20thApril

20thApril

20thApril

 

April 11,2017

ชาววังน้ำเขียวเข้าพบแม่ทัพ วอนแก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน

          ชาว “วังน้ำเขียว” ยกคณะเข้าพบแม่ทัพภาคที่ ๒ ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินและใช้ประโยชน์ที่ดิน พื้นที่ทับซ้อนหลายหน่วยงาน ทั้ง ส.ป.ก. ป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ รับปากจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และจะจัดการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้ แต่ต้องยึดกฎหมายเป็นสำคัญ พร้อมย้ำจะชัดเจนต่อเมื่อมีการประกาศใช้แผนที่ ONE MAP

          เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่กองทัพภาคที่ ๒ ค่ายสุรนารี มีกลุ่มประชาชนในพื้นที่ตำบลไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา นำโดยนายสมบูรณ์ สิงกิ่ง นายกอบต.ไทยสามัคคี พร้อมด้วยนางสุภาภรณ์ ฉิมชนะ รองนายกอบต.วังน้ำเขียว นางธนัญกรณ์ เนียมสูงเนิน กำนันตำบลวังน้ำเขียว นายมนูญ สระเจริญ กำนันตำบลไทยสามัคคี นายบำรุง คงเจริญ ผู้ใหญ่บ้านเขาแผงม้า ต.วังน้ำเขียว นายสนิท พินิจนอก ผู้ใหญ่บ้านบุเจ้าคุณ ต.วังหมี นางวิภา จันทร์คุ้ม และนายวันชัย ยอดนวล ตัวแทนราษฎร พร้อมด้วยประชาชนจำนวนกว่า ๕๐๐ คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อพลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ ๒ และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ พร้อมด้วยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับเรื่อง และประชุมแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินและใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง ให้เพียงเข้าไปถ่ายภาพและรับฟังในช่วงแรกเท่านั้น

เชิญผู้แทนประชาชนหาทางออก

          แม่ทัพภาคที่ ๒ เชิญตัวแทนประชาชนเข้าร่วมประชุมด้วย โดยพลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ ๒ กล่าวว่า “การประชุมหารือในวันนี้เพื่อช่วยกันหาทางออกปัญหาการถือครองที่ดินในพื้นที่ตำบลไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ทราบกันดีว่า เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความสนใจ และเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญคือ มีความทับซ้อนของพื้นที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ส.ป.ก. ป่าไม้ และอุทยานแห่งชาติ ทำให้ประชาชนเข้ามาร้องเรียนร้องทุกข์ในวันนี้ ซึ่งกองทัพภาคที่ ๒ เข้ามาช่วยเหลือและดูแล จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด โดยจะร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และทุกภาคส่วนเพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งการมาในวันนี้ของประชาชนก็ขอขอบคุณที่เข้าใจว่า ในบางเรื่องไม่จำเป็นต้องไปถึงรัฐบาล ก็มาช่วยกันแก้ไขจัดการในพื้นที่ก็สามารถทำได้ ทางกองทัพภาคที่ ๒ พร้อมที่จะคลี่คลายสถานการณ์ให้กับประชาชน ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมาย และความถูกต้องเหมาะสมด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านของประชาชนหรือบุคคลที่ต้องอยู่ร่วมกันในพื้นที่ ซึ่งต้องการให้อยู่เป็นสุข”

          จากนั้น พลตรีสุทิน เบ็ญจวิไลกุล เสนาธิการกองทัพภาคที่ ๒ และเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ ชี้แจงว่า เพื่อให้การประชุมหารือในวันนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ขอให้เป็นไปตามระเบียบวาระการประชุม ซึ่งในวาระที่ ๒ ให้ตัวแทนประชาชนชี้แจงปัญหาความเดือดร้อน และวาระที่ ๓ ให้ผู้แทนของจังหวัดนครราชสีมา ชี้แจงแนวทางและความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาในช่วงที่ผ่านมา และวาระที่ ๔ เป็นการประชุมหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน (โดยให้สื่อมวลชนออกจากห้องประชุม)

ย้ำแนวทางการแก้ปัญหา

          ภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ พลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ ๒ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เรื่องที่ประชาชนมาร้องเรียนในวันนี้ เพื่อให้ทราบถึงปัญหาที่อยู่ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว โดยเฉพาะตำบลไทยสามัคคี เป็นความลำบากของประชาชนในขณะที่อยู่ในพื้นที่ ที่มีการทับซ้อน เรียกว่าทับซ้อนตามพระราชกฤษฎีกาตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ ที่ออกมาแล้วทับซ้อนกับที่ดินของ ส.ป.ก. ซึ่งออกโดยภาครัฐ ประชาชนบางส่วนก็ไม่รู้ว่าแนวเขตจริงๆ แล้วอยู่ที่ไหนบ้าง ทำให้บางคนถูกจับกุม ในขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายของอุทยานแห่งชาติ ก็ถือเส้นแนวเขต ตามที่ประกาศเป็นพื้นที่อุทยาน เป็นความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติทับลาน กับพื้นที่เก่าที่เป็นพื้นที่ส.ป.ก. ซึ่งจัดสรรให้ประชาชนไปแล้วจำนวนหนึ่ง

          พลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ ๒ กล่าวอีกว่า กองทัพภาคที่ ๒ คาดว่าจะคลี่คลายปัญหานี้ให้จบสิ้นในรัฐบาลชุดนี้ ทุกอย่างที่รัฐบาลพยายามทำอยู่ แม้กระทั่ง ONE MAP (แนวเขตที่ดินของรัฐ) ล่าสุดก็ต้องการให้เกิดความเรียบร้อย จะชัดเจนขึ้นเมื่อ ONE MAP ประกาศใช้ ซึ่งจะมีปัญหาในเรื่องของพื้นที่ทับซ้อนบ้าง โดยเฉพาะในเขตนี้ก็จะมีพื้นที่ ส.ป.ก. กับพื้นที่กรมอุทยานฯ ตนทราบดีว่าปัญหานี้เรื้อรังมานานหลายปี อยากให้เสร็จสิ้นในรัฐบาลชุดนี้ เพราะถ้านานไปแล้วจะทำให้เกิดปัญหาสะสม ในลักษณะนี้รัฐบาลก็คือผู้บังคับบัญชาของเราอยู่แล้ว ทหารก็มีหน้าที่ในการที่จะช่วยเหลือทุกอย่าง สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จะให้โครงการต่างๆ ของรัฐบาล ที่เป็นนโยบายของ คสช. เกิดความเรียบร้อย

ราษฎรรอฟังผล กว่า ๕๐๐ คน

          จากนั้นพลโทวิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ ๒ มอบหมายให้พลตรีสุทิน เบ็ญจวิไลกุล เสนาธิการกองทัพภาคที่ ๒ ชี้แจงกับราษฎรอำเภอวังน้ำเขียวที่เดินทางมาร่วมรับฟังผลการประชุม และรออยู่บริเวณเวทีมวยค่ายสุรนารี จำนวนกว่า ๕๐๐ คน ถึงผลการประชุมและแนวทางการแก้ไขว่า “แม่ทัพภาคที่ ๒ จะไม่ให้ปัญหานี้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของราษฎรอำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งต้องขอขอบคุณ ผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้นำชุมชน ที่สละเวลาเดินทางมายังกองทัพภาคที่ ๒ เพื่อขอความช่วยเหลือและแจ้งให้แม่ทัพภาคที่ ๒ ได้รับทราบ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ ๒ ยืนยันว่า จะติดตามเรื่องนี้ และจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมนำปัญหาข้อขัดข้องรายงานแก่ผู้บังคับบัญชาชั้นสูงให้รับทราบ และในส่วนของรายละเอียดจะลงพื้นที่ไปชี้แจงให้ราษฎรรับทราบต่อไป”

          ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อปี ๒๕๒๐ รัฐบาลมีนโยบายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยเหลือราษฎรที่บุกรุกที่ดิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูหลวง และป่าอื่นๆ รวม ๒๙ ป่า (ป่าเสื่อมโทรม) โดยให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ประกอบด้วย พื้นที่เพื่อความมั่นคงในการแก้ไขปัญหาผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (บ้านไทยสามัคคี) พื้นที่พัฒนาเพื่อความมั่นคง (พ.ม.พ.) พื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้แก่ราษฎรผู้ยากไร้ (คจก.) และผลกระทบ คจก. ในท้องที่อำเภอเสิงสาง อำเภอครบุรี อำเภอปักธงชัย และอำเภอวังน้ำเขียว โดยพลโทเปรม ติณสูลานนท์ แม่ทัพภาคที่ ๒ (ขณะนั้น) มีการเคลื่อนย้ายราษฎรเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ประมาณ ๕๐๐ ครอบครัว มารวมอยู่ในที่ที่ ส.ป.ก.ทำการสำรวจรังวัดไว้ จึงเกิดเป็นหมู่บ้านตัวอย่างไทยสามัคคี ต่อมาปี ๒๕๒๔ มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณพื้นที่ป่าวังน้ำเขียว และป่าครบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าเขาภูหลวง) ที่กรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก.ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ในวันนี้ (๑๐ เมษายน ๒๕๖๐) ราษฎรจึงเดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๒ ช่วยแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมายาวนาน

โปรดติดตามข่าวโดยละเอียดจาก นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๒๗ วันอังคารที่ ๑๑ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐


688 1342