คดีสิ้นสุดแล้ว หลังผู้ประกอบการร้านอาหารมอปลาย่างฟ้องดำเนินคดีอดีตผู้ว่าฯ “ธงชัย ลืออดุลย์” กรณีนำคณะเข้ารื้อถอน เหตุตั้งร้านอาหารบดบังทัศนียภาพยาวนานกว่า ๔๐ ปี ท้ายสุดยกฟ้องตามศาลชั้นต้น เพราะปฏิบัติงานโดยยึดประโยชน์เพื่อชาวโคราช อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง http://www.koratdaily.com/blog.php?id=3657

                ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๐ ศาลจังหวัดสีคิ้วนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีอาญา หมายเลขดำที่ ๑๖๑๕/๒๕๕๘ ณ ห้องพิจารณาที่ ๔ ในเวลา ๐๙.๐๐ น. โดยผู้พิพากษาที่ออกนั่งพิจารณาเป็นเวรชี้ จึงย้ายมาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ณ ห้องพิจารณาที่ ๑๐ แทน ในห้องพิจารณามีกลุ่มองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา นำโดยนายจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรฯ และประชาชนจำนวนหนึ่ง เข้าฟังคำพิพากษาเพื่อเป็นกำลังใจแก่นายธงชัย ลืออดุลย์ด้วย ฝ่ายนายธงชัย ลืออดุลย์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง เนื่องจากติดภารกิจ มีนายอำนวยศิลป์ มานะงาน นิติกร ที่ทำการปกครองจังหวัดนครราชสีมา ผู้ประสานคดีของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ประสานคดีในคดีนี้ เดินทางมาฟังคำพิพากษาแทน พร้อมทั้งนายสมชัย ศรีประเสริฐ เจ้าของร้านลำตะคองซีฟู้ด ฝ่ายโจทก์ ก็เข้าฟังคำพิพากษาเช่นกัน

                โดยนายเสริมพงศ์ ไชยปรุ ผู้พิพากษาใช้เวลาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฯ ประมาณ ๑๕ นาที โดยยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งยกคำร้อง โดยพิจารณาประเด็นที่โจทก์อ้างมติ ครม.ที่ให้ราษฎรเช่าพื้นที่ของรัฐ ประกอบกับมติในที่ประชุมที่ศูนย์วิจัยลำตะคอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ซึ่งมีนายวินัย บัวประดิษฐ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในขณะนั้น มีมติให้เช่าพื้นที่ แต่ศาลเห็นว่าการเช่าพื้นที่ของรัฐตามมติ ครม.ที่ครอบคลุมทั่วประเทศนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของจังหวัดนั้นๆ ว่า มีพื้นที่ใดบ้างสามารถให้ราษฎรเช่าเพื่อทำกินได้ ที่ผ่านมาไม่มีผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหน มีนโยบายให้ราษฎรเช่าพื้นที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง หรือมอปลาย่าง และโจทก์ไม่ได้นำเอกสารที่เป็นมติ ครม. มายื่นต่อศาล จึงไม่สามารถนำสืบได้ ส่วนประเด็นที่โจทก์ยื่นฟ้องข้อหาบุกรุก, ทำให้เสียทรัพย์, ลักทรัพย์นั้น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การดำเนินงานของจำเลยเป็นไปตามกฎหมาย โดยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง เจ้าของพื้นที่ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) ควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ จึงไม่มีมูลที่จะประทับรับฟ้องไว้พิจารณา จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือยกฟ้องจำเลยกับพวก โดยคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีอาญาดังกล่าวจึงจบที่ชั้นนี้ นายธงชัย ลืออดุลย์กับพวกไม่มีความผิด

                นายจักริน เชิดฉาย เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “วันนี้มาเป็นกำลังใจให้อดีตผู้ว่าฯ ธงชัย ลืออดุลย์ และคณะ ที่ได้ดำเนินการคืนพื้นที่มอปลาย่างให้กับชาวโคราช เพราะว่า ผลคำพิพากษาของศาลออกมาที่ยกฟ้องของโจทก์ที่ฟ้องท่านธงชัยและคณะ ก็เป็นที่น่าพอใจของเรา เพราะว่าผลจากการปฏิบัติงานของท่านและคณะก็นำประโยชน์ไปสู่ชาวโคราช เป็นการจัดระเบียบพื้นที่ริมอ่างลำตะคองหรือมอปลาย่าง เพื่อคืนทั้งสภาพแวดล้อมให้กลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของพี่น้องชาวโคราชทุกคน เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันไม่ให้เป็นของคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งผลการตัดสินของศาลตนคิดว่ายึดหลักทางกฎหมาย และจากที่ได้เคยทำงานร่วมกับนายธงชัย ลืออดุลย์และคณะ ก็พยายามยึดหลักกฎหมายทุกขั้นทุกตอน ก่อนจะทำเรื่องอะไรท่านเองก็ดูกฎหมายมาตลอด และพยายามหาทางออกให้ทุกฝ่าย บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นมาโดยตลอด และผลการตัดสินวันนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย”

                นอกจากนั้นนายจักริน เชิดฉาย ประธานองค์กรฯ พร้อมด้วยกลุ่มองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันจังหวัดนครราชสีมา และประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจนายธงชัย ลืออดุลย์ ได้ร่วมกันถ่ายภาพแสดงความยินดี พร้อมถือป้าย “ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ว่าฯ ธงชัย ลืออดุลย์” และ “ขอสนับสนุน นายธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และคณะ ผู้ปฏิบัติหน้าที่รื้อมอปลาย่างด้วยความยุติธรรม” เพื่อเป็นการแสดงการให้กำลังใจด้วย

                นายอำนวยศิลป์ มานะงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางโจทก์มีความเข้าใจและยอมรับ แต่อาจจะมีการพูดคุยความเห็นนอกรอบเพราะอาจจะมีความเห็นต่างบ้าง ส่วนคดีแพ่งทางศาลจังหวัดสีคิ้วมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกไปแล้ว และให้คู่ความไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองที่มีเขตอำนาจ และได้พูดคุยกับทางโจทก์ โจทก์กล่าวว่ายังไม่ได้ไปยื่นฟ้อง เพราะกำลังดูระยะเวลาว่าเลยกำหนดระยะเวลาที่จะยื่นฟ้องศาลปกครองหรือไม่

                ทั้งนี้ การจัดการปัญหาที่เรื้อรังมากว่า ๔๐ ปี ของการบุกรุกมอปลาย่างบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ขาเข้าจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเกิดปัญหาเมื่อปี ๒๕๑๒ โดยส่วนราชการมีความพยายามจะจัดการตั้งแต่ปี ๒๕๔๐-๒๕๔๔ แต่ก็ไม่สำเร็จ กลับมีการบุกรุกที่ดินราชพัสดุขยายวงกว้างมากขึ้น เพื่อตั้งร้านขายอาหาร บดบังทัศนียภาพลำตะคอง รวมทั้งก่อมลภาวะสิ่งแวดล้อมเรื่อยมา แม้ว่าในปี ๒๕๔๖ ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ จะพิพากษาจำคุกและปรับผู้บุกรุกไปแล้ว ๒๒ ราย แต่ก็ไม่มีในการบังคับคดี ยังมีการบุกรุกอย่างต่อเนื่อง มีกลุ่มอิทธิพลเกิดขึ้น กลายเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โตที่ยากจะแก้ไข ท่ามกลางกระแสสังคมที่ต้องการให้จัดการขั้นเด็ดขาด ด้วยความมุ่งมั่นของ “นายธงชัย ลืออดุลย์” ที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่อยมา และด้วยความที่เป็นนักกฎหมายและต่อมารับราชการเป็นนักปกครอง จึงขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการจัดระเบียบบริเวณมอปลาย่าง โดยเตรียมสถานที่เพื่อรองรับผู้ประกอบการยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ารื้อถอนไว้แล้ว ในพื้นที่ ๒๔ ไร่ พร้อมทั้งมีภาครัฐและเอกชนจัดหาสถานที่ค้าขายและที่อยู่อาศัยด้วย ดังนั้น ปฏิบัติการ “ฟ้าสางที่ลำตะคอง” จึงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ โดยทุกภาคส่วนระดมสรรพกำลังเข้ารื้อถอนร้านค้าที่บุกรุกมอปลาย่างเต็มที่ นับเป็นปรากฏการณ์ความสามัคคีที่เกิดขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย ภายใต้การนำของ “ผู้ว่าฯ เบิร์ด” นักปกครองผู้เข้มแข็ง มุ่งอุทิศตนเพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะ ส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการรื้อถอนการบุกรุกมอปลาย่างเป็นผลสำเร็จ แม้ว่าตัวเองจะถูกยื่นฟ้องต่อศาลทั้งทางอาญาและทางแพ่งก็ตาม แต่ก็ยึดผลประโยชน์ของศชาติเป็นสำคัญ และปัจจุบัน “มอปลาย่าง” รอเพียงการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม สำหรับนายธงชัย ลืออดุลย์ เกษียณอายุราชการในตำแหน่งผวจ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๘ และด้วยการกระทำอันหาญกล้าดังกล่าวเป็นหนึ่งในผลงานที่ทำให้สมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตรนครราชสีมา มอบโล่เกียรติยศบุคคลดีเด่นแห่งปี ๒๕๕๘ (Person of The Year 2015) แก่นายธงชัย ลืออดุลย์  ในฐานะผู้นำที่มีความกล้าหาญ อุทิศตนเพื่อการเปลี่ยนแปลงของจังหวัดนครราชสีมาในงาน “วันสื่อมวลชน ครั้งที่ ๒๖” เมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ณ โรงแรมสีมาธานี

นสพ. โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๒๔ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ - วันศุกร์ที่ ๓๑ เดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐