3rdMay

3rdMay

3rdMay

 

July 26,2023

ผอ.รพ.ยืนยันขยะติดเชื้อไม่มีกลิ่น ไม่มีผลต่อสุขภาพเชื่อถูกกลั่นแกล้ง

 

หลังมีผู้ร้องเรียนสื่ออ้าง รพ.ชื่อดัง สร้างอาคารกำจัดขยะติดเชื้อติดบ้านพัก แจ้งเรื่องร้องไปที่รพ.ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ ด้านผอ.รพ.ย้ำชัด การกำจัดขยะติดเชื้อของโรงพยาบาลไม่มีกลิ่นและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เชื่อถูกกลั่นแกล้ง แต่พร้อมประสานหน่วยงานกลางมาตรวจสอบเพื่อจบปัญหา

เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๖ ที่แฟลตกระดังงา ภายในศูนย์อนามัยที่ ๗ ขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในแฟลตซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ ร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังได้รับความเดือดร้อน เป็นผลกระทบจากการดำเนินการกำจัดขยะ ภายในอาคารกำจัดขยะของโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ติดกันประมาณ ๑-๓ เมตร โดยมีรั้วกำแพงกั้นขึ้นมา และพบว่ามีถังขยะสีแดงตั้งเรียงกันอยู่ข้างตัวอาคารฝั่งซ้ายจำนวนมาก และยังมีเจ้าหน้าที่นำถังขยะติดเชื้อถังสีแดงมาพักไว้รอการกำจัดภายในอาคาร และยังพบว่ามีปล่องสำหรับปล่อยไอเสียออกมา โดยสร้างขึ้นเหนือจากอาคารปล่อยสู่ท้องฟ้า โดยเรื่องดังกล่าวได้ร้องเรียนไปแล้วหลายครั้ง ทั้งที่โรงพยาบาลโดยตรง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

ต่อมาโรงพยาบาลขอนแก่น มีการชี้แจง ผ่านทางเว็บไซต์และสื่อโซเชียลช่องทางต่างๆ ว่า “ตามที่มีสื่อโซเชียลเผยแพร่ข้อมูลเรื่องการจัดการขยะติดเชื้อของโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ขององค์กร และยังทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในหลายประเด็น โรงพยาบาลขอนแก่น จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงตามเอกสารที่แนบมานี้ การจัดการมูลฝอยติดเชื้อของโรงพยาบาลขอนแก่นนี้เป็นระบบกรจัดการมูลฝอยติดเชื้อโดยใช้วิธีการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ โดย “วิธีการทำลายเชื้อด้วยไอน้ำ” ซึ่งเป็นไปตามข้อ ๒๕(๒) แห่งกฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ.๒๕๔๕ ที่ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๔๕ (มิใช่ ‘การเผา’ ตามข้อ ๒๕(๒) ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด โรงพยาบาลขอนแก่นประสงค์จะดำเนินการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อด้วยตนเองโดย”วิธีการทำลายเชื้อด้วยไอน้ำ” จึงดำเนินการตามขั้นตอนตามข้อที่ ๖ ข้อที่ ๒๕(๒) ข้อที่ ๒๗ และข้อที่ ๒๘ ตลอดจนดำเนินการทั้งด้านการเก็บ การขน การกำจัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแห่งกฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อพ.ศ.๒๕๔๕ ทุกประการ โดยโรงพยาบาลขอนแก่นได้ดำเนินการแจ้งให้เทศบาลนครขอนแก่นเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๕ จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจสอบระบบกำจัดมูลฝอยติดเชื้อเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งเทศบาลนครขอนแก่นได้เข้าพื้นที่ตรวจสอบระบบครั้งแรกเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ และได้ติดตามความคืบหน้าหลายครั้ง พบว่าโรงพยาบาลขอนแก่นดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐาน ตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ.๒๕๔๕ ทุกประการ

“เพียงแต่พบเหตุรำคาญเรื่องกลิ่นกับผู้พักอาศัยของศูนย์อนามัยที่ ๗ ขอนแก่นที่พักอยู่ติดรั้วกำแพงกั้น จึงขอให้โรงพยาบาลขอนแก่นแก้ไข ปรับปรุง เรื่องกลิ่น ซึ่งถือเป็นเหตุรำคาญ จึงได้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุง สรุปโดยรวมดังนี้ โดยกลิ่นจาก ‘ของเหลวหลังการบำบัด’ ดำเนินการให้ปลายท่อระบายของเหลวจากระบบบำบัดจุ่มลงใต้ผิวน้ำบริเวณรางระบายน้ำ จัดทำฝาตะแกรงและปิดด้วยสารดักกลิ่น ประกอบด้วย ผงถ่านกัมมันต์ ผงกาแฟ ตลอดแนว รางระบายน้ำเสียทั้งหมด และลงสู่ระบบบำบัดน้ำเสียของโรงพยาบาล (ระบบ Activated Sludge) ในอาคารบำบัดมูลฝอยติดเชื้อที่เมื่อบำบัดเสร็จในแต่ละรอบ รอบละประมาณ ๔๐ นาที ฝ่าบนและฝาล่างจะเปิดออก ซึ่งขณะฝาเปิดจะมี ‘ไอน้ำ’ ออกมา ในส่วนนี้ได้มีการปรับปรุง โดยจัดทำ hood ทั้งฝาบนและล่าง พร้อมมอเตอร์ เพื่อดูดไอน้ำที่ออกมาหลังเปิดฝา และจัดทำปล่องระบายไอน้ำจากปากเหนือฝ่าปิด-เปิด ตลอดแนวจนปากปล่องสูงกว่าอาคารผู้ป่วย และอาคารผู้พักอาศัยของศูนย์อนามัยที่ ๗ ขอนแก่น พร้อมเปลี่ยนทิศทางของปลายปล่องออกจากศูนย์อนามัยที่ ๗ ซึ่งห่างจากอาคารพักอาศัยศูนย์อนามัยกว่า ๑๐ เมตร โดยภายในปล่องจะมี carbon filter (แผงกรองกลิ่น) อีก ๓ ชั้น และภายหลังการปรับปรุงแล้วเสร็จ หอผู้ป่วยที่อยู่ใกล้ที่สุด กว่า ๓๐ เมตร ก็ไม่ได้ประสบปัญหาเรื่องกลิ่นแต่อย่างใด และตัวอาคารกำจัดมูลฝอยติดเชื้อโดยวิธีฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำ ได้จัดการปิดผนังให้มิดชิดทั้ง ๓ ด้าน (ด้านหลังที่ติดกับศูนย์อนามัยที่ ๗ และด้านข้าง ๒ ด้าน) เหลือเพียงด้านหน้าอาคาร ซึ่งหันหน้าเข้าตัว โรงพยาบาลระหว่างบำบัดมูลฝอยติดเชื้อ โรงพยาบาลขอนแก่นทำแผงกั้นปิดทึบบริเวณกำแพงด้านหลังที่ติดกับศูนย์อนามัยที่ ๗ ขอนแก่น ที่สูงกว่าตัวอาคารกำจัดมูลฝอยติดเชื้ออีกชั้นหนึ่งด้วยเพื่อป้องกันกลิ่นจากไอน้ำ”

นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น

ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๖ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่อาคารกำจัดขยะติดเชื้อ ภายในโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งด้านหลังของแฟลตเจ้าหน้าที่ ศูนย์อนามัยที่ ๗ ขอนแก่น หลังพบการร้องเรียนเกิดขึ้น เนื่องจากระบุว่าได้รับผลกระทบในเรื่องของกลิ่น ที่มาจากการกำจัดขยะติดเชื้อ โดยมีกลิ่นตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐ น. ถึงประมาณ ๑๕.๐๐ น.ของทุกวัน ซึ่งจากการลงพื้นที่นั้น พบว่าทางเจ้าหน้าที่กำลังทำการกำจัดขยะด้วยระบบไอน้ำพอดี ซึ่งหลังมีการบดอัดเข้าไปในเครื่องกำจัดขยะแล้ว ก็ปล่อยลงสู่ถังขยะด้านล่างเพื่อเตรียมนำไปทิ้ง พบว่ามีกลิ่นขยะทั่วไปไม่ถึงกับรุนแรง และมีไอน้ำโชยออกมาหลังเปิดฝา ซึ่งไม่มีควัน และไม่มีกลิ่นไหม้

นายฉัตรชัย บุตรปาละ อายุ ๕๔ ปี พนักงานบริการศูนย์กำจัดขยะ ทำหน้าที่กำจัดขยะติดเชื้อของโรงพยาบาลฯ กล่าวว่า ทำงานจุดนี้มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ และเมื่อก่อนเป็นระบบเผาทำลายกระทั่งมาสู่ระบบไอน้ำในปัจจุบันนี้ ในความรู้สึกที่ทำงานนั้น การเผาจะมีกลิ่นแรงมาก แต่พอเปลี่ยนเป็นระบบกำจัดขยะติดเชื้อด้วยไอน้ำนั้น ก็มีเพียงกลิ่นของขยะทั่วไป แต่จะไม่มีกลิ่นควันหรือกลิ่นสารเคมี ที่ผ่านมาไม่มีการเจ็บป่วยจากการกำจัดขยะติดเชื้อ ไม่มีการเป็นมะเร็ง ทุกคนมีการตรวจสุขภาพประจำปีก็ไม่พบปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด ยืนยันว่าที่พูดคือเรื่องจริงและไม่ได้พูดเอาใจโรงพยาบาลเพราะทำงานที่นี่แต่อย่างใด


นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า การร้องเรียนมีเพียงแฟลตดังกล่าวเท่านั้น ที่ระบุว่าได้รับผลกระทบในเรื่องของกลิ่น ซึ่งทางโรงพยาบาลขอนแก่นเองยืนยันว่าทำถูกต้องมาตรฐานทุกอย่าง และไม่มีในเรื่องปัญหาของการส่งกลิ่นเดือดร้อนรำคาญผู้ป่วยและญาติ ซึ่งมีหอผู้ป่วยอยู่ใกล้ๆ ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนในส่วนนี้แต่อย่างใด โดยการทำงานของเครื่องนั้น เมื่อขยะติดเชื้อมาถึงโรงงาน จะมีการคัดแยกพร้อมกับการชั่งน้ำหนัก ก่อนที่จะเริ่มต้นการทำลายขยะติดเชื้อ ด้วยพลังงานไอน้ำ ขยะติดเชื้อจะถูกเครื่องนำขึ้นไปเข้าเครื่องกำจัดขยะที่อยู่ด้านบน ด้วยระบบลิฟต์ไฮดรอลิิก จากนั้นจะเทขยะติดเชื้อเข้าในเครื่องกำจัดขยะด้วยระบบไอน้ำเพื่อทำลายเชื้อด้วยไอน้ำ ก่อนปิดฝาเครื่องเพื่อทำลายเชื้อด้วยไอน้ำอุณหภูมิสูงภายใต้แรงดัน ซึ่งหลังจากที่ปิดฝาเรื่องแล้ว เครื่องจะเริ่มต้นด้วยขั้นตอนบดขยะเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิว เพื่อให้ไอน้ำเข้าถึงขยะติดเชื้อ เข้าถึงขยะทุกจุด รักษาอุณหภูมิหล่อเย็น ระบายน้ำทิ้งแล้วเทขยะออกจากเครื่องจนครบกระบวนการ

“หลังจากการบดสับเสร็จเครื่องจะทำลายเชื้อโรคด้วยอุณหภูมิสูง ๑๓๘ องศาเซลเซียส ภายใต้แรงดัน ๓.๘ บาร์ เป็นระยะเวลา ๑๐ นาที เมื่อบำบัดครบกระบวนการเป็นเวลา ๔๐ นาที ฝาบนก็จะเปิดเพื่อระบายไอน้ำ ส่วนฝาล่างก็จะเทขยะที่ผ่านการกำจัดเชื้อหมดแล้วลงถังด้านล่าง โดยจะมีไอน้ำออกมาเล็กน้อย ฮู้ด จะสามารถดูดไอน้ำให้หมดภายใน ๕ วินาที จากนั้นจะทำการโกยขยะที่ทำลายเชื้อหมดแล้ว มัดปากถุงก่อนทิ้งเป็นขยะทั่วไป ซึ่งกระบวนการกำจัดขยะติดเชื้อทั้งหมด จะใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาทีในการจัดการกำจัดขยะติดเชื้อ โรงพยาบาลขอนแก่นมีขยะติดเชื้อวันละประมาณ ๑,๒๐๐-๑,๔๐๐ กิโลกรัมเท่านั้น และไม่มีควัน โดยเป็นการดูดไอน้ำขึ้นไปกว่า ๒๐ เมตร และปล่อยออกตรงปล่องระบายไอน้ำสู่ชั้นบรรยากาศ โดยไม่มีการส่งกลิ่นแต่อย่างใดอย่างแน่นอน”

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า เรื่องดังกล่าวเหมือนมีการกลั่นแกล้งกันมากกว่า เพราะตลอดระยะเวลาที่เป็นผู้อำนวยการที่นี่ ยืนยันว่าไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน กลิ่นจะมีเพียงกลิ่นขยะทั่วไป และถังสีแดงที่มีการวางไว้เรียงกันจำนวนมากนั้น เป็นการพักถังหลังจากทำความสะอาด เพื่อเตรียมนำกลับไปตั้งรอใส่ขยะติดเชื้อในโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจึงมองว่าจะต้องหาหน่วยงานกลางเข้ามาตรวจสอบทั้งหมด เพื่อชี้ชัดว่า การที่โรงพยาบาลขอนแก่นถูกร้องเรียนเรื่องกลิ่นนั้นเป็นอย่างไร เพื่อจบปัญหาดังกล่าว แต่หากผู้ร้องไม่ยอมรับในการตรวจสอบจากหน่วยงานกลางแล้ว ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน เพราะทุกโรงพยาบาลใหญ่ทั่วประเทศรวมถึงในต่างประเทศต่างใช้ระบบการกำจัดขยะติดเชื้อด้วยระบบไอน้ำกันทั้งสิ้น ก็ไม่พบว่ามีปัญหาเรื่องกลิ่นเข้ามาแต่อย่างใด

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๙ ฉบับที่ ๒๗๕๕ วันที่ ๑๕ กรกฎาคม - วันที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖


1036 1,451