20thApril

20thApril

20thApril

 

November 19,2021

‘บางจาก’ไตรมาส ๓ กำไร ๑,๘๒๐ ล. เตรียมก้าวสู่องค์กรยั่งยืน ๑๐๐ ปี เร่งรัดลงทุนที่เป็นมิตรกับโลก

๙ เดือนแรก กำไร ๕,๘๖๘ ล้านบาท โดยไตรมาส ๓ มีกำไร ๑,๘๒๐ ล้านบาท จากปัจจัยหนุนทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและราคาน้ำมันโลก วางแผนก้าวสู่องค์กรยั่งยืน ๑๐๐ ปี เร่งรัดการลงทุนที่เป็นมิตรกับโลก ตั้งเป้าเป็นกลางทางคาร์บอน ใน ค.ศ.๒๐๓๐ และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ใน ค.ศ.๒๐๕๐ 

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท บางจากฯ งวด ๙ เดือนแรกของปี ๒๕๖๔ ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ ๑๓๒,๖๕๕ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๘ และมี EBITDA ๑๖,๕๓๗ ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ ๑,๑๒๑ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (จากการเปลี่ยนวิธีการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย) รวมถึงได้รับปัจจัยหนุนด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมัน หลังจากมีความคืบหน้าในการ ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ทั่วโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย ๙ เดือนแรกของปี ๒๕๖๔ อยู่ที่ ๖๖.๓๖ เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้น ๒๔.๙๑ เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือ ร้อยละ ๖๐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ มี Inventory Gain ๕,๑๕๙ ล้านบาท นอกจากนี้ ธุรกิจโรงกลั่นมีค่าการกลั่นพื้นฐานทรงตัวในทิศทางที่ปรับตัว ดีขึ้น และได้ปรับเพิ่มกำลังการกลั่นและเพิ่มสัดส่วนการผลิต UCO (Unconverted Oil) อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยหนุนค่าการกลั่น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 

กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้ามีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซีย และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ในประเทศไทย ขณะที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจการตลาดและกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ในประเทศที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลงอย่างมาก อีกทั้งค่าการตลาดรวมสุทธิยังอยู่ในระดับต่ำ จากการที่บริษัทฯ ไม่สามารถปรับราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการให้เหมาะสมกับต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูปและราคาผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซล (B100) ที่ปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาด

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานได้รวมผลของการเปลี่ยนวิธีการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA จากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย ตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ โดย EBITDA ของ OKEA ที่รวมอยู่ในงบการเงินรวมมีจำนวนประมาณ ๓,๐๐๐ ล้านบาท อีกทั้งมีผลจากการกลับรายการด้อยค่าเงินลงทุนใน OKEA ๔๐๐ ล้านบาท และมีกำไรจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในบริษัท อุบลไบโอเอทานอล จำกัด (มหาชน) (UBE) ๖๑๖ ล้านบาท เนื่องจาก UBE เสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ส่งผลให้งวด ๙ เดือนแรกของปี ๒๕๖๔ มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ ๕,๘๖๘ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๘๑ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น ๔.๐๕ บาท

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส ๓ ปี ๒๕๖๔ บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ ๔๗,๖๔๙ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๙ และมี EBITDA ๗,๕๓๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๗๖ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเปลี่ยนวิธีการบันทึกเงินลงทุนใน OKEA และมี Inventory Gain ๑,๓๘๖ ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานได้รับผลกระทบจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันที่มีค่าการกลั่นพื้นฐานปรับลดลง จาก Crude Premium อ้างอิงกับน้ำมันดิบเดทเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งกลุ่มธุรกิจการตลาดมีค่าการตลาดรวมสุทธิและปริมาณการจำหน่ายที่ปรับลดลง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ระลอกสาม

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้ มีการบันทึกกำไรจากการปรับปรุงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน UBE ส่งผลให้ ไตรมาสนี้มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ ๑,๘๒๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นกำไรต่อหุ้น ๑.๒๕ บาท โดยมีผลการดำเนินงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจดังนี้

๑. กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ผลการดำเนินงานปรับลดลงร้อยละ ๔ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ปรับเพิ่มขึ้น ร้อยละ ๒๑๒ เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับเพิ่มขึ้นและค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ในไตรมาสนี้ธุรกิจโรงกลั่นมี Inventory Gain ๑,๒๖๑ ล้านบาท ปรับเพิ่มสัดส่วนการผลิต UCO (Unconverted Oil) เพื่อช่วยหนุนค่าการกลั่น และรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยในไตรมาสนี้ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ ๑๑๑,๔๐๐ พันบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๓ ของกำลังการผลิตรวม

๒. กลุ่มธุรกิจการตลาด ผลการดำเนินงานปรับลดลงร้อยละ ๓๒ และ ๒๗ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ระลอกสาม โดยมีส่วนแบ่งการตลาดด้านปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการสะสมเดือนมกราคม - กันยายน ๒๕๖๔ อยู่ที่ร้อยละ ๑๖ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ ๑๕.๖ สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดในอันดับ ๒ (ข้อมูลกรมธุรกิจพลังงาน) ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV Chargers) ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ๔๐ สถานี ให้บริการใน ๒๗ จังหวัดทั่วประเทศ และมุ่งขยายธุรกิจ Non-Oil โดย ณ สิ้นไตรมาส มีร้านกาแฟอินทนิล ๗๓๙ สาขา และมีร้านชานมไข่มุก DAKASI ๑๒ สาขาและพัฒนาธุรกิจ “บางจาก Food Truck” ณ สิ้นไตรมาส มี ๕ สาขา

๓. กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า โดยบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ผลการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๘ และ ๔ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากปริมาณจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่สูงขึ้น จาก สปป.ลาวที่ปรับเพิ่มขึ้น และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ๑๕๐ ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในประเทศอินโดนีเซีย บริษัท Impact Energy Asia Development Limited (IEAD) บริษัทร่วมของบีซีพีจีฯ ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ Vietnam Electricity กำลังการผลิตตามสัญญา ๖๐๐ เมกะวัตต์ ที่ชายแดน สปป.ลาว-เวียดนาม อายุสัญญา ๒๕ ปี ออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) มูลค่า ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นการจัดหาเงินทุนผ่านตลาดตราสารหนี้เป็นครั้งแรก

๔. กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โดยบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ผลการดำเนินงานปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๐๑ และ ๑๒๘% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้กำไรจากการเปลี่ยนสถานะเงินลงทุนใน UBE จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเป็นเงินลงทุนทั่วไป เนื่องจาก UBE ได้ทำการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก ธุรกิจไบโอดีเซล ได้รับผลกระทบจากปริมาณการจำหน่าย B100 ที่ปรับลดลง แต่กำไรขั้นต้นใกล้เคียงกับ ไตรมาสก่อน ส่วนธุรกิจ เอทานอล กำไรขั้นต้นปรับลดลงร้อยละ ๔๘ และ ๘๒ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการจำหน่ายเอทานอลที่ปรับลดลง ในขณะที่ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มูลค่าสูง (High Value Products (HVP) ได้เริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ สู่ผู้บริโภคโดยตรงภายใต้แบรนด์ B Nature Plus ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน ๒๑๖.๖๐ ล้านหุ้น คิดเป็น ๓๐% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดในครั้งนี้ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ ๕.๐๐ บาท

๕. กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ รับรู้กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท BCP Energy International Pte. Ltd. (BCPE) ๑๒๒ ล้านบาท มี EBITDA ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ ๑๕๘ และ ๖๒๒ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้จากการขายน้ำมันดิบและก๊าซปรับเพิ่มขึ้น โครงการ YME เริ่มการผลิตในเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านกำลังการผลิตและกระแสเงินสดให้กับ OKEA โดยในปีแรกจะเพิ่มกำลังการผลิตให้กับ OKEA ๕,๖๐๐ บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี ๒๕๖๔ จะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ ๑๕,๕๐๐ - ๑๖,๕๐๐ บาร์เรลต่อวัน

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ ที่เริ่มคลี่คลายลงจากการเร่งฉีดวัคซีน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทยอยปรับลดลง บริษัท บางจากฯ ได้ปรับรูปแบบการทำงานเป็นแบบ Hybrid Workplace ให้พนักงานสามารถทำงานแบบผสมผสานกันระหว่างการปฏิบัติงานที่บ้านและสำนักงาน เพื่อความกระชับ คล่องตัว ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ โดยยังคงให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน ลูกค้า จัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ทำให้มีพนักงานที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ ๒ เข็มแล้วในอัตราสูง รวมทั้งจัดหาวัคซีนเข็มที่ ๓ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และการพ่นฆ่าเชื้อที่สำนักงานเป็นประจำ จัดรถตรวจคัดกรองเชื้อ โควิด-๑๙ เคลื่อนที่ (Antigen test mobile unit) ให้กับพนักงานบางจากและในกลุ่มทุกสัปดาห์ รวมถึงพนักงานในสถานีบริการน้ำมันฯ และร้านกาแฟอินทนิลเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคเมื่อเข้ามาใช้บริการ

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการจัดทำแผนกลยุทธ์และปรับองค์กรเพื่อความยั่งยืน บริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงพอกับการดำเนินธุรกิจและแผนการลงทุน และเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ประสบความสำเร็จในการออกและเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า ๗,๐๐๐ ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มีความพร้อมและสามารถตั้งรับกับสถานการณ์โควิด-๑๙ ได้ดีขึ้น พร้อมก้าวสู่องค์กร ๑๐๐ ปี ที่แข็งแรงและมั่นคง

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๐๓ วันพุธที่ ๑๗ - วันอังคารที่ ๒๓ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔

 


703 1342