20thApril

20thApril

20thApril

 

February 21,2017

ตลาดรับสร้างบ้านภูธรแข่งเดือด รายใหม่ร่วมวงแข่งขันเพียบ พีดีเฮ้าส์’คาดไตรมาส ๑ แตะ ๓๐๐ ล้าน

          ตลาดบ้านสร้างเองในภาคอีสานแข่งเดือด เหตุมีรายใหม่เข้ามาแข่งขันเพียบ ทั้งนครราชสีมา ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ อุดรธานี เลย และอุบลราชธานี สวนทางตลาดบ้านสร้างเองในกทม. แข่งขันไม่ร้อนแรงเท่า เชื่อเป็นสัญญาณตลาดรับสร้างบ้านฟื้นตัว เตรียมพร้อมเร่งปรับตัวรุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ  

          นางสาวถิรพร สุวรรณสุต ผู้จัดการฝ่ายตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้าน พีดีเฮ้าส์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและวัสดุก่อสร้าง ๒๕๖๐ (THBF 2017) ที่เพิ่งสร็จสิ้นลงเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ความต้องการสร้างบ้าน และกำลังซื้อผู้บริโภคในไตรมาสแรกปีระกา ปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วง ๖ เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ประเมินจากยอดจองปลูกสร้างบ้านของบริษัทฯ เฉพาะในช่วง ๕ วันของการร่วมงานฯ มูลค่ารวม ๑๘๔ ล้านบาท แบ่งเป็นลูกค้าปลูกสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล คิดเป็นมูลค่า ๘๒ ล้านบาท และต่างจังหวัดมูลค่า ๑๐๒ ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายอีกจำนวนหนึ่ง ที่ตัดสินใจไม่ทันภายในวันงานฯ และมีการเจรจากันต่อ โดยคาดว่า จะปิดจองได้อีกไม่น้อยกว่า ๑๐๐-๑๒๐ ล้านบาท เบ็ดเสร็จน่าจะมียอดขายจากงานนี้ประมาณ ๓๐๐ ล้านบาทเศษ แม้ว่ายอดขายจะต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่พอใจในสถานการณ์ปัจจุบัน 

          “จากการสำรวจตลาดบ้านสร้างเองในต่างจังหวัดเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทฯ พบว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาแข่งขันในธุรกิจสร้างบ้านกันมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดภาคอีสาน อาทิ นครราชสีมา ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ อุดรธานี เลย และอุบลราชธานี ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการเหล่านี้ ผันตัวเองมาจากผู้ค้าวัสดุและผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป ตลอดจนสถาปนิกหรือพนักงาน ที่เคยทำงานอยู่กับบริษัทรับสร้างบ้าน ลาออกมาเปิดธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นของตัวเอง ส่งผลให้ตลาดบ้านสร้างเองในหลายๆ จังหวัดภาคอีสานมีการแข่งขันราคากันดุเดือด ในขณะที่ตลาดบ้านสร้างเองในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า การแข่งขันราคากลับไม่รุนแรงเท่า ซึ่งมีเพียงบริษัทรับสร้างบ้านกลุ่มผู้นำตลาด ๒-๓ รายเท่านั้น ที่ยังคงโฆษณาและประชาสัมพันธ์พร้อมเน้นจัดโปรโมชั่น ลด แจก แถม เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องในช่วงแรกของไตรมาสนี้”

          สถานการณ์ดังกล่าว ทั้งจากมูลค่าสร้างบ้านต่อหน่วยที่สูงขึ้น สัดส่วนลูกค้าปลูกสร้างบ้านในเขตกทม.และปริมณฑลที่เติบโตขึ้น รวมถึงผู้ประกอบการในกรุงเทพฯ ที่ลดโทนการแข่งขันราคาลง อาจสะท้อนได้ว่าแนวโน้มและทิศทางตลาดบ้านสร้างเองน่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน อย่างไรก็ดี ปีนี้บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการปรับตัว เพื่อรับมือกับการแข่งขันในยุค ๔.๐ และเตรียมความพร้อมขยายตลาดทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านตามแผน ๕ ปีที่วางไว้ นางสาวถิรพร กล่าวสรุป  

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๑๗ วันอังคารที่ ๒๑ - วันเสาร์ที่ ๒๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐


698 1346