บรรยากาศที่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงนี้ ยังคงมีนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ รวมถึงบรรดาแฟนคลับของ “ลิซ่า แบล็กพิงค์” หรือลลิษา มโนบาล ยังคงเดินทางขึ้นไปเที่ยวชม และถ่ายรูปปราสาทพนมรุ้งเป็นที่ระลึกตามรอย MV ลิซ่าอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยวันละ ๔๐๐-๕๐๐ คน จากช่วงสถานการณ์โควิดระบาดค่อนข้างเงียบเหงามีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวเพียงวันละประมาณ ๑๐๐–๒๐๐ คนเท่านั้น และคาดการณ์ว่าหลังจากมีกระแส MV ลิซ่าฟีเวอร์ ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยว และแฟนคลับของลิซ่า เดินทางมาเที่ยวชมพนมรุ้งเพิ่มขึ้นทะลุ ๑,๐๐๐ คนอย่างแน่นอน ซึ่งก็ส่งผลดีกับร้านจำหน่ายของที่ระลึกบนปราสาทพนมรุ้ง ทำให้บรรยากาศคึกคักมียอดจำหน่ายกระเตื้องขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน จากช่วงสถานการณ์โควิดแทบขายไม่ได้บางร้านถึงขั้นต้องปิดไปทำอาชีพอื่นชั่วคราว 

นายพงศธร ดาวกระจาย ผู้ช่วยนักโบราณคดี ประจำอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เปิดเผยว่า หลังจากมีกระแส MV ลิซ่า  แบล็กพิงค์ ก็ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่พนมปราสาทพนมรุ้งเพิ่มมากขึ้น จากช่วงโควิดวันละ ๑๐๐–๒๐๐ คน แต่ช่วงนี้เฉลี่ยวันละ ๔๐๐–๕๐๐ คน แต่คาดการณ์ว่าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้นอาจทะลุ ๑,๐๐๐ คน โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก คือด้านหน้าปราสาท “โคปุระ” หรือซุ้มประตู ที่เชื่อว่าเป็นฉากใน MV ของลิซ่า และบริเวณบัว ๘ กลีบตรงระเบียงคตหน้าซุ้มประตู ที่เชื่อว่าปรากฏอยู่ใน MV ด้วย อีกอย่างคือบัลลังก์ที่อยู่ตรงโคปุระที่ปรากฏใน MV ที่เหมือนมีแสงรัศมีเปล่งประกายนั้น ก็ดูคล้ายกับการจำลองพระอาทิตย์ที่ลอดช่อง ๑๕ ประตูปราสาท จากกระแสที่เกิดขึ้นก็สร้างความภาคภูมิใจในตัวน้องลิซ่า ที่ไปโด่งดังระดับโลกแล้ว ยังทำให้การท่องเที่ยวและ การค้าขายดีขึ้นด้วย    

ขณะที่ น.ส.แก้วตา แก้วสอน และ น.ส.สมพร แพรพรรณ สองนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานี บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ที่มาเที่ยวชม และถ่ายรูปปราสาทพนมรุ้งในครั้งนี้เพราะมาตามรอย MV ลิซ่า อยากมาดูด้วยตาเมื่อได้มาชมก็ประทับใจเพราะของจริงงดงามมาก ขอบคุณลิซ่าที่ทำให้ทั่วโลกได้รู้ว่าเมืองไทยก็มีวัฒนธรรมและโบราณสถานที่สวยงาม  

ด้านนายอำนวย สลับเพชร อายุ ๕๘ ปี พ่อค้าขายของที่ระลึก บอกว่า หลังจากกระแส MV ของลิซ่า รวมไปถึงที่ลิซ่าให้สัมภาษณ์ แล้วพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของบุรีรัมย์ ก็มีคนเข้ามาเลือกซื้อและถามหาผ้าไหมลายผ้าซิ่นตีนแดงที่เป็นเอกลักษณ์ของผ้าไหมบุรีรัมย์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีทำให้ยอดขายของที่ระลึกกระเตื้องขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ช่วงโควิดแทบขายไม่ได้เลยจนบางร้านต้องปิดไปทำอาชีพชั่วคราว ก็ขอบคุณน้องลิซ่า ที่ทำให้การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจการค้าขายของบุรีรัมย์ดีขึ้น หากเป็นไปได้อยากให้น้องลิซ่า  มาเที่ยวที่ปราสาทพนมรุ้งสักครั้ง

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๒๖๙๗ วันพุธที่ ๒๒ - วันอังคารที่ ๒๘ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๔