29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

April 11,2017

พาณิชย์จับมือก.พ.ร.-ธนาคารโลก แจงขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจในไทย คาดปี ๒๐๑๘ ดีขึ้นก้าวกระโดด

         กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จับมือ สำนักงาน ก.พ.ร. และธนาคารโลก แจงความคืบหน้าการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจด้านการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting Business) ของไทย เพื่อให้ปฏิบัติถูกต้องและสอดรับกับแบบสำรวจความคิดเห็นของธนาคาร โลก คาดปี ๒๐๑๘ อันดับของประเทศไทยจะดีขึ้นกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด ผลจากการเปิดจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ เริ่ม ๑๘ เมษายนนี้


         นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ สำนักงาน ก.พ.ร. และธนาคารโลก จัดสัมมนา เรื่อง "การอำนวยความสะดวกในการเริ่มต้นธุรกิจ” เพื่อชี้แจงถึงความคืบหน้าและแนวทางการสำรวจการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจด้านการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting Business) ตามรายงาน Doing Business ของธนาคารโลกแก่สำนักงานบัญชี สำนักงานกฎหมาย และผู้ที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย กว่า ๒๕๐ ราย ให้สามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และสอดรับกับแบบสำรวจความคิดเห็นของธนาคารโลก ก่อนที่จะจัดทำรายงานการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการเข้าไปประกอบธุรกิจ ปี ๒๐๑๘ ต่อไป

         “ในทุกๆ ปี ธนาคารโลกจะจัดทำรายงานการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของ ๑๙๐ ประเทศทั่วโลก หรือ Doing Business ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจเกี่ยวกับกระบวนการ ขั้นตอน ระยะเวลาการให้บริการ ค่าใช้จ่าย ระบบอำนวยความสะดวกของหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงกฎหมายและระเบียบต่างๆ ของภาครัฐ โดยมีตัวชี้วัดในการสำรวจทั้งหมด ๑๐ ด้าน ได้แก่ การเริ่มต้นธุรกิจ (Starting Business) การขออนุญาตก่อสร้าง การขอใช้ไฟฟ้า การจดทะเบียนสินทรัพย์ การได้รับสินเชื่อ การคุ้มครองผู้ลงทุน การชำระภาษี การค้าระหว่างประเทศ การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง และการแก้ไขปัญหาล้มละลาย” นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว 

         อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวอีกว่า จากรายงานการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจปี ๒๐๑๗ ประเทศไทยอยู่ในอันดับรวมที่ ๔๖ จาก ๑๙๐ ประเทศทั่วโลก และอยู่ในอันดับที่ ๗๘ ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting Business) ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลักในการปรับปรุงการบริการตัวชี้วัดด้านการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting Business) นี้ โดยกรมฯ ได้ดำเนินการพัฒนาระบบการให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการปรับปรุงกฎระเบียบ การปรับเปลี่ยนวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงาน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวก ประหยัด และรวดเร็ว”

         “ล่าสุด กรมฯ ได้พัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลให้มีความทันสมัยและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยสามารถจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านทางออนไลน์ได้แล้ว เรียกว่า “ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์” (e-Registration) ซึ่งผู้ประกอบการสามารถใช้บริการด้านการจดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ เปลี่ยนแปลง จนถึงเลิกประกอบธุรกิจ โดยทุกขั้นตอนสามารถดำเนินการผ่านระบบ e-Registration ได้ทั้งหมด ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดขั้นตอนการยื่นขอจดทะเบียนฯ ลดการใช้เอกสาร ลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาการเดินทางมาติดต่อเจ้าหน้าที่ (นายทะเบียน) และสามารถดำเนินการได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการใช้ชีวิตในการดำเนินธุรกิจง่ายมากยิ่งขึ้น โดยระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์(e-Registration) จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐ เป็นต้นไป โดยผู้ประกอบการที่ต้องการใช้ระบบ e-Registration ต้องเข้ายืนยันตัวตนกับกรมฯ ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ายืนยันตัวตนกับกรมฯ ได้แล้ว ที่ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต ๑-๖ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด และ ๔ สาขา (แม่สอด พัทยา หัวหิน และ เกาะสมุย)” อธิบดีกรมฯ กล่าว 

         ทั้งนี้ เมื่อระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Registration เปิดให้ใช้บริการอย่างสมบูรณ์แล้ว จะส่งผลให้การจดทะเบียนธุรกิจของประเทศไทยเทียบเท่าประเทศที่มีแนวปฏิบัติด้านการให้บริการจดทะเบียนธุรกิจที่เป็นเลิศของโลกจาก Best Practice เช่น นิวซีแลนด์ ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นต้น และจะช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ง่ายต่อการเริ่มต้นธุรกิจ (Ease of Doing Business) คาดว่าผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจด้านการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting Business) ปี ๒๐๑๘ ประเทศไทยจะมีอันดับที่ดีขึ้นกว่าเดิมแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของชาวต่างชาติด้วย

         “นอกจากนี้ กรมฯ ได้มีการพัฒนาระบบการให้บริการต่างๆ ของกรมฯ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น การจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Secured) และการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) เป็นต้น โดยมีความมุ่งหมายในการอำนวยความสะดวกในการเริ่มต้นและประกอบธุรกิจ อันจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศและสภาพแวดล้อมในการประกอบธุรกิจเป็นไปในทางที่ดียิ่งขึ้น” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย

นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๒๗ วันอังคารที่ ๑๑ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐


686 1333