3rdMay

3rdMay

3rdMay

 

December 06,2023

บุกค้านประกันตัวเสี่ยเต็นท์รถดัง หลังก่อคดีโกงหลายร้อยล้าน

 

ทนายอั๋นพาผู้เสียหายคดีเต็นท์รถมือสองชื่อดังฉ้อโกงซื้อขาย-แลกเปลี่ยนรถหลายจังหวัดกว่า ๒๐๐ คดี บุกยื่นคำร้องค้านประกันตัวผู้ต้องหา เหยื่อเผยคดียืดเยื้อกว่า ๖ ปี บางคนหมดตัวตรอมใจตาย ครอบครัวแตกแยก แต่ทนายยื่นมือช่วยจนอัยการสั่งฟ้อง จึงเริ่มมีหวัง

 

เมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร (ทนายอั๋นบุรีรัมย์) พาผู้เสียหายจากคดีที่ถูกเต็นท์รถมือสองรายใหญ่ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ฉ้อโกงในการซื้อขายแลกเปลี่ยนรถทั้งรายเก่าและรายใหม่ จากหลายจังหวัดภาคอีสาน เช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม และนครราชสีมา กว่า ๒๐๐ คดี ถือป้ายแสดงสัญลักษณ์ที่หน้าศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ข้อความว่า “๖ ปีที่รอคอยวันนี้มาถึงแล้ว เต็นท์รถฉ้อโกงประชาชน อัยการสั่งฟ้องต่อศาล ขอคืนความยุติธรรมสู่พี่น้องประชาชน ๒๐๐ กว่าคดี” หลังจากอัยการจังหวัดได้พิจารณาสั่งฟ้องเสี่ยเจ้าของเต็นท์รถพร้อมพวก ที่ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ได้รับความเสียหายหลายร้อยล้านบาท พร้อมกันนี้ยังได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เพราะเกรงจะไปข่มขู่ผู้เสียหายหรือไปหลอกลวงประชาชนคนอื่นอีก เนื่องจากก่อนหน้านี้แม้ประชาชนที่ถูกหลอกจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี และยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับหลายหน่วยงาน แต่ผู้ต้องหาก็ยังไม่สำนึกหรือเกรงกลัวความผิด ยังไปก่อเหตุหลอกลวงประชาชนได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง   

โดยผู้เสียหายต่างบอกตรงกันว่าอยากให้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำเงินที่ฉ้อโกงประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ จากการหลอกให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนมาคืนให้กับผู้เสียหายด้วย เพราะหลายคนเดือดร้อนซ้ำยังเป็นหนี้เพิ่มอีก ที่ผ่านมาผู้เสียหายบางคนตั้งใจจะนำรถมาขายเพื่อนำเงินไปหมุนทำมาหากิน แต่กลับต้องหมดตัว ถูกฟ้องยึดบ้านเครียดตรอมใจตายและครอบครัวแตกแยก

ทนายอั๋น เปิดเผยว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายที่ถูกเต็นท์หลอกสูญเงินหลายร้อยล้านมาถือป้ายแสดงสัญลักษณ์หลังจากพนักงานอัยการสั่งฟ้องศาลแล้ว ซึ่งคดียืดเยื้อมานานเกือบ ๑๐ ปี พร้อมกันนี้ยังได้มายื่นคำร้องต่อศาลเพื่อคัดค้านการประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราว เพราะพฤติการณ์ของผู้ต้องหาแก๊งดังกล่าวกระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท จึงเกรงว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวอาจจะไปข่มขู่ผู้เสียหาย หรือก่อเหตุหลอกลวงประชาชนคนอื่นอีก ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ และยื่นร้องต่อหลายหน่วยงานเป็นเวลาเกือบ ๑๐ ปี ผู้ต้องหาก็ยังไม่ถูกดำเนินคดี กระทั่งตนยื่นมือเข้ามาช่วยภายใน ๓ เดือนทางอัยการจึงได้ทยอยสั่งฟ้อง หลังจากนี้ก็รอกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายที่ถูกหลอกรายใดยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ ก็สามารถไปแจ้งความเพิ่มได้

นายนิคม แม่นศรรา หนึ่งในผู้เสียหายชาว จ.มหาสารคาม บอกว่า กรณีของตนเองตั้งใจจะนำขายรถเก๋งมา เพราะต้องการเงินไปหมุนทำธุรกิจ ซึ่งทางเต็นท์เสนอราคาให้สูงถึง ๓๒๐,๐๐๐ บาท จึงตกลงขายช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ แต่ทางเต็นท์กลับโน้มน้าวให้เอารถเก๋งคันอื่นในเต็นท์ที่มีราคาถูกกว่าไปขับ โดยเสนอให้ดาวน์ก่อน ๕๐,๐๐๐ บาท ที่เหลือก็ค่อยผ่อนต่อ โดยเงินดาวน์จะหักจากเงินที่ตนตกลงขายรถเก๋ง จากนั้นก็ให้จอดรถไว้ที่เต็นท์ แล้วให้เอารถเก๋งอีกคันไปขับแทน ส่วนเงินที่ตกลงซื้อขายรถค่อยมารับวันหลัง แต่พอตนมา ทวงถามเงินที่ตกลงขายรถเก๋ง ทางเต็นท์กลับบ่ายเบี่ยงอ้างโน่นนี่ ส่วนรถเก๋งที่ถูกหลอกให้ดาวน์ไปขับก็ยังติดไฟแนนซ์ จึงตัดสินใจเอามาคืน แต่ทางเต็นท์กลับไม่ยอมจ่ายเงินที่ซื้อขายรถให้ สุดท้ายก็เสียทั้งรถเก๋ง แถมยังต้องหาเงินจ่ายไฟแนนซ์อีก เงินก็ไม่ได้รถก็ไม่มีขับ ที่ผ่านมาทั้งแจ้งความร้องเรียนแต่ก็ไม่คืบหน้า กระทั่งทนายอั๋น ยื่นมือเข้ามาช่วยจนล่าสุดอัยการได้สั่งฟ้อง ก็เริ่มมีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาผู้เสียหายบางคนที่ถูกโกงจนหมดตัวจนตรอมใจตาย ครอบครัวแตกแยก

นายภัทรพงศ์ ศุภักษร (ทนายอั๋นบุรีรัมย์)

ทางด้านนางทองคำ ทวีรัมย์ ภริยานายพวง จุติประโคน เหยื่ออีกราย บอกว่า ไปซื้อรถหกล้อที่เต็นท์ดังกล่าวช่วงต้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๕ เพื่อจะมารับจ้างถมดิน ก็ยอมกู้เงินนอกระบบ ๖ แสน ไปซื้อรถที่เต็นท์ซึ่งขายในราคา ๕๕๐,๐๐๐ บาท แต่เมื่อทำสัญญาและจ่ายเงินไปแล้ว ๕๐๐,๐๐๐ บาท กลับไม่มีเล่ม จึงขอขยักเงินไว้ก่อน ๕ หมื่นจนกว่าจะได้เล่ม แต่จู่ๆ ทางเต็นท์กลับส่งลูกน้องไปขโมยเอารถหกล้อที่บ้าน อ้างว่าสามียังจ่ายเงินไม่ครบอีก ๕๐,๐๐๐ บาท ทั้งที่ตกลงว่าถ้าได้เล่มจะจ่าย ๕ หมื่นบาทที่เหลือให้ สุดท้ายก็เสียทั้งเงิน ๕ แสน และรถหกล้อไป ก็มีการฟ้องร้องต่อสู้จนชนะคดีแพ่งศาลสั่งให้ชดใช้เงินแต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้เงินสักบาท จึงอยากให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับเจ้าของเต็นท์และพวก และอยากให้คืนเงินด้วย

นสพ.โคราชคนอีสาน ฉบับพิเศษ ปีที่ ๔๙ ฉบับที่ ๒๗๕๙ วันที่ ๑๕ เดือนพฤศจิกายน - วันที่ ๑๔ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖


202 1,457