26thApril

26thApril

26thApril

 

July 22,2017

ผู้ตรวจการแผ่นดินลงพื้นที่วังน้ำเขียว จับมือภาครัฐแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกว่า ๒.๖ แสนไร่

           ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ –นครราชสีมา  พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายประทีป เจริญพร ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายธาวิน อินทร์จำนง รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เร่งติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนและพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว หลังปัญหายืดเยื้อยาวนาน กินพื้นที่กว่า ๒.๖ แสนไร่ พร้อมกำชับให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินไม่ให้เกิดการทับซ้อนระหว่างที่ดินประชาชนกับที่ดินของรัฐ และย้ำให้แก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินของราษฎรในพื้นที่ป่าไม้อย่างถูกต้องเป็นธรรม

           พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาจากการร้องเรียนเกี่ยวกับการถือครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติทับลานซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ๕ อำเภอ  ใน ๒ จังหวัด มีพื้นที่รวมกว่า ๑.๓ ล้านไร่ คือ อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอปักธงชัย อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี โดยวันนี้ลงพื้นที่ในอำเภอวังน้ำเขียวเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ผ่านมา พบว่าเขตอุทยานแห่งชาติทับลานเฉพาะในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวกินพื้นที่กว่า ๒.๖ แสนไร่ โดยจำแนกเขตที่ใช้ประโยชน์ทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ของประเทศเป็น ๓ พื้นที่ คือ พื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ (Zone C)  พื้นที่ป่าเพื่อเศรษฐกิจ (Zone E) และพื้นที่ป่าที่เหมาะสมต่อการเกษตร (Zone A)  และจากการแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีร้องเรียนดังกล่าว ปรากฏว่ามีสภาพปัญหาเรื่องแนวเขตและการครอบครองที่ดินของรัฐ และเกิดผลกระทบต่อประชาชน รวม ๕ ปัญหา ได้แก่

           ๑.แนวเขตที่ดินของอุทยานแห่งชาติทับลานทับซ้อนกับแนวเขตที่ดิน ส.ป.ก.

           ๒.แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับพื้นที่ ส.ป.ก.

           ๓.แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับพื้นที่ทำกินของราษฎร

           ๔.ปัญหาการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน

           ๕. ปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขต ส.ป.ก. เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

 

      ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงมีข้อเสนอแนะต่อนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๕๕ โดยแบ่งเป็น ๒ ส่วนสำคัญ กล่าวคือ

 ๑.การดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง        

      ๑ ) กรณีพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างเขตป่าสงวนแห่งชาติกับเขตปฏิรูปที่ดิน เขตอุทยานแห่งชาติกับเขตปฏิรูปที่ดิน และการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ประสานงานบูรณาการปรับปรุงแก้ไขรูปแผนที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยเพื่อดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎกระทรวง และพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดที่ดินของรัฐ

     ๒) กรณีการกำหนดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง เขตพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์ (โซน C ) ให้กรมป่าไม้ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมาแต่งตั้งคณะทำงานประกอบด้วยภาครัฐและเอกชนเพื่อร่วมกันตรวจสอบแก้ไขแนวเขตและสภาพพื้นที่ให้ถูกต้องต่อไป

      ๓) กรณีการจับกุมดำเนินคดี เพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จึงขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช ชะลอหรือระงับการจับกุม ตรวจยึดเพื่อรอผลการปรับปรุงแก้ไขแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่คณะรัฐมนตรีเคยมีมติเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๔๐ ให้ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแนวเขต

     ๔) กรณีผู้ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. ๔-๐๑) ได้เปลี่ยนแปลงสภาพการใช้ประโยชน์ ให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อกำหนดพื้นที่ให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ของอำเภอวังน้ำเขียว                 

 

๒.  การดำเนินการกับราษฎรที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติ ซึ่งในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ป่าไม้ดังกล่าว ให้รัฐพิจารณาโดยอาศัยหลักเกณฑ์ ๕ ประการ ดังนี้                    

     ๑) หากดำเนินการพิสูจน์สิทธิของราษฎรแล้วปรากฏว่าอยู่มาก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ (๑ ธันวาคม ๒๔๙7) ให้พิจารณาออกหนังสือแสดงสิทธิให้

       ๒) ถ้าบุกรุกหลังวันที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ รัฐต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

    ๓) ผู้รับโอนสิทธิจาก ๒) โดยรู้เห็นเป็นใจถือว่าเป็นผู้ไม่สุจริตต้องดำเนินการทางกฎหมายด้วย

     ๔) ผู้รับโอนสิทธิมาโดยไม่สุจริต ก็ไม่ควรได้รับการคุ้มครองสิทธิด้วย

     ๕) ราษฎรที่ครองครองทำประโยชน์มาก่อนหรือภายหลังจากการประกาศเป็นเขตป่าไม้ครั้งแรก และเป็นผู้สุจริตควรได้รบการผ่อนผันให้อยู่อาศัยและทำประโยชน์ต่อไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยกำหนดเงื่อนไข เช่น กรณีเป็นพื้นที่ต้นน้ำหรือพื้นที่ล่อแหลมต่อระบบนิเวศ ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดไม่ให้ก่อสร้างเพิ่มเติม และให้ปลูกต้นไม้รักษาพื้นที่ป่าตามที่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เห็นสมควร เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพป่า

           พลเอก วิทวัส กล่าวต่อว่า หลังจากที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้นต่อนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ จากนั้น คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๕๕ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลักในการนำข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินไปเป็น

           แนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต่อมาในปี ๒๕๕๙ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวและสั่งการเพิ่มเติมว่าให้ดำเนินการให้ได้ข้อยุติทางกฎหมาย แล้วนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ แต่พบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถนำแนวทางการปรับปรุงแก้ไขแนวเขตแผนที่ของอุทยานแห่งชาติทับลานที่มีการดำเนินการไว้เมื่อปี ๒๕๔๓ ซึ่งเป็นแนวทางที่ยอมรับและสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเป็นธรรมมาดำเนินการ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ยังได้รับความเดือดร้อนและร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง

           วันนี้จึงได้ลงพื้นที่เพื่อทราบปัญหา อุปสรรค และกำหนดแผนงาน ตลอดจนกรอบเวลาในการดำเนินการของแต่ละปัญหา เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ทราบหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบ และดำเนินการให้บังเกิดความคืบหน้าได้อย่างแท้จริง ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จังหวัดนคราชสีมา อำเภอวังน้ำเขียว องค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี และ ผู้แทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อหาแนวทางยุติข้อพิพาทในที่ดินดังกล่าวโดยเร่งด่วนต่อไป

           “ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกทับซ้อนโดยแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ป่าสงวนแห่งชาติ ที่ดิน ส.ป.ก. หรือที่ดินของรัฐอื่นๆ นับเป็นปัญหาความเดือดร้อนต่อการประกอบอาชีพ ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะเดียวกัน รัฐก็ต้องมีมาตรการที่เหมาะสมในการระงับยับยั้งและป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐ หากการแก้ไขปัญหาแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานบรรลุผลสำเร็จก็จะสามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ๙๖ หมู่บ้าน ให้ได้รับความเป็นธรรม และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็จะสามารถอยู่ร่วมกับราษฎรโดยต่างฝ่ายต่างช่วยกันทำนุบำรุงทรัพยากรธรรมชาติ ใช้ที่ดินให้บังเกิดประโยชน์สูงสุดในการทำมาหากิน ประการสำคัญ ก็ต้องให้ประชาชนเหล่านี้มีส่วนช่วยกันปลูก ช่วยกันสร้างผืนป่าแห่งนี้ให้เป็นมรดกของแผ่นดินและเป็นมรดกโลกสืบไป” พลเอก วิทวัส กล่าวทิ้งท้าย


707 1351