28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

June 04,2016

‘พีดีเฮ้าส์’สวนกระแสเศรษฐกิจซบ ตั้งเป้าครึ่งปีกวาดยอดขาย ๗๐๐ ล.


นายพิศาล ธรรมวิเศษ


          นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีดี เฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจของประเทศจะยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน รวมถึงภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังอยู่ในภาวะทรงตัว แต่ปรากฏว่า ๓ เดือนเศษที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถปิดจองหรือมียอดขายบ้านได้เกือบ ๔๐๐ ล้านบาท จากสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ ๔๐ สาขา ซึ่งสูงกว่าเป้ายอดขายที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ตัวเลขยอดขายทุกสาขารวม ๓๘๖ ล้านบาท โดยมาจาก ศูนย์รับสร้างบ้านสาขาภาคอีสานมากที่สุด คิดเป็นมูลค่า ๑๒๖ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๓ อันดับ รองลงมาคือยอดขายจากสาขาภาคใต้ คิดเป็นมูลค่า ๑๒๓ ล้านบาท หรือร้อยละ ๓๑ ซึ่งถือว่ายอดขายภาคใต้เติบโตแบบก้าวกระโดด เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนที่อยู่รั้งท้ายตาราง ยอดขายส่วนที่เหลือเป็นของภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ สำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มียอดขายประมาณ ๕๐ ล้านบาทเศษหรือคิดเป็นร้อยละ ๑๓ ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

          “ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภค ส่งสัญญาณขยายตัวดีขึ้น สวนทางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจริง แต่ในช่วง ๙ เดือนข้างหน้า ยังเป็นกังวลกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ ภายใต้โครงการบ้านประชารัฐ ที่ดูเหมือนว่ามาตรการครั้งนี้ กลุ่มบ้านสร้างเองหรือ “ธุรกิจสร้างบ้าน” จะได้รับอานิสงส์ด้วย แต่เมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ “ราคาบ้านรวมค่าที่ดินแปลงที่จะปลูกสร้างต้องไม่เกิน ๑.๕ ล้านบาท” ซึ่งในทางปฏิบัติแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะว่าที่ดินแปลงที่จะใช้ปลูกสร้างบ้านนั้น อย่างน้อยต้องมีขนาด ๔๐ ตารางวาขึ้นไป (มีระยะเว้นโดยรอบตามกฎหมายกำหนด) เฉพาะราคาค่าที่ดินเฉลี่ยตารางวาละ ๑.๕-๓ หมื่นบาท (ในเขตกรุงเทพฯ รอบนอก และปริมณฑล) ก็เกือบเต็มวงเงินให้กู้ยืมแล้ว หรือเหลือวงเงินไม่พอกับค่าก่อสร้างบ้าน ดังนั้นในความเป็นจริงโครงการบ้านประชารัฐ จึงไม่ได้เอื้อต่อธุรกิจสร้างบ้านแต่อย่างใด”

          ปี ๒๕๕๙ ตลาดรับสร้างบ้านหรือกำลังซื้อภาคใต้ปรับตัวดีขึ้นมาก หลังจากที่กำลังซื้อชะลอตัวมานานเกือบ ๒ ปี ขณะที่กำลังซื้อในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังซึมๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการแข่งขันราคากันรุนแรง อย่างไรก็ดี ตัวเลขยอดขายไตรมาสแรกของบริษัทฯ ที่เติบโตนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อผู้บริโภคในต่างจังหวัดที่อั้นมานาน และเกิดจากการปรับตัวเองในหลายๆ ด้านช่วงก่อนหน้านี้ อาทิเช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งด้านการออกแบบและระบบก่อสร้าง การขยายสาขาหรือพื้นที่ให้บริการในต่างจังหวัด การพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรและองค์กร การสร้างเครือข่ายธุรกิจและซัพพลายเชน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ฯลฯ สำคัญที่สุดคือ การรักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของแบรนด์พีดีเฮ้าส์ ให้เป็นที่ไว้วางใจและเชื่อมั่นของผู้บริโภค ภายใต้แนวคิดคุณภาพและบริการมาตรฐานเดียวกัน และนั่นส่งผลทำให้บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ายอดขายปี ๒๕๕๙ นี้ไว้ ๑.๔ พันล้านบาท แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนก็ตาม

          นายพิศาล กล่าวเสริมว่า ในช่วงไตรมาส ๒ นี้ บริษัทฯ เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจและกำลังซื้อผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย สำหรับผู้ที่จองปลูกสร้างบ้าน ทั้งแบบชำระด้วยเงินสดและเงินกู้ยืมหรือขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภายใต้แคมเปญ “เย็นใจ วันมหาสงกรานต์” โดยผู้ที่จองสร้างบ้านทุกท่านจะได้รับสิทธิพิเศษ ๓ ต่อคือ ต่อที่ ๑ เย็นใจ รับฟรีเครื่องปรับอากาศ ๑-๓ เครื่อง ต่อที่ ๒ เย็นใจ รับส่วนลดเงินจอง ๕๐% มูลค่า ๒.๕ หมื่นบาท - ๑ แสนบาท และรับส่วนลดเงินสดเพิ่มอีก ๕ หมื่นบาท - ๑ แสนบาทในวันทำสัญญา และต่อที่ ๓ เย็นใจ เมื่อจะต่อ จะเติม จะเปลี่ยนอะไรก็ได้ตามใจ มูลค่าสูงสุด ๒ ล้านบาท ฟรี” (ตามราคาบ้าน) โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายสำหรับแคมเปญนี้ไว้ ๓๐๐ ล้านบาท หรือเท่ากับเป้ายอดขายรวม ๗๐๐ ล้านบาท ในช่วง ๖ เดือนแรก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ทั้ง ๔๐ สาขาใกล้บ้าน ภายในวันที่ ๓๐ เมษายนนี้เท่านั้น

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๑ ฉบับที่ ๒๓๕๗ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ - วันจันทร์ที่ ๒๕ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙


698 1342