29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

September 24,2021

จี้ย้ายสถานสงเคราะห์สุนัข สุดทนทั้งเหม็นทั้งเสียงดัง

บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขชาวต่างชาติที่เคยเป็นกระแสดราม่า ขังคนงานในกรงหมาเพราะทำงานไม่ถูกใจ ชี้สร้างความเดือดร้อนทั้งกลิ่น เสียงดัง และปล่อยสิ่งปฏิกูลลงคลองสาธารณะ การก่อตั้งก็ไม่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ล่าสุดเทศบาลมีคำสั่งรื้อถอนแต่กลับไม่ดำเนินการ

เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๔ ตัวแทนประชาชน ผู้ประกอบการรีสอร์ต และอดีตคนงานสถานสงเคราะห์สัตว์ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บุกร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ช่วยเหลือย้ายสถานสงเคราะห์สัตว์ “The Sound Of Animals” ที่ตั้งอยู่หมู่ ๑ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด ที่มีชาวต่างชาติและภริยาคนไทยเป็นผู้ดูแล ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ทำให้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน และผู้ประกอบการในพื้นที่ ทั้งส่งกลิ่นเหม็น เสียงดังรบกวน และมีการลักลอบปล่อยสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงลำคลองสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียงด้วย ซึ่งปัจจุบันทราบว่ามีสุนัขอยู่มากถึง ๒๗๐ ตัว บางครั้งมีการนำอาหารมาเทให้สุนัขกิจตามถนน คันนา เดินอุจจาระเรี่ยราดไปทั่ว โดยผู้ร้องบอกว่าได้รับความเดือดร้อนจากสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวมานานหลายปีแล้ว แต่บางคนก็ไม่อยากยุ่งและไม่กล้าออกมาร้องเรียน เพราะกลัวไม่ปลอดภัยเนื่องจากเคยมีคนไปร้องเรียนแล้วถูกภริยาชาวต่างชาติที่ดูแลสถานสงเคราะห์สุนัขไปหาเรื่องทำร้ายร่างกายมาแล้ว   

กระทั่งเมื่อปี ๒๕๖๒ เกิดกระแสดราม่าลูกจ้างที่ทำงานในสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวได้ร้องเรียนผ่านโซเชียล และแจ้งความที่ สภ.บ้านกรวด ว่าถูกนายจ้างหรือผู้ดูแลชาวต่างชาติ บังคับขังไว้ในกรงสุนัขให้อดข้าวอดน้ำ เพราะทำงานไม่ถูกใจ จนมีหลายหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ดูแล รวมไปถึงการก่อตั้งสถานสงเคราะห์ว่าถูกต้องหรือไม่  ซึ่งกรณีที่ลูกจ้างแจ้งความว่าถูกกดขี่บังคับนั้นขณะนี้เรื่องยังอยู่ในกระบวนการศาล ส่วนเรื่องการก่อตั้งที่ไม่ถูกต้องนั้นทางเทศบาลตำบลตลาดนิคมปราสาท ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ ก็ได้มีหนังสือคำสั่งให้สถานสงเคราะห์ดังกล่าวรื้อถอนอาคารให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๑๐ มิ.ย.๒๕๖๔ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นมีการดำเนินการแต่อย่างใด แต่กลับมีการโพสต์ลงในโซเชียลว่ามีการขยายระยะเวลารื้อถอนอาคารสถานสงเคราะห์สุนัขออกไปอีก ๓ เดือน ก็สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่ จึงได้พากันมาร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ตรวจสอบช่วยเหลือ และเร่งรัดการรื้อถอนหรือย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยเร็วด้วย

นายสุชาติ ปั้นก้อน ตัวแทนชาวบ้านที่มาร้องเรียน บอกว่า “ที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการในพื้นที่มาร้องศูนย์ดำรงธรรมในวันนี้เนื่องจากสถานสงเคราะห์สุนัข ไม่ได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารตามคำสั่งของทางเทศบาลที่มีกำหนดให้รื้อถอนตั้งวันที่ ๑๐ มิ.ย.๒๕๖๔ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม ส่วนสถานที่ใหม่ที่อ้างว่าจะย้ายออกไปก็ยังไม่เห็นดำเนินการอะไร จึงได้พากันมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมเพื่อติดตามความคืบหน้าและเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการติดตามการรื้อถอน หรือย้ายสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวออกจากพื้นที่ตามคำสั่งหรือบันทึกข้อตกลงของทางเทศบาลโดยเร็วด้วย เพื่อบรรเทาผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง”

น.ส.สติรักตร์ อิ่มจินดา เจ้าของรีสอร์ต บอกว่า “ตนได้รับผลกระทบจากสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวโดยตรง เพราะตั้งอยู่ห่างจากรีสอร์ตเพียงประมาณ ๑๐๐ เมตร ทุกวันจะได้ยินเสียงเห่าหอน กลิ่นเหม็นอุจจาระสุนัข เพราะบางวันก็ปล่อยออกมากินอาหารและอุจจาระข้างนอก ซึ่งตนและชาวบ้านในพื้นที่ไม่ได้รังเกียจสุนัขหากมีการดูแลจัดระบบให้ดีไม่ให้สร้างความเดือดร้อนหรือรบกวนคนอื่น บางครั้งก็มีคนจากนอกพื้นที่นำสุนัขมาปล่อยทิ้งใกล้ๆ สถานสงเคราะห์ดังกล่าวเพราะคิดว่าเขาจะเอาไปดูแล แต่ความจริงเขาไม่ได้รับเอาไปดูแลทำให้สุนัขที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งกลายเป็นภาระชาวบ้านอก ซึ่งปกติชาวบ้านก็ไม่ได้อยากมีเรื่องมีราวอยู่แล้ว แต่ที่มาร้องเพราะทนไม่ไหวจริงๆ แต่ที่ผ่านมาตนซึ่งเคยไปร้องเรียนถึงความเดือดร้อนกลับถูกภรรยาชาวต่างชาติ บุกเข้าไปทำร้ายถึงในรีสอร์ต ขณะนี้เรื่องก็อยู่ในกระบวนการศาล จากกรณีที่เกิดขึ้นก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการกับสถานสงเคราะห์สุนัขดังกล่าวจริงจัง อย่าปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนกับคนอื่นหากเป็นไปได้ก็อยากย้ายออกไปไกลจากหมู่บ้าน ชุมชน”

ทางด้านผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้รับเรื่องพร้อมจะประสานกับหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป


นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๖๙๗ วันพุธที่ ๒๒ - วันอังคารที่ ๒๘ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔


1007 1618