ครบรอบ ๑ ปี ในหลวงรัชกาลที่ ๙ สวรรคต ชาวโคราชกว่าห้าพันคนร่วมใจน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ ๘๙ รูป ณ ลานย่าโม บ่ายผู้ว่าฯ อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ ประดิษฐานพระเมรุมาศจำลอง เย็นพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล พสกนิกรล้นศาลาวัดสุทธะ

                เมื่อเวลา ๐๗.๐๙ น. วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทร โณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อม พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ นำพสกนิกร ชาวจังหวัดนครราชสีมาทุกหมู่เหล่ากว่า ๕ พันคน ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สวรรคต ครบ ๑ ปี โดยมีพระสงฆ์จำนวน ๘๙ รูป มีข้าราชการ และประชาชน ในพื้นที่แต่งกายชุดไว้ทุกข์ นำข้าวสารอาหารแห้งมารอใส่บาตรเต็มพื้นที่รอบลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี บรรยากาศเป็นไปด้วยความอาลัย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงอุทิศพระวรกายประกอบพระราชกรณียกิจซึ่งนำมายังประโยชน์สุข และความเจริญรุ่งเรืองแก่ประชาชนชาวไทยและประเทศชาติตลอดช่วงเวลา ๗๐ ปีที่พระองค์ทรงครองราชย์

สรรเสริญพระบารมีกึกก้องลานย่าโม

                ต่อมาเวลา ๑๕.๕๒ น. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ชาวจังหวัดนครราชสีมาร่วมแสดงความอาลัยและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ โดยการพร้อมใจยืนสงบนิ่งเพื่อถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นำโดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีข้าราชการและประชาชนมาร่วมในพิธีกว่า ๒,๐๐๐ คน โดยยืนสงบนิ่งเป็นเวลา ๘๙ วินาที ตามจำนวนสิริพระชนมพรรษา หลังจากนั้น ชาวนครราชสีมาได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอย่างกึกก้อง ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า พร้อมด้วยสายฝนที่โปรยลงมา ราวกับว่าท้องฟ้าร่วมร่ำไห้

แม้แต่ฟ้ายังอาลัย

                เรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในพิธีคือ ก่อนเริ่มพิธีอากาศค่อนข้างร้อน ท้องฟ้าเปิดและมีแดดแรงเหมือนช่วงเวลาบ่ายของเมืองไทย แต่เมื่อใกล้เวลาเข้าสู่ช่วงเริ่มพิธี เกิดมีเมฆกลุ่มใหญ่มาปกคลุมบริเวณพิธี ทำให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีไม่ต้องตากแดด และอากาศก็เย็นลงช่วยคลายความร้อนได้ พอถึงเวลา ๑๕.๕๒ น. ฝนก็เริ่มตกลงมาปรอยๆ ราวกับว่าท้องฟ้าส่งความรู้สึกเศร้าโศกร่วมถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจาก เสร็จสิ้นพิธีการถวายอาลัยได้ไม่นาน ก้อนเมฆก็เริ่มสลายตัวไปท้องฟ้ากับมาสดใสดังเดิม

อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์

                ต่อมาเวลา ๑๔.๓๐ น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยข้าราชการและประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ย้ายขบวนด้วยการเดินมายังหน้าพระเมรุมาศจำลอง บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อทำพิธีอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ประดิษฐานภายในพระเมรุมาศจำลอง โดยมีนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครราชสีมา และรับผิดชอบการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองของจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถวายความอาลัย และความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จากนั้นนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ถวายเครื่องราชสักการะขึ้นประดิษฐานต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรอภิธรรมมหากุศล

                เวลา ๑๖.๕๐ น. ณ ศาลาการเปรียญ วัดสุทธจินดาวรวิหาร อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล มีการสวดพระอภิธรรมและถวายพระธรรมเทศนา โดยคณะสงฆ์วัดสุทธจินดา ร่วมด้วยคณะสงฆ์จากวัดต่างๆ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคตครบ ๑ ปี โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย เป็นประธาน พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชนจังหวัดนครราชสีมาเข้าร่วมในพิธีมากกว่า ๑,๐๐๐ คน กระทั่งล้นออกมายืนร่วมพิธีโดยรอบศาลาการเปรียญ บรรยากาศภายในบริเวณพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลฯ เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าและอาลัย

ความในใจถึงพ่อหลวง

                นางอำพรรณ แคลงกลาง พสกนิกรจังหวัดนครราชสีมา ผู้ได้มาร่วมยืนสงบนิ่งและร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในช่วงบ่าย ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี กล่าวกับ ‘โคราชคนอีสาน’ พร้อมน้ำตาว่า “คิดถึงพระบาทสมเด็จพระปรมิน ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงดีกับประชาชนชาวไทย ช่วยเหลือประชาชนทุกอย่าง คิดถึงพ่อหลวงมากๆ ค่ะ”

                นายทวี ด่านกลาง คนงานจัดสวนบริเวณโดยรอบพระเมรุมาศจำลอง หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวกับ ‘โคราชคนอีสาน’ ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและน้ำตาคลอว่า “รู้สึกเสียใจมากที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จากไป ผมได้มาทำงานจัดสวน รู้สึกดีใจ จะได้มีสิ่งที่จะคอยรำลึกไว้ว่า เคยทำงานถวายพระองค์ท่าน และตั้งแต่ในหลวงจากไปก็ยังคิดถึงท่านเสมอ”

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๖๓ วันจันทร์ที่ ๑๖ - วันศุกร์ที่ ๒๐ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐