25thApril

25thApril

25thApril

 

July 22,2021

‘เคทีซี’เขย่าแผนธุรกิจสู้โควิด-๑๙ ดันกำไรครึ่งปี ๓,๓๕๒ ล้านบาท เดินหน้าขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อ

เคทีซีแจ้งกำไรสุทธิครึ่งปีแรก ๓,๓๕๒ ล้านบาท ส่วนไตรมาส ๒ เท่ากับ ๑,๗๐๓ ล้านบาท แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ ต่อเนื่องมาถึงระลอก ๓ แต่ปรับกลยุทธ์รับมือ ส่งผลให้การดำเนินงานโดยรวมยังผ่านไปได้ดี พร้อมเดินหน้าครึ่งปีหลังขยายธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกันให้ครบวงจร รักษาฐานสมาชิกและบริหารคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากโควิด-๑๙ 

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมของอุตสาหกรรมสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในช่วง ๖ เดือนของปีนี้ยังคงเติบโต ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจากการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-๑๙ สำหรับภาพรวมการดำเนินงานธุรกิจของเคทีซียังผ่านไปได้ดี โดยเรียนรู้จากประสบการณ์มาเป็นเข็มทิศในการปรับแผนกลยุทธ์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสิ้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ บริษัทฯ มีการขยายตัวของลูกหนี้บัตรเครดิตเท่ากับ ๑๐.๔% (อุตสาหกรรมโต ๘.๖%) ทำให้เคทีซีมีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ ๑๓.๗% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี ๒๕๖๓ ที่มีสัดส่วน ๑๓.๕% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น ๕.๔% (อุตสาหกรรมโต ๒.๒%) และสัดส่วนลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ ๔.๗%”

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 

“อย่างไรก็ดี สถานการณ์แพร่รระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ อย่างต่อเนื่องถึงระลอก ๓ ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการจัดหาสมาชิกใหม่ทำได้ยากขึ้น รวมถึงการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้รวมและปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรขยายตัวได้ไม่มาก เคทีซีจึงมีแผนสร้างโมเดลธุรกิจขยายตัวไปยังสินเชื่อมีหลักประกันมากขึ้น โดยได้เข้าซื้อหุ้น ๗๕.๐๕% ของบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๔ และภายหลังการตรวจสอบตามเงื่อนไขเสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ KTBL จะเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของเคทีซี”

นายระเฑียร ศรีมงคล กล่าวว่า “สำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุดวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ๒๕๖๓ เคทีซีมีกำไรสุทธิในช่วงครึ่งปีแรก ๓,๓๕๒ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๒๐.๑% และมีกำไรสุทธิในไตรมาส ๒ เท่ากับ ๑,๗๐๓ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๔๘.๒% ซึ่งแม้ว่าบริษัทฯ จะมีรายได้รวมลดลง แต่ยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายรวมให้ต่ำลง จากการลดค่าใช้จ่ายทางการเงินและผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงไปได้ อีกทั้งมีรายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ในระดับที่ดีขึ้น และรักษาอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL) อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงเดิม ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีหลายปัจจัยผันแปร จึงเป็นผลให้ไตรมาส ๒ ที่ผ่านมา เคทีซีมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวมต่อรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย มีกำไรก่อนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงที่ -๕% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการมีพอร์ตลูกหนี้คุณภาพดี ทำให้ความจำเป็นในการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นน้อยลงไปด้วย ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตตามสัดส่วนข้างต้น”

“โดยที่เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม ๘๙,๔๔๔ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๗.๑% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ฐานสมาชิกรวม ๓.๓ ล้านบัญชี แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต ๒,๕๔๔,๕๗๓ บัตร เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม ๕๕,๗๐๘ ล้านบาท ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรครึ่งปีแรกเท่ากับ ๙๔,๑๖๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๓.๙% (ไตรมาส ๒ มูลค่า ๔๕,๗๓๙ ล้านบาท ขยายตัว ๑๓.๑%) NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้รวมอยู่ที่ ๔.๔% เพิ่มขึ้นจาก ๑.๙% เมื่อเทียบกับไตรมาส ๑ ปี ๒๕๖๔ จากสาเหตุหลักของการนับรวมพอร์ตลูกหนี้สัญญาเช่าซื้อจาก KTBL ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ที่ส่งผลให้ความสามารถในการชำระของลูกหนี้ลดลง และ NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้บัตรเครดิตเท่ากับ ๑.๕%, พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี ๘๐๒,๙๗๑ บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม ๒๙,๔๘๐ ล้านบาท NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้บุคคลอยู่ที่ ๓.๐% และพอร์ตลูกหนี้ตามสัญญาเช่า ๔,๒๕๕ ล้านบาท NPL ต่อเงินให้สินเชื่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่าเท่ากับ ๕๑.๗%”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” กล่าวอีกว่า “เคทีซียังสามารถทำรายได้รวมในไตรมาส ๒/๒๕๖๔ ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ ๕,๔๐๖ ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ดอกเบี้ยรวม (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน) ๓,๔๓๐ ล้านบาท (ธุรกิจบัตรเครดิต ๑,๖๓๙ ล้านบาท สินเชื่อบุคคล ๑,๗๖๖ ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยจากลูกหนี้ตามสัญญาเช่าของ KTBL ๒๕ ล้านบาท) ลดลง -๕.๖% จากการปรับลดเพดานดอกเบี้ยในธุรกิจบัตรเครดิตเป็น ๑๖% รายได้ค่าธรรมเนียม (ไม่รวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน) ๑,๐๔๒ ล้านบาท เพิ่มขึ้น ๗.๖% จากรายได้ค่าธรรรมเนียม Interchange และรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนลดจากร้านค้าผู้รับชำระบัตรที่เป็นสมาชิกของเคทีซีเพิ่มขึ้นเป็น ๔๒,๖๒๕ ร้านค้า และรายได้ค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินสดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น แต่ค่าธรรมเนียมในการติดตามหนี้ลดลง รายได้หนี้สูญได้รับคืน ๘๓๓ ล้านบาท (เพิ่มขึ้น ๑๙.๓%) และรายได้อื่นๆ ๑๐๐ ล้านบาท ในขณะที่รายได้รวมครึ่งแรกของปี ๒๕๖๔ อยู่ที่ ๑๐,๗๙๘ ล้านบาท ลดลง -๒.๕% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส ๒/๒๕๖๔ เท่ากับ ๓,๒๗๘ ล้านบาท ลดลง -๑๗.๓% แบ่งเป็นผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ๑,๑๔๔ ล้านบาท (ลดลง -๔๕.๑%) ต้นทุนทางการเงิน ๓๕๙ ล้านบาท (ลดลง -๕.๓%) และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานรวม ๑,๗๗๕ ล้านบาท (เพิ่มขึ้น ๑๘.๓%) โดยมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) จำนวน ๒๒,๓๓๐ ล้านบาท ต้นทุนการเงิน ๒.๖๒% และอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ ๒.๔๕ เท่า ต่ำกว่าภาระผูกพันที่กำหนดไว้ที่ ๑๐ เท่า” 

“เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ยังมีความไม่แน่นอน และเกิดคลัสเตอร์ใหม่ๆ กระจายไปในวงกว้าง เพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว บริษัทฯ ได้ขยายเวลาให้ลูกหนี้สมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-๑๙ สมัครรับความช่วยเหลือด้านสินเชื่อจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ เพื่อสนับสนุนมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีกลุ่มลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือรวม ๒๑,๕๖๔ บัญชี ด้วยยอดหนี้คงเหลือที่ ๑,๕๔๕ ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมกับองค์กรการกุศลดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อน เช่น ร่วมกับสมาชิกบัตรเครดิตบริจาคคะแนนสะสม KTC FOREVER เปลี่ยนเป็นเงินสมทบทุนชุดธารน้ำใจส่งต่อให้ผู้ที่ต้องกักตน ๑๔ วัน ผ่านสภากาชาดไทย และสนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์และรักษาผู้ป่วยผ่านมูลนิธิรามาธิบดี ศิริราชมูลนิธิ โรงพยาบาลราชวิถี และกิจกรรมเปลี่ยนใจเป็นบุญ ชวนแฟนเพจ KTC Journey (เคทีซี เจอนี่) ส่งสติ๊กเกอร์เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนดูแลสุขภาวะอนามัยของพนักงานเพื่อป้องการการแพร่ระบาด”

นายระเฑียร กล่าวท้ายสุดว่า “สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง เคทีซีจะขยายขอบเขตธุรกิจสินเชื่อให้หลากหลายและครอบคลุมทั้งเคทีซี พี่เบิ้ม และธุรกิจลีสซิ่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเบ็ดเสร็จครบวงจร ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญเพื่อสร้างความประทับใจให้กับสมาชิก และจะดูแลรักษาฐานสมาชิกที่มีอยู่เดิมให้ได้รับความพึงพอใจ โดยมีเป้าหมายหลักในการทำธุรกิจดังนี้ ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในปี ๒๕๖๔ จะมีมูลค่า ๒๐๐,๐๐๐ ล้านบาท หรือขยายตัวที่ ๕% ปรับลดลงจากประมาณการเดิมที่คาดว่าขยายตัว ๘% บริหารมูลค่ายอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลให้ใกล้เคียงกับปี ๒๕๖๓ สำหรับสินเชื่อมีหลักประกัน “เคทีซี พี่เบิ้ม” รวมสินเชื่อจากบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด ตั้งเป้าหมายสินเชื่อที่ ๑,๐๐๐ ล้านบาท ด้านร้านค้ารับบัตรจะเน้นช่องทางออนไลน์ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร” 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๘๖ วันพุธที่ ๒๑ - วันอังคารที่ ๒๗ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔


696 1343