26thApril

26thApril

26thApril

 

November 26,2021

แนะนำ NEW MG EP PLUS รถยนต์ไฟฟ้าใช้งานได้จริง

เอ็มจีแนะนำ NEW MG EP PLUS ที่เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อตอกย้ำภาพรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น พร้อมลงทุนขยายสถานี MG Super Charge เพิ่มเติมอีกกว่า ๕๐๐ แห่งในเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างความสะดวกสบาย และเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถ

 

เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย แนะนำ NEW MG EP PLUS ที่เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อตอกย้ำภาพรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น พร้อมเชิญชวนคนไทยมาร่วมทดลองใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอ็มจีภูมิใจที่ปัจจุบันคนไทยมีความคุ้นชิน และหันมาสนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่เอ็มจีเริ่มบุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของเอ็มจีออกสู่ตลาดเมื่อ ๒ ปีก่อน ถึงปัจจุบันเอ็มจียังคงเดินหน้าแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด และเดินหน้าผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจังและ ต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาด้านการบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั้งการบริการ และดูแลรักษารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรทั่วประเทศ ตลอดจนการลงทุนขยายสถานี MG Super Charge โดยปัจจุบันมีกว่า ๑๑๙ แห่ง และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีกกว่า ๕๐๐ แห่งในเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างความสะดวกสบาย และเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทำให้วันนี้แบรนด์เอ็มจีมีความพร้อมทุกด้านในการรองรับ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศอย่างเต็มประสิทธิภาพ และพร้อมยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยให้ก้าวสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้”

สำหรับ NEW MG EP PLUS เป็นการยกระดับการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้จริงให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจาก MG EP รุ่นปกติ ซึ่งยังคงสะท้อนมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ไม่ใช่มีดีแค่ดีไซน์ แต่จะต้องตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง ใน ๔ ด้านหลักๆ ได้แก่ ด้านมิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน (Dimension) ขนาดใหญ่และภายในกว้างขวางสามารถบรรทุกได้ทั้งคนและของได้เต็มที่กับจุดเด่นของการเป็นรถประเภทสเตชันแวกอนที่มีพื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง ๑,๔๕๖ ลิตร พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง ๗๕ กิโลกรัม ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถขนสัมภาระและอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากกว่าเดิม เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้า

ด้านความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย (Convenience & Safety) ที่ครบครันทั้งฟังก์ชันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก พร้อมการติดตั้งระบบกรองอากาศ PM 2.5 ที่สามารถดักจับและป้องกันฝุ่นละอองอนุภาคเล็กภายในห้องโดยสาร และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้าเพิ่มความเรียบร้อย และสะดวกในการบำรุงรักษา นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งในรูปแบบ Active และ Passive Safety ครบครัน จึงให้ความมั่นใจในการขับขี่

ด้านสมรรถนะของ EV (EV Performance) ชูจุดเด่นของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า กับแรงบิดสูงสุดที่มาตั้งแต่ต้น ทำให้เร่งได้แบบทันใจไม่ต้องรอรอบ สามารถทำอัตราเร่ง ๐-๑๐๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา เพียง ๘.๘ วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้วิ่งได้ไกลถึง ๓๘๐ กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และด้านความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (Value) ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว โดยมีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่ ๐-๑๐๐% เฉลี่ยเพียง ๒๐๐ บาท หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง ๑ บาทต่อกิโลเมตร จึงทำให้ประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมัน ๒-๓ เท่า และในเรื่องของการดูแลรักษาที่ผู้บริโภคบางส่วนยังมีความกังวล เอ็มจีก็ได้เผยค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะตลอดระยะทาง ๑๐๐,๐๐๐ กิโลเมตร อยู่ที่ประมาณ ๗,๘๒๘ บาทเท่านั้น

นอกจากจุดเด่นที่กล่าวมาข้างต้น MG EP ยังถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่มีมาตรฐานระดับสากล ที่วางจำหน่ายในประเทศโซนยุโรปหลายประเทศ โดย NEW MG EP PLUS ราคาจำหน่าย ๙๙๘,๐๐๐ บาท มีสีตัวถังให้เลือก ๓ สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีเงิน (Metallic Grey) และสีดำ (Black Knight)

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๐๔ วันพุธที่ ๒๔ - วันอังคารที่ ๓๐ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๔


703 1342