ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง

                “อธิการบดี มทร.อีสาน” โชว์วิสัยทัศน์พัฒนามหาวิทยาลัย “RMUTI 4.0” ตอบสนองนโยบายรัฐบาล มุ่งผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติด้วยนวัตกรรม สู่ SMART UNIVERSITY ใน ๔ ปี เตรียมตั้งสถาบันอุตสาหกรรมการบินครบวงจร เพื่อพัฒนาบุคลากรให้ได้มาตรฐาน ICAO และ EASA รองรับอุตสาหกรรมการบิน

                เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องประชุมตะโกราย ๒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) นครราชสีมา ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดี มทร.อีสาน เปิดเผยแนวทางการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน RMUTI 4.0 ตอบสนองนโยบายรัฐฯ มุ่งผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติด้วยนวัตกรรม สู่การเป็น SMART UNIVERSITY ใน ๔ ปี ว่า

                “ในระยะเวลา ๔ ปีที่ผ่านมา มทร.อีสาน เติบโตเป็นที่รู้จักและมีบทบาทในวงการศึกษามากขึ้นทั้งด้านเรียนการสอน การวิจัยสิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงวางรากฐานการเรียนรู้เพื่อรองรับการพัฒนาของประเทศไทย อาทิ ด้านระบบราง ด้านอากาศยาน ด้านโลจิสติกส์ ด้านเกษตรอินทรีย์ และการส่งเสริมธุรกิจ SMEs มทร.อีสาน ได้ลงนามความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศหลากหลายแห่ง เพื่อผลิตบัณฑิตให้รองรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการผลิตบัณฑิต นักปฏิบัติด้านวิชาชีพ เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน ตอบสนองประชาคมอาเซียน มุ่งส่งเสริมศักยภาพบัณฑิตให้มีคุณภาพหลากหลายด้านมากยิ่งขึ้นและมีนโยบายในส่วนการวิจัยและพัฒนาด้านพลังงานสะอาด ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อการปรับเปลี่ยนสู่การเป็น GREEN UNIVERSITY หรือ มหาวิทยาลัยสีเขียว จะทำให้มีสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ดีรวมถึงคนไทยมีสุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้ได้ช่วยเหลือและบริการวิชาการแก่ชุมชน ซึ่งเป็นพันธกิจของ มทร.อีสาน ที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ”

                ผศ.ดร.วิโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์พัฒนาระบบการขนส่ง หรือ LOGISTICS และ TOURISM เพื่อให้สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศ โดยเตรียมตั้งสถาบันอุตสาหกรรมการบินครบวงจรแห่ง มทร.อีสาน (Rajamangala University of Technology ISAN Aviation Industrial Institute : RMUTI AII) เพื่อพัฒนาบุคลากรให้ได้มาตรฐาน ICAO และ EASA (European Aviation Safety Agency) รองรับอุตสาหกรรมการบิน เพื่อขับเคลื่อนให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งต้องการให้เร่งสร้างบุคลากรรองรับการขยายตัวด้านโลจิสติกส์ และอากาศยาน โดยมีกรอบลงทุน ๔ ปี งบประมาณ ๑,๒๔๐ ล้านบาท โดยในปี ๒๕๖๐ พัฒนาบุคลากรร่วมกับสถาบันฯ ประเทศเยอรมันและไต้หวัน, ปี ๒๕๖๑ เปิดสอนหลักสูตรช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน (CAAT) ระดับอนุปริญญา และปวส., ปี ๒๕๖๒ เปิดสอนหลักสูตรช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน ระดับปริญญาตรี ๔ ปี และเทียบโอน และปี ๒๕๖๓–๒๕๖๔ ดำเนินการจัดเตรียมสำหรับเปิดหลักสูตรอบรมการซ่อมบำรุงรักษาอากาศยาน (EASA)

                อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวอีกว่า “ส่วนการพัฒนาและผลิตกำลังคนด้านระบบขนส่งทางราง เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงไทย–จีน รถไฟทางคู่ระหว่างเมืองและรถไฟรางเบาภายในเมือง มีกรอบวงเงินลงทุน ๔ ปี งบประมาณ ๙๘๐ ล้านบาท เป็นการสนับสนุนร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทยและจีน จัดตั้งศูนย์วิจัยและฝึกอบรมระบบขนส่งทางรางแห่งอาเซียน เน้นด้านล้อเลื่อนและการบริหารจัดการรถและศูนย์วิจัยและฝึกอบรมระบบขนส่งทางราง ระบบอานัติสัญญาณและงานโยธา เป็นการพัฒนาแบบคู่ขนานในอนาคต โดยยกระดับให้เป็นวิทยาลัยระบบขนส่งทางรางแห่งอาเซียน เปิดสอนหลักสูตรให้สอดคล้องกับนวัตกรรมระบบขนส่งทางราง รูปแบบพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาแบบสหกิจ ซึ่งเน้นการเรียนรู้ด้วยการทำงานจริง”

                “ปัจจุบัน มทร.อีสานมีศักยภาพด้านบุคลากร การเรียนการสอนครบวงจรที่เกี่ยวข้องกับระบบราง ทั้งสาขาบริหารธุรกิจและวิศวกรรม จึงเปิดหลักสูตรการเรียนการสอน ผลิตบุคลากรรองรับการพัฒนาระบบขนส่งทางราง มีแผนดำเนินการในปี ๒๕๖๐ พัฒนาบุคลากรและครุภัณฑ์, ปี ๒๕๖๑ เปิดสถาบันฯ รถไฟความเร็วสูงไทย–จีน หลักสูตร ปวส. และ วศบ. ระบบราง, ปี ๒๕๖๒ เปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรี, ปี ๒๕๖๓ เริ่มวิจัยระบบราง และปี ๒๕๖๔ ดำเนินการสร้างนวัตกรรม เบื้องต้นได้วางแผนใช้สถานที่ก่อสร้างสถาบันฯ ทั้ง ๒ แห่ง ที่ศูนย์หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา หากดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ประเทศไทยจะก้าวผ่านไปอยู่ในสถานะแห่งความเป็นมาตรฐานสากล มีศักยภาพเป็นศูนย์กลางเครือข่าย การเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย” อธิการบดี มทร.อีสาน กล่าวอย่างภาคภูมิใจในท้ายสุด

โปรดติดตามข่าวโดยละเอียดจาก  นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๕๘ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ - วันจันทร์ที่ ๒๕ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๐