ประชุมคณะกรรมการดำเนินงานจัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีมติสถานที่ควรเป็นนอกเมืองแต่ไม่ไกลตัวเมือง สูงเด่นสง่า ประชาชนสักการะบูชาสะดวก และมีพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างจังหวัด สามารถใช้ประโยชน์ทางราชการได้ในอนาคต พื้นที่อย่างน้อย ๒๕ ไร่ เล็งพื้นที่ศูนย์ปภ.และเรือนจำโคราช

                จังหวัดนครราชสีมาและประชาชนได้เห็นพ้องกันว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีต่อชาวจังหวัดนครราชสีมา เห็นพ้องควรจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในสัปดาห์แรกของการสวรรคต ทางราชการ จึงจะมีการขออนุญาตไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สำหรับเคารพสักการะแสดงถึงความจงรักภักดี และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของพสกนิกร

ประชุมหารือเรื่องชาวโคราชจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๙

สิ่งซึ่งเป็นมงคลยิ่ง

                เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา มีการประชุมเพื่อเตรียมการจัดสร้างสิ่งซึ่งเป็นมงคลยิ่ง

                สำหรับการประชุมวันนี้มีคณะกรรมการดำเนินงานฯ เข้าร่วมประชุม เช่น นายสุนทร จันทร์รังสี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐ และประธานสภาวิชาชีพนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งชาติ (สนภช.) นางศศิฑอณร์ สุวรรณมณี วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายกัมปนาท บุตรโต รองปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา นายบำรุง วสันตกรณ์ ประธานชมรมมิตร ๓๑ โคราช นายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา นางบุญรอด จันทพิรักษ์ ผู้แทนธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา และนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น

นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

                นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปัจจุบันบริเวณศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา มีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่แล้ว หากสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชขึ้นมาอีก จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากขึ้นเพื่อเลี่ยงให้เกิดความสง่างามของพระบรมราชานุสาวรีย์ทั้งสองพระองค์ และปัจจุบันบริเวณศาลากลางก็มีพื้นที่จอดรถไม่เพียงพอกับจำนวนของประชาชนที่มาติดต่อราชการ จึงเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ในพื้นที่นี้

                นายสุนทร จันทร์รังสี ประธานสภาวิชาชีพนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งชาติ (สนภช.) เสนอความเห็นว่า หากจะใช้บริเวณนี้ต้องสร้างที่จอดรถใต้ดิน ซึ่งสถานที่ในการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ควรเป็นพื้นที่ในเมืองหรือไม่ควรห่างจากตัวเมืองมากเกินไป เพื่อที่คนเมืองจะได้มีส่วนในการสร้างและบำรุง หากไปสร้างไกลจะทำให้ผู้คนไม่มีส่วนร่วมไม่สนใจและเกิดความเสื่อมโทรมตามมา ดังนั้นสถานที่ที่เห็นว่าเหมาะสมคือ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต ๕ นครราชสีมา

                จากนั้นคณะกรรมการในที่ประชุมได้เสนอสถานที่ขึ้นมาอีก ดังนี้ ศาลปกครองนครราชสีมา, นิด้า, กลางดง อำเภอปากช่อง, เรือนจำกลางคลองไผ่ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ในตอนท้ายที่ประชุมมีมติว่า สถานที่ในการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ควรเป็นที่ที่สง่า ประดิษฐานไว้ในที่สาธารณะให้ประชาชนเข้ามาสักการบูชาและชมได้มีพื้นที่รองรับสำหรับนักท่องเที่ยว และสามารถใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต จึงตัดออกไป ๔ สถานที่ คือ ๑. หน้าลานนวมินทร์ สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว ๒. ลานอนุสรณ์สถานวีรชนคนโคราช ๓. หน้าศาลาจังหวัดนครราชสีมา ๔. บริเวณสวนภูมิรักษ์ ถ.มุขมนตรี

                สรุปท้ายสุดของการประชุมกล่าวถึง พระบรมรูปจะเป็นพระอิริยาบถของพระบรมราชานุสาวรีย์ควรจะเป็นพระอิริยาบถทรงยืนเนื่องจากมีความสง่างาม เป็นการแสดงถึงความยิ่งใหญ่สมพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และกล่าวถึงศิลปินผู้ปั้นว่า ควรติดต่อนายกิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา ประติมากรผู้รับใช้เบื้องพระยุคลบาท เพราะหากจะรอช่างกรมศิลป์จะใช้เวลานานมาก เพราะมีงานเยอะจากทั่วประเทศ จากนั้นจะนัดคณะกรรมการประชุมเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้งในเร็วๆ นี้

                “โคราชคนอีสาน” จะติดตามผลการประชุมเพื่อนำเสนอความคืบหน้าต่อไป

โปรดติดตามข่าวโดยละเอียดจากนสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๑๖ วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ - วันจันทร์ที่ ๒๐ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐