29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

December 18,2021

การเมืองรุมล้อม‘เมืองย่าโม’ ชู‘หน่อย’นายกรัฐมนตรีคนโคราช ‘กำนันนอม’นั่งเลขาพรรค‘ชัช เตาปูน’

หลายพรรคการเมืองรุม หวังพิชิตเก้าอี้ส.ส.โคราชให้ได้มากที่สุด “ไทยสร้างไทย” ชูคุณหญิงหน่อยเป็นนายกฯ อาสากลับมากู้วิกฤตเศรษฐกิจโคราช ด้าน “กำนันประนอม” แห่งวังน้ำเขียวได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคของชัช เตาปูน อยากได้ส.ส. ๑๐ ที่นั่ง ส่วน “อนุทิน” ยกทัพภูมิใจไทยประชุมใหญ่ที่ชาติชายฮอลล์

เมื่อเวลา ๑๔.๑๐ น. วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๔ ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) จ.นครราชสีมา ขบวนคาราวานสร้างไทย ๗๗ จังหวัดของพรรคไทยสร้างไทย นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ (หน่อย) เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เดินทางถึงตัวเมืองโคราช โดยมีนายโภคิน พลกุล นายพงศกร อรรณนพพร นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น น.ต.ศิธา ทิวารี นายประวัติ อุตโมท และคณะทำงานได้มาไหว้สักการะและอธิษฐานขอพรท้าวสุรนารี วีรสตรีกู้ชาติ โดยมีนายก้องศักดิ์ อังศุพันธ์ คหบดีชาวโคราชซึ่งเป็นเพื่อนกับนายสมพล เกยุราพันธุ์ (บู๊) บิดาของคุณหญิงหน่อยมาร่วมต้อนรับด้วย รวมทั้งนายวิโรจน์ โรจน์กิตติตคุณ เจ้าของโรงแรมโคราชรีสอร์ท นายศรรบ หล่อธราประเสริฐ กรรมการผู้จัดการกลุ่มไทยสงวนบริการ นายพชร ลีสัมพันธ์ ประธานกรรมการบริษัท ศรีมงคลขนส่ง จำกัด และนายสายัณห์ โกลาตี นายกสมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญนครราชสีมา เป็นต้น

จากนั้น ได้ขึ้นรถกล่าวปราศรัยสั้นๆ ว่า “หน่อยในฐานะลูกโคราช หลานย่าโม วันนี้ขออาสานำทัพไทยสร้างไทย มากู้วิกฤตของบ้านเมือง ขอเชิญชวนคนโคราชมาร่วมสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดให้กับลูกหลาน วันนี้ขอประกาศว่า โคราชต้องถูกพัฒนาให้เป็นมหานครของภูมิภาค โคราชต้องไม่ใช่เมืองผ่านอีกต่อไป โคราชต้องเป็นเมืองหลัก เศรษฐกิจต้องฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง การสร้างพรรคไทยสร้างไทยครั้งนี้ ถือเป็นภารกิจสุดท้ายที่ต้องการทำให้ประชาชน ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และยุติปัญหาความขัดแย้ง ฟังทุกความเห็นต่างๆ ร่วมสร้างชาติที่ดีขึ้น วันนี้หน่อยขอนำทัพไทยสร้างไทย มาขอโอกาสจากคนโคราช ให้สุดารัตน์กลับมานำทัพกู้วิกฤตชาติ กลับมากู้เศรษฐกิจโคราช ให้เปลี่ยนเป็นมหานครของภูมิภาคให้ได้”

ขอนายกฯ เป็นลูกหลานโคราช

ทางด้านนายพงศกร อรรณนพพร กล่าวว่า “วันนี้ลูกหลานแท้ๆ ของโคราช ลูกหลานของย่าโม อาสามาสู้ศึกกู้ประเทศ ให้วิกฤตของประเทศหมดไป มาร่วมกันยุติความขัดแย้งให้หมดไป เราจะยุติความเห็นต่าง มาร่วมกันสร้างเศรษฐกิจ ที่สำคัญจะได้นายกรัฐมนตรีเป็นลูกหลานคนโคราชแท้ๆ วันนี้เรามาสักการะย่าโม เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน มีเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย พี่น้องต้องร่วมใจกัน เลือกคนโคราชบ้านเอ็งมาเป็นนายกรัฐมนตรี” และในช่วงค่ำนำคณะไปเดินพบปะประชาชนที่ตลาดเซฟวัน

จากนั้นวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่เรือนโคราช-เฉลิมวัฒนา เยื้องอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมนายโภคิน พลกุล นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น น.ต.ศิธา ทิวารี จัดเวทีพบผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ-การท่องเที่ยวในโคราช โดยเน้นย้ำความผูกพันของครอบครัวคุณหญิงสุดารัตน์ เกิดและเติบโต รวมทั้งประกอบธุรกิจขายผ้าไหมในตัวเมืองโคราช จึงมีความคุ้นเคย ความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับถิ่นกำเนิดในฐานะลูกโคราชหลานย่าโม

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาโคราชซบเซาต่อเนื่อง เดิมเป็น “ประตูสู่อีสาน” เป็น “เมืองหลัก” ปัจจุบันกลายเป็นเพียง “เมืองผ่าน” ทั้งที่มีจุดแข็งโดยเฉพาะด้าน Logitics อุตสาหกรรม เทคโนโลยีอุตสาหกรรมเกษตร จึงสมควรจะมี “ท่าเรือบก” เป็นเขตปลอดภาษีเพื่อการส่งออกและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับคึกคักอีกครั้ง โคราชเคยเป็นจุดหมายปลายทางเส้นทางท่องเที่ยว ดูได้จากรถทัวร์ปรับอากาศที่มาโคราชมากมายในอดีต ทำให้การค้าขายเฟื่องฟู ขณะนี้สิ่งเหล่านี้หายไป จึงเล็งเห็นปัญหาและให้คำมั่นจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจโคราชให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง”

วิพากษ์ ‘รัฐราชการ’
 
ด้านนายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า หากจะเปลี่ยนแปลงประเทศต้องเปลี่ยนแปลงพรรคการเมืองก่อน จึงเชิญทุกคนมาร่วมสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดกับพรรคไทยสร้างไทย เพื่อส่งมอบให้กับลูกหลานที่ผ่านมา แนวคิดอำนาจนิยม เอื้อพวกพ้อง ทำให้ประเทศถดถอย โดยใช้กลไก “รัฐราชการ” สร้างความยากลำบากคนตัวเล็กในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องและเป็นบ่อเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของกฎระเบียบจาก “รัฐราชการ” เป็นตัวฉุดรั้งคนไทยให้อยู่ภายใต้พันธนาการ และที่สำคัญต้องสร้างพลัง Empower ให้ประชาชนคนตัวเล็กให้มีเสียงที่ผู้มีอำนาจรับผิดชอบต้องฟัง ส่วนการปลดปล่อย Liberate คนตัวเล็ก ต้องทำการกิโยตินกฎหมายที่ไม่จำเป็นและฉุดรั้งการทำมาหากินประชาชน อย่างเช่น กฎหมายการประมงที่ออกด้วย ความไม่เข้าใจ ทำให้ประมงพื้นบ้านได้รับผลกระทบ จนไม่สามารถทำมาหากินได้ ดังนั้น จึงต้องออก พ.ร.ก. ๑ ฉบับ แขวนการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคเป็นเวลา ๓ ปี เพื่อทำ sandbox ทางกฎหมายโดยเร่งแก้ไขให้เสร็จสมบูรณ์ในเวลาดังกล่าว หากแก้ไม่เสร็จก็ต้องแขวนการบังคับใช้อีก ๒ ปี จนกว่าจะแก้กฎหมายให้เสร็จ

“ประเทศไทยมีจุดแข็งที่สำคัญในด้านอาหาร สุขภาพ ท่องเที่ยว การเป็นศูนย์กลางคมนาคมและโลจิสติกส์ หากการวางแผนที่ดีจะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านอาหาร ด้านสุขภาพ ด้านการท่องเที่ยว และด้านคมนาคมโลจิสติกส์ นอกจากนี้การลดจำนวนปีในการศึกษาจะช่วยให้ผู้ปกครองและเด็กมีภาระน้อยลง และสามารถทำตามความฝันของตนเองได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางต้องนำจุดเด่นความสามารถของแต่ละจังหวัด มาสร้างเป็น Networking กันทั้งระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขัน พรรคไทยสร้างไทยภายใต้การนำของคุณหญิงสุดารัตน์ มองประชาชนเป็นศูนย์กลาง ในการจัดทำนโยบาย แต่น่าเสียดายที่รัฐราชการ ทำให้ประชาชนคนตัวเล็กต้องมีข้อติดขัดต่างๆ ในการทำมาหากิน เป็นอุปสรรคในการสร้างรายได้ ดังนั้น พวกเราต้องสร้างพลัง Empower และ Liberate ปลดปล่อยประชาชนให้เร็วที่สุด” นายโภคิน กล่าว

นายประนอม โพธิ์คำ หรือ “กำนันประนอม”

‘กำนันนอม’ ซบชัช เตาปูน

ทางด้านนายประนอม โพธิ์คำ หรือ “กำนันประนอม” แห่งอำเภอวังน้ำเขียว อดีตส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด (วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒) ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ แต่ปัจจุบันย้ายไปสังกัดพรรคพลังท้องถิ่นไทย ของนายชัชวาลย์ คงอุดม หรือ “ชัช เตาปูน” และเมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ ได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคพลังท้องถิ่นไทย เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย ซึ่งดำเนินรายการโดยนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ หรือ “หมาแก่” เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงการย้ายไปอยู่กับพรรคนี้ว่า “ผมฟังนโยบายของพรรคพลังท้องถิ่นไทย คือ การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เราคนชนบท ปัญหาของชนบทเยอะ การกระจายอำนาจลงไม่ถึงท้องถิ่น ผมรู้จักกับคุณชัชประมาณ ๑ ปี ซึ่งการย้ายไปร่วมพรรคถือว่าไม่เร็ว ถ้าได้ฟังแนวคิดนโยบายที่เราคิดและต้องการพัฒนาบ้านเมือง”

นอกจากนี้ นายประนอม โพธิ์คำ ยังย้ำว่า “การเดินทางมาอยู่พรรคพลังท้องถิ่นไทยครั้งนี้ เดินทางด้วยตัวพวกเราเอง เราอยู่เป็นอิสระของพวกเรา ไม่ได้ไปยุ่งกับกลุ่มสามมิตร ความสัมพันธ์กับสามมิตรยังไม่เปลี่ยน ยังเคารพนับถือกันเหมือนเดิม ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้าของพรรคพลังท้องถิ่นไทย ฐานหลัก คือ จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่นๆ เช่น จังหวัดสระบุรี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุดรธานี และศรีสะเกษ ซึ่งน่าจะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ อยู่ที่ว่าประชาชนจะไว้ใจพรรคเราขนาดไหน ก็อยากได้ ส.ส. ๑๐ คนขึ้นไป”

ภูมิใจไทย’ประชุมใหญ่ที่โคราช

ทางด้านพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กำหนดจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๖๔ ที่จังหวัดนครราชสีมา ในวันอาทิตย์ที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๒.๐๐ น. ณ อาคารชาติชายฮอลล์ สนามกีฬา ๘๐ พรรษาฯ โดยกำหนดจะมีผู้บริหารและสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศเข้าร่วมประมาณ ๑,๕๐๐ คน ซึ่งน่าจะเป็นการมอบหมายให้นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล “กำนันป้อ” และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเจ้าของพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบงานนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล

ส.ส. ๑๔ เขตในโคราช

ทั้งนี้ จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๔ จังหวัดนครราชสีมา แบ่งการเลือกตั้งส.ส. ออกเป็น ๑๔ เขตเลือกตั้ง โดยพรรคพลังประชารัฐ ได้รับเลือกตั้ง ๖ เขต ได้แก่ เขต ๑ นายเกษม ศุภรานนท์ เขต ๔ นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ เขต ๖ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ เขต ๗ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ เขต ๘ นางทัศนาพร เกษเมธีการุณ และเขต ๑๑ นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม, พรรคเพื่อไทย ๔ เขต ได้แก่ เขต ๓ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เขต ๕ นายโกศล ปัทมะ เขต ๑๒ นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ และเขต ๑๔ นายสุชาติ ภิญโญ, พรรคภูมิใจไทย ๓ เขต ได้แก่ เขต ๙ นายอภิชา เลิศพชรกมล เขต ๑๐ นายพรชัย อำนวยทรัพย์ และเขต ๑๓ นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ ส่วนอีก ๑ ที่นั่งในเขต ๒ เป็นของพรรคชาติพัฒนา คือนายวัชรพล โตมรศักดิ์

จับตาเลือกตั้งสมัยหน้า

สำหรับการเลือกตั้งส.ส.ในสมัยหน้า คาดว่า จะมีขึ้นในอีก ๑ ปีข้างหน้า สนามการเลือกตั้งส.ส.ในจังหวัดนครราชสีมา จึงเป็นที่จับตามองเพราะมีหลายพรรคการเมืองต้องการเข้ามายึดครอง โดยการเลือกตั้งสมัยหน้า ซึ่งมีบัตรเลือกตั้ง ๒ ใบ พรรคการเมืองใดจะได้คะแนนเสียงมากที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๗ ฉบับที่ ๒๗๐๗ วันพุธที่ ๑๕ - วันอังคารที่ ๒๑ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔

 

 


1025 1614