ทนไม่ไหวแล้ว ๒ ปีร้องเรียนไปหลายหน่วยงานไม่คืบหน้า ต้องบุกศูนย์ดำรงธรรม กล่าวหาโรงงานหล่อพระส่งเสียงดัง แถมมีกลิ่นเหม็นไปทั่ว กระทบต่อสุขภาพ ด้านอุตสาหกรรมฯ ให้ไปจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อมมาเสนอ เจ้าของโรงงานเปิดให้สื่อตรวจสอบ ยืนยันถูกทำลายชื่อเสียงที่มีมากกว่า ๒๐ ปี ทั้งที่รับสร้างเหรียญ “หลวงพ่อคูณ” มาตลอด วอนให้ความเป็นธรรม และยอมรับจะแก้ไขให้ประชาชนสบายใจ

                ตามที่เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคมที่ผ่านมา มีตัวแทนประชาชนกว่า ๓๐ ครอบครัว เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอจัตุรัส จ.ชัยภูมิ นำโดยนายสุชาย เบญจขันธ์ อายุ ๕๑ ปี ตัวแทนชาวบ้านขาม หมู่ ๒ ตำบลบ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ พร้อมประชาชนที่อาศัยอยู่รอบโรงงานอุตสาหกรรมหล่อพระพุทธรูป คูณลาภ คูณเงิน คูณทอง ซึ่งเป็นของนางสาวจันทร์เพ็ญ บุญเทศ อายุ ๕๐ ปี ตั้งอยู่เลขที่ ๑๓๙ หมู่ ๒ บ้านขาม ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เพราะมีเสียงดัง ซ้ำยังทำการเผาโลหะสารเคมี มีควันเขม่าคลุ้งส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วชุมชน ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ

                โดยประชาชนหลายรายมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก แสบจมูก มีน้ำมูก เวียนศีรษะ แสบคอ ไอและอาเจียน ที่ผ่านมาประชาชนได้รับผลกระทบมาตลอด แต่ในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา เริ่มได้รับผลกระทบรุนแรงมากขึ้น รู้สึกว่าทนไม่ไหว เพราะเมื่อแจ้งไปให้โรงงานแก้ไข ก็ได้รับคำตอบว่าได้แก้ไขและเฝ้าระวังปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นแล้ว โดยคำตอบที่ได้รับเป็นลักษณะนี้ทุกครั้งที่ร้องเรียนมาต่อเนื่องตลอด ๒ ปีที่ผ่านมา

                นอกจากนี้ ยังแจ้งให้ผู้นำชุมชนทราบถึงปัญหาด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพียงแค่ให้เฝ้าระวังเท่านั้น จึงได้แจ้งไปยังนายอำเภอจัตุรัส โดยประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่างลงรายชื่อเพื่อที่จะทำหนังสือถึงนายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบ และดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งได้รับความเดือดร้อน ทางท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ก็ไม่ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบดูแลความเดือดร้อนของประชาชน กระทั่งทำให้ประชาชนต้องขอความเป็นธรรมต่อผู้นำชุมชน ซึ่งผู้นำชุมชนให้คำตอบได้แค่เพียงว่า อดทนรอฟังคำชี้แจงจากผู้ประกอบการ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จากนั้น จึงมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาลงชื่อขอความเป็นธรรมต่อหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบออกใบอนุญาตให้โรงงานดังกล่าวมาช่วยเหลือแก้ไขให้อีกครั้ง

                นางสาวละออ กลัดงิ้ว ราษฎรหมู่ที่ ๒ ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า บ้านของตนอยู่ติดกับโรงงานดังกล่าว ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและรุนแรง ทั้งเสียง และกลิ่นควันที่เผาไหม้โลหะหล่อพระ ส่งผลกระทบทำให้มีอาการจุกแน่นหน้าอก จนอาเจียน รวมทั้งเสียงที่ดังมากทำให้คนในบ้านไม่สามารถหลับนอนได้ ทั้งที่อยู่ใกล้ๆ กันต้องตะโกนคุยกัน เป็นการเสียทั้งสุขภาพจิตและร่างกายมาตลอด จึงอยากขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจัดการโดยด่วน ซึ่งในขณะนี้ประชาชนอยู่กันอย่างหวาดผวา กลัวว่าสารพิษที่มาพร้อมกับกลิ่นและควันนั้นอาจจะทำให้เราเป็นโรคร้ายได้ โดยที่ผ่านมา พวกเราได้ร้องเรียนไปยังโรงงานแล้ว โดยแจ้งว่า เป็นกระบวนการผลิต ที่จะต้องเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเราก็เข้าใจได้ แต่ทางโรงงานทำไมไม่เข้าใจชาวบ้านบ้างว่า กระบวนการผลิตของโรงงานทำให้คนอื่นเดือดร้อน ทำไมไม่คิดที่จะแก้ไข ที่สำคัญก่อนสร้างโรงงาน ทางหน่วยงานของรัฐปล่อยให้สร้างโรงงานอยู่ในชุมชนได้อย่างไร

                ทางด้านนางสาวจันทร์เพ็ญ บุญเทศ เจ้าของโรงงานคูณลาภ คูณเงิน คูณทอง ตั้งอยู่เลขที่ ๑๓๙ หมู่ ๒ บ้านขาม ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากโรงงานดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ ปัจจุบันอยู่ในระหว่างเริ่มดำเนินการทดสอบกระบวนการผลิตหล่อพระเป็นครั้งสุดท้าย เป็นการซ่อมงานให้ลูกค้า ส่วนเรื่องเสียงดังนั้น ทางโรงงานได้เตรียมมาตรการป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น คือ มาตรการป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยจัดให้มีการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบๆ และตรวจวัดคุณภาพอากาศ และหลีกเลี่ยงการเดินกระบวนการผลิตที่จะทำให้เกิดเสียงในช่วงเวลากลางคืน โดยมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตในช่วงเวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. เท่านั้น รวมถึงการตรวจวัดคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ และจุดระบายน้ำทิ้งของเขตประกอบการฯ ขอระยะเวลาในการปรับปรุงอีกระยะหนึ่ง เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ก็ตรวจสอบเป็นประจำทุกสัปดาห์อยู่แล้ว อะไรที่ปรับปรุงให้ได้ เราก็ทำเป็นประจำ ต้องขอใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เราก็พยายามปรับปรุงตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าไม่ทำ ในบ่อน้ำเสียเราก็พยายามนำปูนขาวไปบำบัดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน

                นายสมบูณ์ ศรีทอง หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ รวม ๒๐ ปี และมีการก่อสร้างโรงงานเพิ่มอีก ซึ่งทางโรงงานกำลังทำเรื่องขออนุญาต ส่วนอาคารเก่าเจ้าของกิจการไม่ได้ไปยื่นต่ออายุใบอนุญาต ไม่ทันตามเวลาที่อุตสาหกรรมกำหนด จึงขาดอายุการประกอบกิจการมาตั้งแต่ช่วงปี ๒๕๕๘ เกือบ ๒ ปีที่ผ่านมาแล้ว ทางอุตสาหกรรมจังหวัดฯ จึงต้องให้ไปยื่นขออนุญาตใหม่ทั้งหมด ส่วนอาคารใหม่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้อนุญาต เพราะเห็นว่าชุมชนโดยรอบโรงงานเริ่มหนาแน่นมากขึ้น ไม่ควรออกใบอนุญาตให้ขยายกิจการเพิ่มอีก ซึ่งขณะนี้ที่ประชุมได้ให้ทางโรงงานดังกล่าวไปจัดทำแผนการจัดการระบบการผลิตและการจัดการระบบสิ่งแวดล้อมต่างๆ ภายใน ๑๕ วัน เพื่อมาชี้แจงให้ประชาชนและคณะกรรมการทราบโดยด่วนต่อไป

                ล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อสื่อมวลชนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการดำเนินการกิจการภายในโรงงานหล่อพระดังกล่าว โดยมีนายชัยนคร วัชรขจร อายุ ๖๖ ปี เจ้าของโรงงานเป็นผู้พาคณะสื่อมวลชนเดินดูภายในโรงงานทั้งหมด เพื่อชี้แจงขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ พร้อมเปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากผู้ร้องเรียน ซึ่งอาจจะไม่พอใจโรงงานด้วย เพราะตนตั้งโรงงานและตั้งดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๓ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยสร้างผลกระทบให้กับคนในชุมชน และไม่เคยมีการร้องเรียนโรงงาน แต่กรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีความไม่เข้าใจของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง คือมีบางช่วงเท่านั้นที่ทางโรงหล่อเอง โดยมีการดำเนินการขึ้นปูนทำแบบรูปพระพุทธไปให้วัดต่างๆ ที่มีการนำไปขึ้นแบบเททองหล่อที่วัด และแต่ละปีมีไม่กี่ครั้งที่การหล่อพระพุทธรูปเกิดไม่เต็มองค์ เนื่องด้วยเกิดปัญหาอาจจะมีช่วงฝนตกลงมาบ้าง จึงจำเป็นต้องนำพระพุทธรูปดังกล่าวจากวัดเพื่อนำมาหล่อซ่อมงาน เพื่อให้พระพุทธรูปเกิดความสวยงามสมบูรณ์และนำกลับไปให้วัดเท่านั้น จึงทำให้เกิดมีควันและกลิ่นจากการเผาลอยออกไปในชุมชนบ้าง ซึ่งหากประชาชนไม่สบายใจ ทางโรงงานก็จะไม่รับพระพุทธรูปมาทำที่โรงงานอีก แต่จะส่งช่างไปแก้ไขที่วัดต่างแทน เพื่อให้ชุมชนเกิดความสบายใจและอยู่ร่วมกันด้วยดีต่อไปได้

                “ในส่วนของปัญหาเรื่องเสียงดังและมีน้ำเสียนั้น เป็นเรื่องที่โรงงานสามารถให้ทุกฝ่ายมาตรวจสอบได้ว่า ไม่เป็นความจริงตามข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้น ประชาชนที่นี่รู้ดี และปัญหาที่พบมีเพียงเรื่องการนำพระพุทธรูปมาทำงานหล่อซ่อมงานให้กับวัดเท่านั้น แต่ละปีมีไม่กี่ครั้ง จึงอยากให้คนในชุมชนเข้าใจการทำงานของโรงงานด้วย ซึ่งโรงงานพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขให้ในเรื่องที่ทำให้ชาวชุมชนไม่เกิดความสบายใจอยู่แล้ว และขอความเป็นธรรมด้วย เพราะโรงงานมีชื่อเสียงในเรื่องการรับผลิตวัตถุมงคล ทั้งปั๊ม และหล่อสร้างเหรียญพระมายาวนานหลายสิบปีทั่วประเทศ โดยเฉพาะหลวงพ่อคูณ เพราะตนก็เป็นศิษที่ช่วยรับสร้างเหรียญให้กับหลวงพ่อเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ปี ๒๕๓๓ ซึ่งตนนำมาเป็นชื่อโรงงานคือ ‘คูณลาภ คูณเงิน คูณทอง’ ด้วย โดยเฉพาะเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ คนงานที่นี่หลายสิบชีวิตอยู่กันมาถึงปัจจุบันไม่เคยมีใครเจ็บป่วย” นายชัยนคร กล่าว

                น.ส.รัชดาพร พาบขุนทด อายุ ๒๒ ปี พนักงานหญิง ที่มีครอบครัวและปัจจุบันมีลูกวัย ๑ ปี ๒ เดือน อาศัยอยู่ภายในโรงงานดังกล่าวมาหลายปี เปิดเผยว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นว่า โรงงานมีการสร้างมลพิษกลิ่นเสียงเขม่าควันจนมีคนเจ็บป่วยนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะลูกของตนก็อยู่ในโรงงานตลอด รวมทั้งตนก็ไม่มีอาการใดๆ ที่แสดงว่าได้รับผลกระทบจากโรงงานนี้ด้วย

                ทั้งนี้ จากการสอบถามนางทองมี เพมขุนทด ๗๐ ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้โรงงาน เปิดเผยว่า ในส่วนภาพรวมของประชาชนที่อยู่ห่างโรงงานออกมา ๑๐๐-๓๐๐ เมตร ก็ไม่มีใครได้รับผลกระทบ มีเพียงบางคนที่อยู่ใกล้โรงงานเท่านั้น ที่อาจจะได้กลิ่นเวลามีการเผาหล่อพระในโรงงานเท่านั้น ต่อไปหากไม่มีการเผาหล่อพระในโรงงาน อาจทำให้คนในชุมชนใกล้เคียงเกิดความสบายใจในเรื่องผลกระทบต่อสุขภาพได้ และน่าจะอยู่ร่วมกับชุมชนได้ด้วยดี

โปรดติดตามข่าวโดยละเอียดจาก นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๔๕ วันอาทิตย์ที่ ๑๖ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐