October 27,2016
ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ตรัส “เป็นคนโคราชแล้ว”
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จลอดซุ้มประตูชุมพล
พสกนิกรโคราชซาบซึ้ง “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” เสด็จเยือนโคราช ทรงสักการะย่าโม และลอดซุ้มประตูชุมพล ทั้งยังตรัส “เราเป็นคนโคราชโดยสมบูรณ์แล้ว และก็จะเป็นตลอดไป”
เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๗.๓๐ น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ไปทรงสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีพสกนิกรเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น และทรงรับสั่งตรัสถามกับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเฝ้ารับเสด็จว่า “ซุ้มตรงไหนที่เดินลอดแล้วจะได้เป็นคนโคราช” นายวิเชียรจึงทูลตอบว่า ให้ลอดซุ้มประตูชุมพลพระเจ้าข้า เมื่อได้รับคำตอบแล้ว พระองค์ก็ทรงเสด็จไปลอดที่ซุ้มประตูชุมพล แล้วทรงตรัสอีกว่า “ตอนนี้เราเป็นคนโคราชโดยสมบูรณ์แล้ว และก็จะเป็นตลอดไป”
ประตูชุมพล ตั้งอยู่ด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สร้างเมืองนครราชสีมาเป็นเมืองหน้าด่านเมื่อ พ.ศ.๒๑๙๙ อันเป็นปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา และได้สร้างกำแพงประตูเมืองอย่างแข็งแรง โดยมีช่างชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็นพันธมิตรประเทศกับกรุงศรีอยุธยาในขณะนั้น เป็นผู้ออกแบบผังเมืองให้ โดยเมืองนครราชสีมาในขณะนั้น มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด ๑,๐๐๐x๑,๗๐๐ เมตร เดิมมีประตูเมืองทั้งหมด ๔ ประตู ได้แก่ ประตูพลแสนด้านทิศเหนือ ประตูพลล้านด้านทิศตะวันออก ประตูไชยณรงค์ด้านทิศใต้ และประตูชุมพลด้านทิศตะวันตก ปัจจุบันเหลือเพียงประตูชุมพลเท่านั้นที่เป็นประตูเมืองเก่า ส่วนอีกสามประตูได้สร้างขึ้นใหม่ ลักษณะประตูชุมพลเป็นประตูเชิงเทิน ก่อด้วยหินก้อนใหญ่และอิฐ ฉาบด้วยปูน ส่วนบนเป็นหอรบสร้างด้วยไม้แก่นหลังคามุงกระเบื้อง ประดับด้วยช่อฟ้า กระจังและนาคสะดุ้ง กำแพงต่อจากประตูทั้งสองข้างก่อด้วยอิฐ ส่วนบนสุดทำเป็นรูปใบเสมา
“ชุมพล” นั้นหมายความถึง ที่ชุมนุมพลส่วนใหญ่ เป็นประตูสำหรับเตรียมไพร่พล และออกศึก เนื่องจากมีภูมิประเทศเปิดกว้าง ไม่มีป้อมปราการตามธรรมชาติเหมือนประตูอื่นๆ ในอดีตมีความเชื่อว่า เมื่อลอดผ่านประตูชุมพลไปทำศึกแล้วจะแคล้วคลาดปลอดภัยได้กลับมายังบ้านเมือง คนโคราชในปัจจุบันจึงมีความเชื่อในเรื่องของการลอดซุ้มประตูชุมพลด้านหลังของอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีนี้ว่า หากท่านใดลอด ๑ ครั้ง จะได้กลับมาโคราชอีกในไม่ช้านาน ถ้าลอด ๒ ครั้งจะได้ทำงานหรือกลับมาอยู่ที่โคราช แต่ถ้าลอดถึง ๓ ครั้งก็จะได้คู่ครองเป็นคนโคราช
ประโยคที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีทรงตรัสนั้น สร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่พสกนิกรชาวนครราชสีมาอย่างหาที่สุดมิได้ และยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณตรัสรับสั่งอีกว่า หากชาวโคราชจะร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ไปในนามของ “คนโคราช” พระองค์ท่านจะทรงจัดหาที่ให้ ในนามมูลนิธิจุฬาภรณ์ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ ในช่วงค่ำ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยือนห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา เป็นการส่วนพระองค์ โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเฝ้ารับเสด็จ และทูลเชิญพระองค์ท่านเสวยพระกระยาหารค่ำ โดยมีประชาชนชาวนครราชสีมา เฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น
อนึ่ง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงมีพระตำหนักทิพย์พิมาน อยู่ที่ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หากทรงมีพระราชกรณียกิจที่จังหวัดนครราชสีมาหลายวัน ก็จะทรงประทับอยู่ที่ตำหนักทิพย์พิมานแห่งนี้
นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๓๙๔ วันพุธที่ ๒๖ - วันจันทร์ที่ ๓๑ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙
760 1,617