26thApril

26thApril

26thApril

 

July 12,2017

แค่อยากทราบว่าที่ดินเหลือกี่ไร่ ไม่ได้ร้องเรียนว่า‘ภูเขาหาย’

   อดีตกำนันวอนช่วยแจงต่อประชาชน ที่เสนอข่าวการลักลอบขุดตักดินภูเขาเกือบทั้งลูกออกมาขาย หลังมีสื่อบางสำนักเข้าไปสัมภาษณ์และนำเสนอคลาดเคลื่อน กลายเป็นเรื่องที่ต้องถูกประชาชนในพื้นที่ออกมาต่อว่า ให้ข้อมูลไม่เป็นความจริง ต้องหลบออกนอกพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ย้ำชัดไม่ได้กล่าวหามีผู้บุกรุก แค่อยากรู้ว่าที่ดิน ๒๐๐ ไร่ เหลืออยู่กี่ไร่

ตามที่มีสื่อมวลชนบางสำนักได้นำเสนอข่าวออกไปในกรณีของนายวิชัย จ่าทัน อายุ ๖๐ ปี อดีตกำนันหนองบัวระเหว บ้านปากค่ายช่องแมว หมู่ ๒ ตำบลหนองบัวระเหว อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ออกมาร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวบางสำนักประจำจ.ชัยภูมิ ให้ลงพื้นที่เพื่อช่วยตรวจสอบ โดยระบุว่า มีนายทุนบางกลุ่มเข้ามาลักลอบขุดตักดินภูเขาเกือบทั้งลูก ในพื้นที่ น.ส.ล. และที่ดินสาธารณประโยชน์บริเวณพื้นที่เขาตาเงาะ อำเภอหนองบัวระเหว โดยมีพื้นที่ทั้งหมด ๒๗๒-๓-๘๒ ไร่ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ ๑๐๘๕๐ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๘  แห่งประมวลกฏหมายที่ดิน ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔ ลงวันที่  ๑๓ ธ.ค. ๒๕๑๕ ออกให้เพื่อแสดงเขตของที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยได้ออกให้เมื่อวันที่ ๒๔ ส.ค. ๒๕๒๒ ซึ่งเป็นภูเขาทั้งลูก ได้ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกเข้ามาทำการลักลอบขุดตักดินไปขาย

ต่อมาช่วงเย็นของวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เกิดความไม่พอใจต่อกรณีการให้ข่าวของอดีตกำนัน กลุ่มประชาชนนับร้อยคนได้พากันออกมารวมตัวกันบริเวณใกล้วัดเกจิดังเมืองชัยภูมิ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเขาตาเงาะ ซึ่งประชาชนต่างพากันออกมาต่อต้านการให้ข่าวของอดีตกำนันดังกล่าวว่า มีกลุ่มนายทุนบุกรุกที่ น.ส.ล. บริเวณวัดเขาตาเงาะ และนำดินไปขาย ซึ่งมีการเข้าไปถ่ายภาพวัดและพาดพิงถึงวัด ทำให้วัดเสื่อมเสียนั้น ไม่เป็นความจริงดังคำกล่าวอ้าง พร้อมยืนยันที่ดินดังกล่าว ไม่ใช่ภูเขาดังที่เสนอข่าวไป ที่ผ่านมาการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ อดีตกำนันและประชาชนมีมติร่วมกันด้วยดีมาตลอด ซึ่งที่ดินบริเวณลานดินใกล้วัดเขาตาเงาะ มีจำนวนหนึ่งพากันออกมาชี้จุดให้กับผู้สื่อข่าว เพื่อต้องการให้สื่อทุกสำนักช่วยเข้ามาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกด้าน หลังจากที่มีข่าวออกไปแล้วเกิดความคาดเคลื่อน โดยให้สื่อมวลชนมาดูว่าพื้นที่ดังกล่าวว่า ไม่ได้มีกลุ่มนายทุนขุดดินหรือมีกลุ่มคนของนายทุนเข้ามาบุกรุกภูเขา และนำดินไปขาย ดังที่เป็นข่าว

 

นายจุ่น ว่องประจันทร์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๒ บ้านปากค่ายช่องแมว ต.หนองบัวระเหว กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้เดือดร้อนดังที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง ตนขอยืนยันว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่สาธารณะ เพื่อที่จะให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตามมติประชาคมชุมชน และพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นพื้นดินเนินสูงต่ำตามธรรมชาติ เหตุที่พบร่องรอยการปรับหน้าดินนั้น เนื่องจากประชาชนเคยร่วมกันทำประชาคมหมู่บ้าน ให้ใช้พื้นที่บริเวณนี้ ที่เป็นเนินเขาหัวโล้นแห้งแล้งทำประโยชน์ต่อชุมชนไม่ได้ ให้มีการปรับสภาพเป็นที่ราบ เพื่อจะทำเป็นบ้านมั่นคงหรือทำเป็นตลาด สำหรับให้ประชาชนนำของฝากมาวางขายริมทางเท่านั้น และเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาได้พักผ่อน ผ่านมาหลายสิบปีโครงการนี้ก็ไม่ดำเนินการต่อ ส่วนกรณีที่อดีตกำนันให้ข่าวออกไปนั้น ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้เป็นเรื่องร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนดังกล่าว และมีการถ่ายภาพพาดพิงไปถึงวัดและหลวงพ่อที่ชาวชัยภูมิให้ความเคารพศรัทธา ทำให้ได้รับความเสียหายไปด้วย มาวันนี้จึงเริ่มเกิดปัญหาที่ทำให้วัดเสียหาย ชาวอำเภอหนองบัวระเหว ยอมไม่ได้เด็ดขาด เพราะข่าวที่ออกมาเกินจริง

            “ตนพร้อมลูกบ้านเห็นข่าวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ จึงอยากบอกอดีตผู้นำชุมชนที่ร้องเรียนสื่อว่า ก่อนนี้มีอะไรทำไมไม่ดำเนินการ ทำไมมาสร้างปัญหาให้พื้นที่ ให้เกิดประเด็นจนเสื่อมเสียไปถึงวัด ตนยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่มีนายทุนบุกรุก และยังเป็นพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้” นายจุ่น กล่าว

            ด้านนายเชื้อ ศรีโพธิ์ อายุ ๖๐ปี ชาวบ้านหัวหนอง หมู่ ๔ ซึ่งเป็นไวยาวัจกรวัดเขาตาเงาะ เปิดเผยว่า หลังจากที่วัดตกเป็นข่าว และมีภาพที่พาดพิงถึงวัดนั้น ตนมีความรู้สึกไม่สบายใจทำให้วัดเสื่อมเสีย ทั้งยังมีการถ่ายภาพรถบรรทุกและรถแบ็คโฮที่ลักลอบนำดินไปขาย ยิ่งทำให้ตนและลูกศิษย์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ตนได้ปรึกษาหารือกับทีมกฎหมายของทางวัดก่อนว่า จะเอาผิดในทางใดได้บ้าง และตนจะต้องแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้วัดเสียหาย หากยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบ การที่วัดมีรถมาจอดนั้น ส่วนใหญ่เป็นรถของลูกศิษย์ที่มาช่วยพัฒนาแหล่งน้ำให้วัด และคนในชุมชนที่ต้องการมาช่วยหลวงพ่อขุดลอกเก็บกักน้ำไว้ใช้ยามน้ำแล้ง และเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ในการเกษตร ไม่ได้ขุดดินไปขายดังที่มีคนร้องเรียน

 

            ขณะที่นายวิชัย จ่าทัน อายุ ๖๐ ปี อดีตกำนันหนองบัวระเหว เปิดเผยว่า หลังที่มีข่าวจากนักข่าวบางสำนักในจังหวัดชัยภูมิ มาขอสัมภาษณ์และเสนอข่าวออกไปทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดตน ทำให้ตนต้องหลบออกมาจากหมู่บ้านก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเรื่องที่มีการร้องเรียนไปนั้น เพราะต้องการทราบว่าปัจจุบันที่สาธารณะที่เคยมีในพื้นที่กว่า ๒๐๐ ไร่ ปัจจุบันเหลืออยู่เท่าใด มีขอบเขตเหลือเท่าใด จาก ๒๐๐ ไร่ เหลือ ๑๐ หรือ ๒๐ ไร่ จะได้รู้ว่าเหลืออยู่เท่าใด ไม่ได้ไปบอกว่า มีนายทุนใครคนใดเข้ามายึดภูเขา ให้เสียหายตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ตนอยากขอความเป็นธรรมให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่า การใช้พื้นที่ของวัด และโรงเรียนเพื่อประโยชน์สาธารณะไม่มีใครไปยุ่งเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจด้วย การที่ตนร้องให้ตรวจสอบเพราะตนอยากทราบว่าที่สาธารณะในปัจจุบันเหลือพื้นที่อยู่เท่าไหร่

 

 

 

 

 


696 1346