอร์สำคัญ ว่า วันนี้มีคลัสเตอร์ต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น เริ่มจากคลัสเตอร์อำเภอเสิงสาง มีการระบาดในวงที่จำกัดแล้ว แต่ยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เนื่องจากพ่อไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนที่เป็นโควิด เมื่อกลับบ้านก็นำเชื้อมาติดลูกที่เรียนอยู่โรงเรียนสกุลจิตร ขณะนี้การระบาดกระจาย ๓ วง และอยู่ในการควบคุมของอำเภอเสิงสางแล้ว

คลัสเตอร์ครอบครัว อำเภอปากช่อง เริ่มจากรายแรกเดินทางไปขายผักที่ตลาดพวงทอง (สระบุรี) จากนั้นวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๔ ตลาดพวงทองประกาศปิดพื้นที่ เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อ ซึ่งครอบครัวนี้จึงไปตรวจหาเชื้อที่อำเภอปากช่อง ผลปรากฏว่า พบเชื้อ ๖ คน ทั้งพ่อ แม่ ลูก และหลาน และยังนำมาติดเชื้อให้กับลูกจ้าง ซึ่งเป็นคนดูแลผักและสวนด้วย ๑ คน ซึ่งขณะนี้พบการระบาด ๒ วง ยังไม่พบการกระจายเพิ่มขึ้น

คลัสเตอร์งานก่อสร้างใน City Link และโรงพยาบาลมหาราชฯ กลุ่มนี้มีคนงานพักด้วยกันทั้งหมด ๑๙ คน ซึ่งเทศบาลนครนครราชสีมา สอบสวนโรคและกักตัวไว้แล้ว ขณะนี้พบเพิ่มขึ้นอีก ๕ ราย เป็นคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ทั้งหมด และทำให้คนที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลมหาราชฯ ติดเพิ่มอีก ๔ คน รวมคลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด ๑๔ ราย มี ๑ ราย ไปรักษาตัวที่จังหวัดขอนแก่น และยังรอผลตรวจอีก ๔ คน คาดว่า อาจจะติดทั้ง ๔ คน และคลัสเตอร์นี้อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลมหาราชฯ จึงไม่มีการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ที่อื่นๆ

คลัสเตอร์พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต ๓ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะนี้พบเพียงผู้ป่วยรายแรก เพราะยังอยู่ในระยะการสอบสวนโรค โดยรายที่ ๑๒๔๐ ทำงานที่ กฟฉ.๓ เป็นวิศวกร ทำให้ต้องเดินทางไปควบคุมงานในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และกรุงเทพฯ จากนั้นวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ ที่การไฟฟ้าฯ อำเภอโนนสูง จัดประชุมและศึกษาดูงาน ซึ่งมีผู้ป่วยจากไซด์งานก่อสร้างการไฟฟ้าอำเภอเสิงสางมาร่วมงาน จึงอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า มีการติดเชื้ออย่างไร เบื้องต้นทั้งคู่นั่งติดกัน และรับประทานอาหารร่วมกัน ขณะนี้กำลังติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งเรื่องนี้อยู่ในกระแสข่าวว่า การไฟฟ้าฯ มีผู้ติดเชื้อ เบื้องต้นติดเชื้อที่การไฟฟ้าฯ ๑ ราย และที่ไซด์งานก่อสร้าง อำเภอเสิงสาง ๑ ราย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและกักตัวไม่ให้ออกนอกพื้นที่แล้ว

พบเชื้อในงานศพ

คลัสเตอร์งานศพ วัดสำโรง อำเภอโนนไทย โดยมีคนจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางเข้ามาโคราช คือรายที่ ๑๐๘๒ ซึ่งรายนี้ เพื่อนของลูกเดินทางมาหาที่บ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเพื่อนลูกเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร จากนั้นวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๔ ทราบข่าวว่า มีญาติเสียชีวิตที่อำเภอโนนไทย จึงเดินทางกลับมาโคราช เมื่อมาถึงก็รายงานตัวตามระเบียบ และเข้าร่วมงานศพ แต่เขาเป็นคนที่ไม่ชอบสวมหน้ากากอนามัย มีการพูดคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง คือ รายที่ ๑๒๐๔ ซึ่งรายที่ ๑๒๐๔ มีบ้านอยู่แถวเซฟวัน ทั้งคู่คุยกันประมาณ ๑๐ นาที จึงทำให้เพื่อนติดเชื้อไปด้วย และยังแพร่เชื้อไปยังคนในครอบครัวอีก ๒ คน นอกจากนี้ รายที่ ๑๒๐๔ ยังช่วยในงานศพเป็นประจำ โดยจะรับประทานอาหารในโรงอาหาร ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ตำบลสำโรง อำเภอโนนไทย อีก ๓ ราย แต่ ๓ รายนี้ ไม่รู้จักและไม่ได้พูดคุยกับรายที่ ๑๒๐๔ ทั้งนี้ อำเภอโนนไทยได้นำตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน ๙๑ คนไปตรวจหาเชื้อแล้ว

โรงงานเสี่ยง

คลัสเตอร์ตำบลตะเคียน อำเภอด่านขุนทด มีคนจากกรุงเทพฯ เดินทางมาหาครอบครัว จึงทำให้พ่อและแม่ป่วยติดเชื้อ และมีลูกสะใภ้ทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอสีคิ้ว ซึ่งโรงงานเมื่อทราบว่า มีผู้ป่วยรายแรกก็ปิดโรงงานทันที จากนั้นก็มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก ๓ ราย แต่อยู่คนละแผนก โรงงานจึงปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๓๐ มิถุนายน ถึง ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และดำเนินการร่วมกับอำเภอสีคิ้วในการค้นหาผู้ติดเชื้อเพิ่ม ซึ่งรวมแล้วโรงงานนี้มีผ้ติดเชื้อ ๔ คน โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ๒ ราย เป็นคนจากกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งพบจากการค้นหาเชิงรุกของอำเภอสีคิ้ว ในส่วนของโรงงานก็ได้แจ้งมาว่า หากคณะกรรมการโรคติดต่อฯ มีมติอย่างไร เขาก็พร้อมที่จะทำตาม โดยเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดโรงงานและปิดโรงงานแล้ว ดังนั้น ขณะนี้ยังอยู่นะหว่างติดตามการค้นหาเชิงรุก ยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาอย่างไร เพราะยังได้รับผลไม่ครบ แต่ผลที่ออกมาแล้วก็ยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่มแต่อย่างไร

จริงจังอย่างรอบแรก

นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า “วันนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม ๔๒ ราย ครึ่งหนึ่งเป็นคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ๒๑ ราย และสัมผัสจากผู้ติดเชื้ออีก ๑๗ ราย ตัวเลขเหล่านี้บอกเราว่า หากใครที่มาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วรายการตัวตามระเบียบ โอกาสที่จะนำเชื้อไปแพร่กระจายในพื้นที่ต่างๆ ก็จะน้อยลง ดังนั้น จังหวัดจึงเน้นย้ำให้ทุกอำเภอจัดตั้ง LQ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกคนก็ทราบกันดีว่า สาเหตุการติดเชื้อครั้งนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากคนที่เดินทางจากกรุงเทพฯ และพื้นที่เสี่ยงต่างๆ หากควบคุมคนกลุ่มนี้ได้ การติดเชื้อก็จะลดน้อยลง นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากคนในครอบครัวแพร่สู่กันเอง หากพบคนจากกลุ่มเสี่ยงแล้วไม่กักตัวหรือกักตัวแบบไม่แยกจากครอบครัว ก็คงจะหยุดเชื้อไม่ได้ ดังนั้น อยากให้ส่วนราชการทุกคนทำงานอย่างเข้มข้น ทำอย่างจริงจังแบบที่เคยทำในการระบาดรอบแรก”

ต่อมา วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๔๒ ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (กทม.) ๑๑ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ชลบุรี) ๒ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สมุทรปราการ) ๓ ราย ป่วยจาก กทม.กลับมารักษา ๓ ราย ป่วยจาก จ.สมุทรปราการกลับมารักษา ๔ ราย สัมผัสผู้ป่วย ๒๐ ราย อยู่ระหว่างสอบสวน ๑ ราย วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๗๗ ราย เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วย ๓๓ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (กทม.) ๒๓ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สมุทรปราการ) ๑๐ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ปทุมธานี) ๓ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (นนทบุรี) ๒ ราย เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง (นครปฐม) ๑ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ตราด) ๑ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ระยอง) ๑ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จ.สระบุรี ๑ ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวน ๒ ราย

คลัสเตอร์ก่อสร้าง ต.ปรุใหญ่

วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ โดยมี พญ.อารีย์ เชื้อเดช รอง นพ.สสจ.นครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

นางสาวทิพวรรณ ศรีทรมาศ รายงานคลัสเตอร์สำคัญ ว่า วันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา เป็นคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างบ้านจัดสรร ตำบลปรุใหญ่ โดยไซด์งานก่อสร้างแห่งนี้ มีคนงานทั้งหมด ๖๔ คน โดยแบ่งเป็นคนที่พักในแคมป์คนงานส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งจะเช่าบ้านพักอยู่บริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ยังจะมีคนที่เดินทางไปกลับอำเภอสูงเนิน และขามสะแกแสง เริ่มต้นเมื่อวันที่ ๘-๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ ผู้ป่วยรายที่ ๑๓๑๖ เข้าแอดมิดที่โรงพยาบาลสูงเนิน เนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน จากนั้นก็กลับไปโรงพยาบาลสูงเนินอีกครั้ง เพราะมีอาการดวงตาพร่ามัว โดยผู้ป่วยรายที่ ๑๓๑๖ มีหน้าที่คุมงานก่อสร้าง โดยรับคำสั่งมาจากรายที่ ๑๓๑๕ อีกครั้งหนึ่ง และรายที่ ๑๓๑๕ ก็ทำงานร่วมกับหัวหน้าคนงานหรือรายที่ ๑๓๔๖ โดยรายนี้จะมีลูกน้องที่ติดเชื้อด้วยอีก ๘ ราย ทั้งหมดทำงานที่ไซด์งานก่อสร้าง ตำบลปรุใหญ่ จากนั้นวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ รรายที่ ๑๓๑๖ มีอาการเจ็บคอและมีอาการปวดศีรษะ จึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ผลออกมาปรากฏว่า พบเชื้อ ก็ทำให้ลูกน้องติดเชื้อไปด้วย รวมคลัสเตอร์นี้ติดเชื้อทั้งหมด ๑๗ ราย

ติดเชื้อจากชาวจีน

คลัสเตอร์ออฟฟิศพนักงาน ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง เป็นกลุ่มที่ทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้างทางรถไฟ เริ่มจากเมื่อวันที่ ๙-๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ มีชาวจีนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ นั่งทำงานและประชุมในออฟฟิศเดียวกัน จากนั้นรายที่ ๑๓๖๔ เริ่มมีอาการปวดเมื่อยร่างกาย เพื่อนจึงพาไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลปากช่องนานา แต่ผลออกมาเป็นลบ ทุกคนในออฟฟิศจึงไม่มีความกังวลใจ กลับมาทำงานโดยไม่กักตัว จากนั้นวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ มีการแจ้งว่า ชาวจีนที่มาร่วมงานติดเชื้อโควิด พนักงานทุกคนจึงเดินทางไปตรวจหาเชื้ออีกครั้ง ปรากฏว่าออฟฟิศนี้ก็ติดเชื้อทั้งหมด ๕ ราย มีหัวหน้างานเป็นคนจีนด้วย ๑ คน ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมี ๒๕ คน ซึ่งเป็นคนที่สัมผัสเกี่ยวข้องกันในออฟฟิศนี้

วิทยากรติดเชื้อ

คลัสเตอร์วิทยากร อำเภอเมือง เริ่มจากลูกสาวเดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี กลับบ้านที่ตำบลจอหอ แต่ในครอบครัวนั้น พ่อและลูกสาว ทั้งคู่เป็นวิทยากร ซึ่งในวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๔ ลูกสาวหรือรายที่ ๑๒๘๘ เดินทางไปสอนการจีบผ้า ที่ อบต.พะเนา ซึ่งกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ตรวจหาเชื้อแล้ว ยังไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม ต่อมาวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ รายที่ ๑๒๘๘ ก็ไปเป็นวิทยากรสอนจีบผ้าที่ อบต.ตลาด วันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ รายที่ ๑๒๘๘ ก็ยังไปเป็นวิทยากรสอนจีบผ้า ที่ อบต.ตลาด อีกครั้ง วันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๔ พ่อหรือรายที่ ๑๒๘๗ ไปส่งรายที่ ๑๒๘๘ ที่ บขส. และก็เดินทางไปเป็นวิทยากรช่างเชื่อม ที่ อบต.พะเนา ส่วนรายที่ ๑๒๘๘ ก็เดินทางไปเป็นวิทยากรที่ อบต.ตลาด วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๔ รายที่ ๑๒๘๗ ไปเป็นวิทยากรที่ กศน.หนองจะบก และรายที่ ๑๒๘๘ เป็นวิทยากรจีบผ้าที่ อบต.ตลาด วันที่ ๒๗-๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ รายที่ ๑๒๘๘ กับ ๑๒๘๙ ไปหาเพื่อนที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๔ รายที่มาจากจังหวัดปทุมธานี แจ้งว่า ติดโควิด ครอบครัวนี้จึงเดินทางไปตรวจ พบว่า พ่อ ลูกสาว และหลาน ติดเชื้อ

พนักงานเสี่ยง ๑,๔๐๐ คน

คลัสเตอร์ตำบลตะเคียน อำเภอด่านขุนทด ได้ขยายวงลุกลามจากผู้ป่วยหญิงเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงย่านถนนสาธุประดิษฐ์ กรุงเทพฯ มาเยี่ยมครอบครัวทำให้ติดเชื้อในกลุ่มบุคคลที่มีกิจกรรมทางสังคมร่วมกันและมีเครือญาติซึ่งเป็นลูกจ้างของโรงงานผลิตและส่งออกหูฟัง-ลำโพงยี่ห้อดัง สัญชาติญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว ต่อมาลูกจ้างในไลน์เดียวกันติดเชื้อจำนวน ๑๑ ราย โรงงานจึงปิดชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดและแจ้งให้ลูกจ้างกลับทำงานในวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ การสอบสวนโรคจึงตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงได้ประมาณ ๕๐๐ คน ทั้งนี้ ลูกจ้าง ๑,๔๐๐ คน ที่มีประวัติสัมผัสทั้งโดยสารรถรับ-ส่ง รับประทานทานอาหารและทำงานในโรงงานเดียวกัน เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม ข้อมูลระบุรายชื่อที่อยู่กลุ่มเสี่ยงได้กระจัดกระจายหลายพื้นที่ จึงได้ประสัมพันธ์ผ่านหลายช่องทางให้กลุ่มเสี่ยงตรวจหาเชื้อตามโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้และต้องกักตัวเป็นเวลา ๑๔ วัน เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด

เปิดโรงพยาบาลสนาม รอบ ๒

วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๖๙ ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (กทม.) ๑๗ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (นครปฐม) ๑ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (นนทบุรี ) ๒ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (ปทุมธานี) ๔ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (เลย) ๑ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สมุทรปราการ) ๑ ราย เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง (สมุทรสาคร) ๑ ราย ป่วยจาก กทม. กลับมารักษา ๘ ราย ป่วยจากนนทบุรี กลับมารักษา ๑ ราย ป่วยจากสมุทรปราการ กลับมารักษา ๒ ราย สัมผัสผู้ป่วย ๒๖ ราย สัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ เพื่อนร่วมงาน (คลัสเตอร์พนักงงานก่อสร้าง) ๔ ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน ๑ ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ๒ ราย โดยผู้เสียชีวิตรายที่ ๑๘ ของจังหวัด เป็นผู้ป่วยโควิดลำดับที่ ๑๑๘๗ เพศชาย อายุ ๒๖ ปี มีภาวะอ้วน น้ำหนัก ๑๕๐ กิโลกรัม และผู้เสียชีวิตรายที่ ๑๙ ของจังหวัด เป็นผู้ป่วยโควิดลำดับที่ ๑๐๐๙ เพศหญิง อายุ ๘๙ ปี ไม่ปรากฏโรคประจำตัว

ทั้งนี้ วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ จังหวัดนครราชสีมา ได้เปิด​ใช้โรงพยาบาลสนาม ที่อาคารชาติชายฮอลล์​ รอบ ๒​ หลังยอดผู้ป่วยโควิด-๑๙ เพิ่มสูงขึ้น​ เพื่อลดความแออัดใน​โรงพยาบาลหลัก​

เตรียมเพิ่มมาตรการ

ล่าสุด วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ โดยมี นพ.ชาญชัย บุญอยู่ รอง นพ.สสจ.นครราชสีมา และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

นายกอบชัย บุญอรณะ กล่าวว่า มาตรการขณะนี้อาจจะต้องเพิ่มมากขึ้น หลายคนมองว่า น่าจะต้องเคอร์ฟิวเหมือนในรอบแรก แต่ถ้าทำก็จะขัดกับคำสั่งส่วนกลาง แต่อาจจะขอความร่วมมืออย่างเข้มข้น มีเจ้าหน้าที่ออกตรวจในช่วงกลางคืน หลัง ๓ ทุ่ม ใครจะไปไหนต้องตอบให้ได้ หากไปหาซื้ออะไรกิน สำคัญหรือไม่ แล้วจะออกมาทำไมหลัง ๓ ทุ่ม ต้องมีเหตุผลพอที่จะอธิบายต่อเจ้าหน้าที่ เพราะคนที่ออกมาหลัง ๓ ทุ่ม อาจจะไปทำในกิจกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ เรื่องนี้ผมเพียงเสนอแนะ แต่การเพิ่มมาตรการขึ้นอยู่กับมติของที่ประชุม และกิจกรรมรวมกลุ่ม อาจจะต้องจำกัดจำนวนคนลดลงจากเดิม ๑๐๐ คน เหลือ ๕๐ คน ดีหรือไม่ สำหรับมาตรการของร้านอาหาร เราต้องแยกอยู่แยกกินให้ได้ แต่ก็ต้องคำนึงถึงคนที่เขาแวะซื้ออาหารแต่ไม่ได้มีที่พักแถวนั้น เช่น ไปทำงานแล้วแวะซื้ออาหาร จะให้ไปทานที่ไหน เรื่องนี้ก็ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไร การเพิ่มมาตรการอาจจะพูดคุยกันวันนี้ หรือจะหารือกันในการประชุมครั้งหน้าก็ได้”

เสียชีวิตสะสม ๒๐ ราย

นพ.ชาญชัย บุญอยู่ เปิดเผยว่า “วันที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ๕๒ ราย แยกเป็น อำเภอปากช่อง ๑๑ ราย (เทศบาลเมืองปากช่อง ๑ ราย ต.จันทึก ๒ ราย ต.หนองน้ำแดง ๕ ราย ต.หนองสาหร่าย ๒ ราย ต.ปากช่อง ๑ ราย) เมือง ๑๓ ราย (ต.ในเมือง ๑๐ ราย ต.บ้านใหม่ ๒ ราย ต.หนองบัวศาลา ๑ ราย) ประทาย ๕ ราย (ต.วังไม้แดง ๒ ราย ต.ดอนมัน ๑ ราย ต.หนองค่าย ๒ ราย) สูงเนิน ๕ ราย (ต.เสมา ๒ ราย ต.มะเกลือใหม่ ๓ ราย) โนนไทย ๔ ราย (ต.สำโรง) เสิงสาง ๔ ราย (ต.โนนสมบูรณ์ ๒ ราย ต.เสิงสาง ๒ ราย) ครบุรี ๒ ราย (ต.เฉลี่ยง) ด่านขุนทด ๒ ราย (ต.หนองบัวตะเกียด) คง ๑ ราย (ต.โนนเต็ง) โชคชัย ๑ ราย (ต.พลับพลา) โนนแดง ๑ ราย (ต.วังหิน) พิมาย ๑ ราย (ต.กระเบื้องใหญ่) วังน้ำเขียว ๑ ราย (ต.วังน้ำเขียว) และสีคิ้ว ๑ ราย (ต.มิตรภาพ) และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม ๑ ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ ๒๐ ของจังหวัด หรือผู้ป่วยโควิดลำดับที่ ๑๕๙๗ พระภิกษุ อายุ ๗๔ ปี มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง ไตวายเรื้อรัง รวมเสียชีวิตสะสม ๒๐ ราย”

นางสาวทิพวรรณ ศรีทรมาศ รายงานคลัสเตอร์สำคัญ ว่า คลัสเตอร์ครอบครัว อำเภอโชคชัย ตามที่เคยรายงานว่า มีสามีและภริยา ประกอบอาชีพขายของเร่ตามหมู่บ้านในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม โดยรับของที่ตลาดศรีพุทธมณฑลสาย ๕ จากนั้นกลับมาบ้านที่อำเภอโชคชัย เพื่อกักตัว เนื่องจากคนในตลาดติดเชื้อจำนวนมาก และทราบผลว่า ติดเชื้อเช่นกัน โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์นี้อีก ๔ ราย รวมมีผู้ติดเชื้อทั้งหมด ๒๓ ราย

คฤหาสน์ทองลามไม่หยุด

คลัสเตอร์หมู่บ้านคฤหาสน์ทอง วันนี้มีการระบาดไปถึงซอยตรอกจันทร์ ซึ่งมีกระแสชื่อร้านใกล้เคียงกับร้านขายขนมหวานร้านหนึ่ง ทำให้ทางโซเชียลเกิดความสับสน สำหรับคลัสเตอร์นี้เริ่มจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เดินทางมาจากจังหวัดสุรินทร์ ทำให้คนในครอบครัวติดเชื้อ ซึ่งภรรยาเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนอุบลรัตน์ฯ และ ตม.คนนี้ก็มีเพื่อนเป็นตำรวจอยู๋ในอำเภอเมือง ได้พูดคุยกันและติดเชื้อ โดยตำรวจคนนั้นมีภริยาทำงานที่วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ที่ให้เชื้อกระจายไปสู่วิทยาลัยฯ อีก ๔ ราย ในส่วนของหมู่บ้านคฤหาสน์ทอง มีผู้ป่วยเดินทางมาซ่อมประตูให้ตำรวจจึงติดเชื้อ และลามไปยังบ้านใกล้เคียงที่มักจะรับประทานอาหารร่วมกันอีก และร้านค้าในหมู่บ้านก็ติดเชื้ออีก ๑ ราย ล่าสุดลามไปยังครอบครัวหนึ่งในซอยตรอกจันทร์ ซึ่งไม่ใช่ร้านขนมหวานในซอยตรอกจันทร์ตามที่เป็นกระแสข่าว สรุปคลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด ๓๑ ราย

คลัสเตอร์ออฟฟิศพนักงาน ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานก่อสร้างทางรถไฟ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก ๒ ราย ซึ่งการติดเชื้อในคลัสเตอร์นี้เกิดจากชาวจีนที่นำเชื้อเข้ามา รวมแล้วคลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อรวม ๗ ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก ๒๐ คน อยู่ระหว่างกักตัวทั้งหมด ในส่วนของคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้าง ตำบลปรุใหญ่ วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ๑ ราย

เสี่ยงเพียง ๒๐๐ คน

คลัสเตอร์ตำบลตะเคียน อำเภอด่านขุนทด โรงงานที่มีการติดเชื้อในคลัสเตอร์นี้ มีพนักงานทั้งหมด ๑,๗๙๕ คน เป็นหนักงานชายเพียง ๒๘๘ คน ตอนแรกก็ยังหาความเชื่อมโยงไม่ได้ เมื่อสอบสวนแล้วพบว่า โรงงานนี้มีการติดเชื้อใน ๒ แผนก มีผู้ป่วย ๑๓ ราย ซึ่งภายในห้องมีค่อนข้างแออัด เนื่องจากเป็นลักษณะงานที่ต้องส่งของต่อกัน ทำให้ระยะห่างไม่มี พนักงานที่ติดเชื้อส่วนมากจะสนิทและใกล้ชิดกัน แต่ละกลุ่มก็จะไม่ได้รู้จักกัน เป็นเพียงการสนิทกันคนหรือสองคนเท่านั้น ซึ่งกลุ่มนี้ที่ติดเชื้ออาจจะเป็นเพราะแอบนำมะขามคลุกเข้าไปทานร่วมกัน และที่สำคัญพนักงานส่วนหนึ่งปกปิดข้อมูล บางคนมีปัญหาด้านทางเดินหายใจ ซึ่งในผู้ป่วย ๑๓ ราย มี ๓ ราย ที่เจอจากการค้นหาเชิงรุกของ พญ.อารีย์ เชื้อเดช (ผอ.รพ.สีคิ้ว) โดยโรงพยาบาลสีคิ้ว ในส่วนที่มีข่าวว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ๑,๔๐๐ คน หากนับกลุ่มเสี่ยงที่เกิดจากการติดเชื้อ มีเพียง ๒๐๐ คน แต่จากการลงพื้นที่สอบสวนโรค จึงกำหนดให้พนักงานในอาคารที่มีการติดเชื้อเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมดและให้กักตัว จำนวน ๖๕๖ คน ส่วนตัวเลข ๑,๔๐๐ คนนั้น เป็นการค้นหาเชิงรุกภายในโรงงานแห่งนี้

อนึ่ง การระบาดของโควิด-๑๙ ระลอก ๓ ในจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๖๔ เป็นต้นมา กระทั่งถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๔ พบผู้ป่วยสะสม ๑,๖๐๗ ราย รักษาหาย ๑,๐๓๘ ราย รักษาอยู่ ๕๔๙ ราย เสียชีวิตสะสม ๒๐ ราย โดยพบผู้ป่วยรายอำเภอ ดังนี้ เมือง ๕๙๒ ราย ปากช่อง ๒๖๒ ราย สีคิ้ว ๖๘ ราย ด่านขุนทด ๗๖ ราย สูงเนิน ๓๑ รา ชุมพวง ๓๖ ราย บัวใหญ่ ๔๘ ราย พิมาย ๒๔ ราย โนนไทย ๒๔ ราย ประทาย ๗๐ ราย ปักธงชัย ๒๗ ราย ครบุรี ๓๒ ราย บัวลาย ๒ ราย เสิงสาง ๔๒ ราย โนนสูง ๖๖ ราย คง ๒๘ ราย โชคชัย ๖๑ ราย ห้วยแถลง ๑๔ ราย ขามทะเลสอ ๑๓ ราย เทพารักษ์ ๔ ราย หนองบุญมาก ๘ ราย จักราช ๕ ราย เฉลิมพระเกียรติ ๘ ราย ลำทะเมนชัย ๑ ราย สีดา ๕ ราย โนนแดง ๖ ราย บ้านเหลื่อม ๔ ราย วังน้ำเขียว ๒๐ ราย แก้งสนามนาง ๑๒ ราย ขามสะแกแสง ๑๑ ราย พระทองคำ ๕ ราย และเมืองยาง ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ

 

 


710 1,380