29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

July 25,2017

ผู้การโคราชปฏิเสธสินบน ๕ แสน อ้างหญิงธกส.พันแชร์ลูกโซ่

                พนักงานธ.ก.ส.บุกสน. แจ้งจับผบก.โคราช กล่าวหาเรียกรับสินบนนำจับ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ด้านผบก.โต้ไม่เคยเรียกสินบน พร้อมเตรียมแจ้งความกลับ หลังพบพฤติกรรมพัวพันคดีแชร์ลูกโซ่

                ตามที่น.ส.อัชฌา นาคธรณินทร์ อายุ ๓๙ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๓๖ ซอยเทวรัตน์ แขวง-เขตบางซื่อ กทม. อาชีพพนักงานฝ่ายไอที ธนาคารเพื่อการเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมดร.สุกิจ พูลศรีเกษม และนางสาวมินตรา เสนา ทีมทนายความ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.ท.กมลเทพ สมบัติ รองสว.(สอบสวน) สน.บางเขน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และพ.ต.ต.วิชานนท์ บ่อพิมาย สว.กก.สส. ภ.จว.สภ.นครราชสีมา ข้อหา “เรียกรับสินบน เกิน ๓,๐๐๐ บาท” ตามประกาศของ ป.ป.ช.เรื่องหลักเกณฑ์การรับเงินรางวัล เมื่อเวลา ๑๘.๐๐ น. วันที่ ๒๓ กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ สน.บางเขน

                โดยน.ส.อัชฌา อ้างว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ ตนได้รู้จักกับ ดร. ซึ่งเป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนดังแห่งหนึ่งย่านดุสิต ที่มาซื้อสลากสินทวี ธ.ก.ส. เป็นเงิน ๑๕๐ ล้านบาท จากนั้นได้ชักชวนกันไปลงทุนเล่นเบอร์ทองกับนางศิริประภา เกตุมัก อายุ ๓๔ ปี ซึ่งเป็นบริบาลดูแลแม่ของตนที่จังหวัดนครราชสีมา ระยะแรกพอมีรายได้ แต่ไม่นานนักกลับถูกนางศิริประภาเชิดเงินไป ๑๑ ล้านบาท และเป็นของดร.อีก ๗๘ ล้าน จึงแจ้งตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับนางศิริประภา ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ต่อมาวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๐ ตำรวจสภ.เมืองนครราชสีมาได้ตามจับกุมตัวนางศิริประภาได้ และนำตัวมาที่ สภ.เมืองนครราชสีมา แต่พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ต.วิชานนท์ บ่อพิมาย สว.กก.สส. ภ.จว.สภ.นครราชสีมา ได้เรียกรับเงินทำคดีเป็นเงิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท แบ่งเป็น ๓๐๐,๐๐๐ บาทให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา, ๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, ๘๐,๐๐๐ บาท ให้หน้าห้อง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และอีก ๒๐,๐๐๐ บาทเป็นค่าน้ำมันทีมงานสืบสวน โดยมีการจ่ายเงินไปครบถ้วนที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งความผิดเรียกรับสินบนได้สำเร็จแล้ว ตนจึงมาแจ้งความในวันนี้

                ล่าสุดวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผบก.จว.นครราชสีมา เปิดเผยกรณีนี้ว่า “ขอยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก หรือพูดคุยกับน.ส.อัชฌา ซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดทราบว่า ก่อนหน้านี้ นางรุ่งนภา มัทวานุกูล เป็นผู้เสียหายถูกฉ้อโกง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับนางสิริปภา เกตุมัก อายุ ๓๔ ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างของน.ส.อัชฌา กระทั่งถึงขั้นตอนมีการออกหมายจับของศาลแขวงจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ ๗๖/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๒๒ พ.ค.๖๐ ข้อหาฉ้อโกง ต่อมา พ.ต.อ.ณรงค์ เสวก ผกก.สส.ภ.จ.นครราชสีมา ได้สั่งการให้พ.ต.ต.วิชานนท์ฯ ทำการสืบสวนติดตามกระทั้งสามารถจับกุมน.ส.สิริปภาได้เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๐ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ดำเนินการนำตัวมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม

                โดยในเรื่องนี้ น.ส.สิริปภาให้การซัดทอดถึงผู้ร่วมกระทำผิดในคดีนี้ และต่อมาได้มีอดีตผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายร่วมด้วย ได้นำพยานหลักฐานเพิ่มเติมมายื่นต่อพนักงานสืบสวน กก.สส.ภ.จ.นม. และต่อมาอดีต ผอ.โรงเรียนดังกล่าวได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.อัชฌา และน.ส.สิริปภา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ไว้ที่สน.บางเขนแล้ว เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า ๗๘ ล้านบาท ในขณะเดียวกัน ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จ.นม. ได้สืบสวนขยายผล กระทั่งพบว่า น.ส.อัชฌาอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงประชาชน หรือเป็นตัวการ ในคดีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ มูลค่าความเสียหายเกือบร้อยล้านบาท

                ด้านพ.ต.ต.วิชานนท์ บ่อพิมาย สว.กก.สส.ภ.จ. นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เชิญตัวน.ส.อัชฌามาสอบปากคำในฐานะผู้ให้ถ้อยคำ เนื่องจากตรวจสอบพบความเชื่อมโยงทางการเงิน อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับน.ส.อัชฌาเพิ่มเติม

                “ขอยืนยันว่า ตำรวจชุดสืบสวนได้กระทำการตามอำนาจหน้าที่ และดำเนินการตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามพฤติการณ์ในคดีนี้ และขอให้ติดตามผลการสืบสวนสอบสวน และการรวบรวมพยานหลักฐานในทางคดีของพนักงานสอบสวน จนถึงผลการพิจารณาคดีนี้ในชั้นศาลต่อไป” พ.ต.ต.วิชานนท์ กล่าวย้ำในท้ายสุด

                ต่อมาเมื่อเวลา ๑๕,๔๕ น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา ร่วมแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี มีการเผยแพร่ภาพถ่ายในโลกโซเซียล และสื่อออนไลน์ ซึ่งปรากฏผู้เกี่ยวข้องในคดี ยืนร่วมกันกับพล.ต.ต.สุภากร และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ และมีการยื่นซองเอกสารให้กับเจ้าหน้าที่ อ้างเป็นภาพเหตุการณ์การรับสินบนในคดีดังกล่าว

                พล.ต.ต.สุภากร ได้แสดงภาพถ่าย และกล่าวยืนยันว่า “ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เป็นบรรยากาศการพูดคุยกันระหว่างเจ้าหน้าที่ และผู้เสียหายที่เกี่ยวข้องกับรายละเอียด ที่มาที่ไปของคดี รวมทั้งส่งมอบเอกสาร ซึ่งเป็นข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติม ไม่ใช่การรับมอบผลประโยชน์ หรือสินบนแต่อย่างใด ที่สำคัญภาพที่ปรากฏ และถูกกล่าวหานั้น เป็นภาพที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้บันทึก ดังนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการเปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่ซ้อนเร้นสิ่งใด และจากการที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกระบวนการ และข้อมูล พยานหลักฐานที่ผู้ถูกกล่าวหา และผู้เสียหาย ยื่นต่อสู้คดีกันอย่างรอบคอบเพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จนเป็นที่มาในการขยายผลคดี  ทราบว่า น.ส.อัชฌามีพฤติกรรมพัวพันกับคดีแชร์ลูกโซ่ และอาจเป็นตัวการสำคัญในคดีนี้ก็เป็นได้”

                “ตนมีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทีมงานเจ้าหน้าที่ตำรวจโคราชทุกคน ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์จากคดีนี้โดยเด็ดขาด เชื่อว่าเป็นการสร้างความเสื่อมเสีย และบั่นทอนความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งสร้างความสับสนให้กับคนในสังคม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับน.ส.อัชฌาข้อหาพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีความคืบหน้าของคดีไปกว่า ๘๐% เชื่อว่าจะเกิดความกระจ่างชัดเจนในเร็ววันนี้ ขอให้ประชาชนในสังคมที่รับทราบข้อมูลข่าวสาร ที่ถูกต้อง อย่าหลงเชื่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง” พล.ต.ต.สุภากร กล่าว

 

 

โปรดติดตามข่าวโดยละเอียดจาก นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๔๗ วันพุธที่ ๒๖ - วันจันทร์ที่ ๓๑ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐


694 1356