Challenge เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษ ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้หลายความหมาย หากอยู่ในรูปของกริยาจะ หมายความถึง การคัดค้าน การแย้งก็ได้ แต่ถ้าอยู่ในรูปของคำนามจะแปลได้ว่า “การท้าทาย” คำๆ นี้บางคนฟังแล้วอาจจะ ของขึ้น เพราะบางคนก็ไม่ชอบให้ใครมาท้าทาย ถ้าในสมัยปู่ ย่า จะท้ากันก็มาพูดกันซึ่งๆ หน้า วัดกันไปเลยตัวต่อตัว ซึ่งต่างกับปัจจุบันที่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงทุกซอกหลืบ การจะท้าดวลให้ใครทำอะไรสักอย่างและส่งสารท้าไปยังคนอื่นต่อๆ กันจึงเป็นเรื่องง่าย และกระจายเร็วยิ่งกว่าไวรัสเมอร์สซะอีก

               หลายคนอาจจะไม่ได้ติดตาม หรือหลงลืมกันไปบ้างว่าเคยมี Challenge บนโลกออนไลน์อะไรที่ฮิตทำตามกันทั่วโลก ฮิตขนาดที่ว่าเหล่าคนดัง ดารา ศิลปิน นักกีฬา กระทั่งนักการเมือง เซเลบิตี้ทั้งหลายต่างก็รับคำท้า และทำตามกันเป็น แถวๆ มาดูกันว่ามี Challenge อะไรบ้างที่สร้างสรรค์ มีประโยชน์ต่อส่วนรวม และ Challenge ไหนที่จะไปในแนวไม่ สร้างสรรค์ หรือที่เป็นตัวทำลายผู้ที่รับคำท้ากันบ้าง

               เริ่มด้วยสิ่งที่สร้างสรรค์กันก่อนกับ Challenge ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ Mannequin Challenge (แมนเนอควิน ชาเลนจ์) เล่าคร่าวๆ ก็คือ การถ่ายคลิปเคลื่อนไหว แต่คนที่อยู่ในคลิปห้ามเคลื่อนไหว และ ต้องอยู่ในท่าทางที่นิ่งราวกับเป็นหุ่นขี้ผึ้ง ทำตัวนิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำกันเป็นกลุ่มแก๊ง เพราะจะยิ่งทำให้คลิปนั้นเจ๋งขึ้นไปอีก ซึ่ง Mannequin Challenge นั้น เริ่มมาจากกลุ่มเด็กมัธยมในสหรัฐฯ เริ่มต้นเล่นเป็นกลุ่มแรกๆ และโพสต์คลิปลงในโซเชียล จากนั้นก็เริ่มลามไปถึงเหล่าคนดัง ทั้งนักร้อง นักแสดง กระทั่งนักกีฬา หรือแม้แต่ ฮิลลารี คลินตัน  ผู้เข้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รายล่าสุดที่พึ่งแห้วไป ก็เล่นไปกับเขาด้วย

Mannequin Challenge ที่มีHilary กับ Bon Jovi ร่วมเล่นด้วย 

               ต่อด้วยอีกหนึ่ง Challenge ถือเป็นเทรนด์การสร้างบุญที่เป็นกระแสมากในช่วงปี ๒๐๑๔ กับ Ice Bucket Challenge (ไอซ์ บั๊กเก็ต แชลเลนจ์) เป็นการนำถังมาใส่น้ำและน้ำแข็ง จากนั้นนำมาราดหัว ซึ่งจะตามมาด้วยเสียง กรี๊ดร้องจากความเย็น และตัวสั่นงกๆ ซึ่ง Challenge นี้เป็นโครงการช่วยเหลือกลุ่มผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ALS หรือ ALS Associtaion โดยแคมเปญนี้เป็นการรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวระวังโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากเซลล์ประสาทการสั่งการเสื่อม โดยอาการของโรคดังกล่าวจะเหมือนเวลาที่เราโดนน้ำเย็นๆ สาดใส่ตัวนั่นเอง ซึ่ง Ice Bucket Challenge ได้ริเริ่มขึ้นโดย นายคอรีย์ กรีฟฟิน อดีตผู้จัดการของบริษัทการลงทุน เบน แคปิตอล จำกัด โดยเปลี่ยน Ice Bucket Challenge ให้เป็นการระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรค ALS คนดังทั่วโลกที่ต่างรับคำท้า ไม่ว่าจะเป็น บิล เกสต์ อภิมหาเศรษฐี, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก หรือทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิ้ล และคนอื่นๆ อีกมากมาก ก็จัดน้ำเย็นราดหัว และบริจาคเงินช่วยผู้ป่วยกันทั่วหน้า

รวมเหล่าคนดังเมืองไทย รับคำท้า Ice Bucket Challenge 

               ในประเทศไทยเอง Ice Bucket Challenge เหล่าบรรดาคนดัง ไม่ว่าจะเป็น คุณตัน อิชิตัน, คุณสุรยุทธ สุทัศนะจินดา, สาวๆ ทัพนักกีฬาวอลเล่ย์บอล, หรือหนุ่มฟิล์ม รัฐภูมิ ที่ไปเล่นสาดน้ำแข็ง ที่ประเทศเกาหลีก็โดนตำรวจเรียกปรับไปตามระเบียบ ซึ่งกิจกรรมนี้ข้อดีก็มีเยอะ แต่การเล่นก็ต้องดูสถานที่ และกาลเทศะ ควรเล่นอย่างมีสติ เพราะคนรอบข้างอาจไม่สนุกด้วย และคนเล่นจะเจ็บป่วยได้

               มาถึงฝั่ง Challenge ที่เพี้ยนๆ ถึงจะออกแถวสร้างสรรค์ แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้ามก็มีอย่างเช่น harlem shake (ฮาเร็ม เชค) ที่เป็นการเต้นที่เรียกเสียงฮาได้สุดๆ ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีเพลง ฮาร์เล็ม เชค (Harlem Shake)  จากนั้นก็ชวนเพื่อนๆ มารวมกลุ่มกัน แล้วเปิดเพลงฮาร์เล็ม เชค เป็นเวลา 30 วินาที แล้วจะมีคนเริ่มเต้น ขณะที่คนอื่นนั้นก็ทำอะไรไปตามปกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอถึงวินาทีที่ 15 ของเพลงปุ๊บ คนทุกคนในซีนก็ต้องลุกขึ้นมาเต้นตามสไตล์ของตัวเองจนจบเพลง จะเต้นเพี้ยนหรือรั่วแค่ไหนก็ตามสบายเลยทีนี้        

รวมความฮา Harlem Shake 

               ซึ่งดูๆ ไปก็เรียกเสียงฮา จากท่าทางที่รั่วบวกกับท่าเต้นที่หลุดโลก ทำให้คนที่เห็นเลียนแบบ และเป็นกระแสได้ง่ายๆ ซึ่งก็มีพวกพิเรนท์ไปเต้น ฮาเรม เชค บนดาดฟ้า หรือที่อันตรายทำให้ได้รับบาดเจ็บ ถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี การเลียนแบบที่เป็นอันตรายอย่างนี้  ก็มีอีก Challenge ที่เพี้ยนไม่แพ้กันกับการถ่ายรูป Planking (แพลงกิ้ง) เป็นการนอนคว่ำหน้าตามสถานที่แนวๆ หรือเป็นที่ๆ คนทั่วไปไม่ทำกันอย่าง Planking บนถนน ถังขยะ หรือสถานที่ๆ เสี่ยงอันตราย อย่าง ระเบียงดาดฟ้า ก็มีคนตกไปตายแล้วเหมือนกัน

        Challenge ต่างๆ ของต่างประเทศเห็นได้ว่า มีทั้งสร้างสรรค์ และไม่สร้างสรรค์ สิ่งดีๆ ที่มีให้ทำตามก็เห็นได้เยอะแยะบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งใครจะเลือกใช้ เลือกรับสิ่งไหนต้องพิจารณากันให้ถี่ถ้วน ซึ่งการเลือกใช้สิ่งดีๆ ของ  อินเทอร์เน็ตให้มาเป็นประโยชน์นั้นก็มีให้เห็นอย่าง ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก อยู่ในประเทศไทยนี้แหละกับ Challenge “ก้าว” ความท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต ของตูน อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ร็อคเกอร์ขวัญใจชาวไทย กับการ วิ่ง ๑๐ วัน ระยะทางกว่า ๔๐๐ กิโลเมตร เส้นทางจาก กรุงเทพ ถึง บางสะพาน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์

       ซึ่งพี่ตูน ก็ไม่ได้นึกสนุกอยากวิ่งเล่นๆ หัวๆ เฉยๆ นะครับแต่โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลบางสะพานในการซื้อเครื่องมือแพทย์ที่ขาดแคลน ซึ่งโรงพยาบาลบางสะพานเป็นที่ประชาชนเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก และเครื่องมือการแพทย์ก็ไม่เพียงพอ ซึ่งการเดินทางก็ลำบากถ้าจะเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวเมือง

        หากใครอ่านๆ อยู่เกิดสนใจ หรือใครเคยดูคลิปวิดีโอของโครงการ “ก้าว” จะได้ยินคำพูดของคุณหมอท่านหนึ่งพูด ว่า “หากโรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือคนไข้ที่เพียงพอ ที่เหมือนกับการส่งทหารไปรบในสงคราม โดยให้แท่งเหล็กแค่ แท่งเดียว”
       เห็นไหมครับว่า พลังจากโซเซียลหากใช้ไปในทางที่ถูกที่ควร มันก็จะเกิดพลังแห่งการสร้างสรรค์ การช่วยเหลือ การแบ่งปัน และเข้าถึงประโยชน์ส่วนร่วม เรามาเอาใจช่วยพี่ตูน กับ “ก้าว” ครั้งสำคัญ ในวันที่ ๑ – ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙
 มาร่วมลุ้น และให้กำลังใจไปด้วยกัน และร่วมบริจาคเงินได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาบางสะพาน ชื่อบัญชี “โครงการก้าวคนละก้าว เพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน” เลขบัญชี ๗๔๒-๐๓๗๘-๑๑๘ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: We are Pineapple