28thMarch

28thMarch

28thMarch

 

August 05,2017

หอไทยหารือหอการค้ากัมพูชา ส่งเสริมการค้าลงทุน หนุนเปิดจุดผ่อนปรนสู่ด่านถาวร

          หอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับหอการค้าภาคอีสาน ๒๐ จังหวัด ประชุมหารือการค้าการลงทุนการท่องเที่ยว ร่วมกับหอการค้า ๔ จังหวัด ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมเร่งประสานรัฐบาลเปิดด่านผ่านแดนชั่วคราวเป็นด่านผ่านแดนถาวร และแก้ไขปัญหาการขอผ่านแดนให้มีความคล่องตัวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ผลักดันให้จังหวัดสุรินทร์เป็นเมืองหน้าด่านประตูอีสานสู่กัมพูชา 


          เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ห้องรัตนสยาม โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ พลเอกวิชิต ยาทิพย์ นายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา พร้อมด้วยนายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทย และประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายประพันธ์ เตชะสกลกิจกูร รองประธานหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหอกาค้าไทย รวมทั้งหอการค้าจาก ๗ จังหวัด มีพื้นที่ติดกับราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วยกรรมการหอการค้าจังหวัด ๒๐ จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประชุมหารือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว กับคณะกรรมการหอการค้า จากจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดศรีโสภณ จังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดพระตะบองนำโดยนายฮุย เพีย ประธานหอการค้าจังหวัดเสียมราฐ

          สำหรับการประชุมหารือในวันนี้ทั้งหอการค้าไทย และหอการค้า ๔ จังหวัดราชอาณาจักรกัมพูชา หอการค้ากัมพูชา มีความประสงค์ที่จะสร้างความสัมพันธ์ในด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น เนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกันและพื้นที่ไม่ห่างไกลจากชายแดนไทย-กัมพูชามากนัก ต้องการที่จะให้มีนักลงทุนชาวไทย เข้าไปลงทุนการค้า การท่องเที่ยว แม้แต่ด้านการเกษตร ที่คนไทยมีความถนัด สามารถเจรจาลงทุนกับหอการค้า ๔ จังหวัดกัมพูชาได้เลยทันที เพราะขณะนี้สถานการณ์ในประเทศกัมพูชามีความสงบสุข ประเทศมีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ชาวกัมพูชามีผู้ประกอบการค้าขาย มีรายได้มากขึ้น มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปเที่ยวนครวัดนครธม แต่ละปีจำนวนมาก ภายหลังจากการมีการประชุมหารือ และเจรจากันแล้ว หอการค้า ๔ จังหวัด ราชอาณาจักรกัมพูชา ได้มีการลงนามความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว กับหอการค้าจังหวัดของไทย ที่มีพื้นที่ติดต่อและใกล้เคียงกัน

          พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ นายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา กล่าวว่า การประชุมหารือกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนทั้งไทย และกัมพูชา ซึ่งสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา ได้ดำเนินการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ต่อกันของทั้งสองประเทศมาต่อเนื่อง ในขณะนี้สถานการณ์ความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชาดีมาก ผู้นำของทั้ง ๒ ประเทศ มีความสนิทคุ้นเคยกันมีปัญหาอะไร ผู้นำของทั้ง ๒ ประเทศสามารถเจรจากันทำความเข้าใจกันได้ ขณะนี้ทางราชอาณาจักรกัมพูชา มีความเจริญ มีการพัฒนาไปมาก การค้าการลงทุนดีมาก ชาวกัมพูชามีรายได้สามารถชื้อสินค้าดีๆ มีคุณภาพมาบริโภค และอุปโภค เช่น อาหาร หรือกาแฟดังๆ มีชื่อเสียง ชาวกัมพูชาเข้าไปซื้อรับประทานเป็นร้อยสองร้อยแก้ว แต่คนไทยซื้อกันไม่ถึงร้อยแก้วหรือร้อยถ้วย สินค้าประเภทต่างๆ ที่ส่งจากประเทศไทย เข้าไปขายในประเทศกัมพูชา ชาวกัมพูชาจะนิยมมาก เขาเชื่อมั่นในสินค้าไทยแทบทุกประเภท เพราะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ชาวกัมพูชาไม่นิยมซื้อสินค้าจากประเทศจีนและเวียดนาม เพราะฉะนั้นนักลงทุนชาวไทยควรพิจารณาเข้าไปลงทุนประกอบกิจการต่างๆ ในราชอาณาจักรกัมพูชา 

          “วันนี้มีหอการค้า ๔ จังหวัด ของราชอาณาจักรกัมพูชา มาประชุมหารือกัน หอการค้าภาคตะวันออกเฉียง ๒๐ จังหวัด สามารถเจรจากันได้โดยตรง และขณะนี้ จังหวัดสุรินทร์กลายเป็นศูนย์กลางของรักษาพยาบาล ชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามารักษาในโรงพยาบาลทั้งของเอกชน และของรัฐบาล เป็นจำนวนมาก หรือจะไปหางร้านไหน โรงแรมไหน จะเห็นชาวกัมพูชาใช้ชีวิตอยู่เหมือนกับคนไทยไปทั่วเมืองสุรินทร์ เราสนับสนุนให้จังหวัดสุรินทร์เป็นเมืองหน้าด่านประตูอีสานสู่ราชอาณาจักรกัมพูชา หรือเกตเวย์ (Gateway) ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และทางหอการค้าไทย ร่วมกับสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา ร่วมกับหอการค้า จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดอุบลราชธานี สนับสนุนให้รัฐบาลเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราว เป็นด่านผ่านแดนถาวรที่ช่องสายตากู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อส่งเสริมให้เกิดการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ เศรษฐกิจชายแดน เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง” พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ 

          ขณะที่นายฮุย เพีย ประธานหอการค้าจังหวัดเสียมราฐ กล่าวว่า ขณะนี้ราชอาณาจักรกัมพูชา มีการพัฒนาในด้านต่างๆ ไปมาก มีความเจริญ มีความสงบสุข มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเที่ยวชมความสวยงามความอัศจรรย์ของปราสาทนครวัดนครธม จึงขอเชิญชวนนักลงทุนจากประเทศไทยเข้าไปลงทุนในราชอาณาจักรกัมพูชา แม้แต่ด้านการเกษตรที่ชาวไทยมีความถนัดก็สามารถไปลงทุนได้ และอยากขอร้องถึงหน่วยงานราชการของไทยคือเรื่องการขออนุญาตผ่านแดน ซึ่งทำล่าช้า อยากให้เร็วขึ้นกว่านี้ จะสะดวกในการติดต่อการค้าขาย และการลงทุนการท่องเที่ยวมากขึ้น

 

 

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๒ ฉบับที่ ๒๔๔๙ วันอาทิตย์ที่ ๖ - วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐


692 1337