ชัยภูมิจัดใหญ่ส่งท้ายต้อนรับปีใหม่ ชมมหัศจรรย์สุดยอดอันซีนแหล่งท่องเที่ยวเชิงการละเล่นไทยกีฬาโบราณตีคลีไฟ มีหนึ่งเดียวในไทย เตรียมต้นคริสต์มาสรับเคาท์ดาวน์ที่สวนหิน ๑๙๕ ล้านปีที่มอหินขาว “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” หนึ่งเดียวในโลก 

           เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๓๐ น. นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยตัวแทนทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันเปิดแถลงข่าวความพร้อมเตรียมจัดงานต้อนรับเทศกาลฤดูท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวประจำปีครั้งใหญ่ ณ สวนอาหารโสเจ๊ง ในช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในปี ๒๕๖๑ ที่จะถึงนี้ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศและทั่วโลกได้มาสัมผัสความหลากหลายกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่ถือว่าหาชมได้ยากและติดอันดับได้รับความนิยมไปทั่วโลกในปัจจุบัน

           จังหวัดชัยภูมิมีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในด้านการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว สุดยอดอันซีนไทยแลนด์ ติดอันดับมีเพียงแห่งเดียวในโลก ที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรมประเพณี การละเล่นแบบโบราณยาวนานนับหลายร้อยปี ในงานมหัศจรรย์ตีคลีไฟ กีฬาพื้นบ้านโบราณ หรือที่คนทั่วไปต่างกล่าวขานว่าเป็นหมู่บ้านเมืองคนไม่กลัวไฟ ประเดิมต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวของจังหวัดอย่างยิ่งใหญ่ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตลอดช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ 

           ต่อด้วยงานสุดยอดเทศกาลต้อนรับปีใหม่ ชวนชมมาร่วมกิจกรรมเคาท์ดาวน์ ท้ามาสัมผัสความหนาวเย็นต่ำกว่า ๑๐ องศา บนเทือกเขาภูแลนคาที่มีระดับความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า ๙๐๐ เมตรบนสวนหินอายุเก่าแก่กว่า ๑๙๕ ล้านปี หนึ่งเดียวในสยามที่ได้รับฉายานามว่า “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” ชวนนักท่องเที่ยวมา “โต้ลมหนาวที่มอหินขาว”เมืองชัยภูมิ  และอีกหลากหลายกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑  ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยเริ่มต้นด้วยกิจกรรม “งานมหัศจรรย์ประเพณีตีคลีไฟที่ชัยภูมิ ประจำปี ๒๕๖๐”ในวันที่ ๑๕-๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ บริเวณลานวัดแจ้งสว่าง ของหมู่บ้านหนองเขื่อง ต.กุดต้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ มีประเพณีเล่นกีฬาตามตำนานโบราณสืบทอดกันมาเก่าแก่หลายร้อยปี ที่ประยุกต์มาจากการละเล่นพื้นบ้านที่แปลกและท้าทาย มีให้ชมเพียงแห่งเดียวในโลก 

           ช่วงฤดูหนาวของทุกปี หลังว่างจากการทำไร่ทำนา คนในชุมชนแห่งนี้ จะรวมกลุ่มกันที่ริมบึงหนองเขื่อง แหล่งน้ำแห่งเดียวประจำตำบล และมีการเล่นตีก้อนไม้ที่ทำมาจากต้นงิ้วหรือต้นนุ่น ตัดมาทำขนาดเท่าลูกฟุตบอลขนาดเล็ก  และใช้เหง้าไม้ไผ่ที่มีในชุมชนมาเป็นไม้ตี ก่อนที่จะใช้ลูกไม้งิ้วมาเผาเพื่อช่วยคลายหนาวให้กับตนเอง ระหว่างรอคิวลงอาบน้ำในบึง ก็ใช้ลูกงิ้วที่เผาไฟที่มีความพิเศษคือติดไฟง่ายและอยู่ได้นาน เมื่อนำมาตีด้วยเหง้าไม้ไผ่  ไปยังฝ่ายตรงกันข้ามตีส่งกันไปมา ก็จะเกิดมีประกายไฟพุ่งตามไป 

           เริ่มแรกมีการแข่งตีลูกคลีไฟในระยะไกล ใครมีกำลังตีได้ไกลที่สุด ก็จะชนะ และคนที่นั่งรอดูก็จะเห็นแสงไฟของลูกงิ้วพุ่งไปไกลอย่างสวยงามไปทั่วหมู่บ้าน และต่อมาก็เริ่มมีการแข่งกันเป็นทีม แต่ละฝ่าย มี ๕-๗ คนบ้าง ที่จะมีผู้รักษาประตู ของแต่ละฝ่าย คล้ายกีฬาฮอกกี้ จนมีการจัดการแข่งขันเป็นกีฬาประเพณีระหว่างหมู่บ้านกันมายาวนานถึงปัจจุบันหลายร้อยปี ที่มีการจัดเป็นกีฬาสาธิตประจำชุมชนขึ้น ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติจากทั่วโลก ที่ต่างมุ่งเดินทางเพื่อจะมาชมการละเล่นกีฬาโบราณมหัศจรรย์ ตีคลีไฟที่ จ.ชัยภูมิ เป็นจำนวนมาก นับหลายแสนคนเป็นประจำทุกปี ซึ่งการละเล่นนี้ยังช่วยสานพลังความสัมพันธ์และสร้างมิตรภาพที่ดีของคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นทางจังหวัดจึงเข้ามาส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประเพณีการละเล่นวัฒนธรรมอันดีงามของชาวจังหวัดชัยภูมิ ที่มีเหลือแห่งเดียวในเมืองไทย 

           ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แข่งขันตีคลีโหลนประเภทต่างๆ เช่น ตีคลีโหลนหรือตีไกล ตีคลีลอดบ่วง ตีคลีชนหลัก พร้อมทั้งมีการแสดง แสง สี เสียง ตำนานคลีไฟ รำวงย้อนยุค การแข่งขันเรือพาย จัดตลาดย้อนยุค “เดิ่นแซบ เดิ่นนัว” และจำหน่ายสินค้า OTOP ให้นักท่องเที่ยวเดินเที่ยว ชิม ช็อป อย่างจุใจ ตลอด ๒ วันในระหว่างวันที่ ๑๕-๑๖ ธ.ค.นี้  และต่อเนื่องด้วยอีกกิจกรรมที่น่าสนใจของจังหวัดชัยภูมิตลอดฤดูหนาวนี้ คือชวนมาสัมผัสบรรยากาศ “โต้ลมหนาวที่มอหินขาว” ที่ จ.ชัยภูมิ อีกหนึ่งสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อระดับโลก สโตนเฮนจ์เมืองไทย เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ๒๕๖๐ ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ แหล่งท่องเที่ยว มอหินขาว บนอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ที่จะมีนักท่องเที่ยวมารอสัมผัสบรรยากาศท้าลมหนาว กับอีกหลากหลายกิจกรรม บนยอดภูที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ “มอหินขาว” เริ่มกิจกรรมกางเต็นท์ นอนนับดาว ท่ามกลางขุนเขา และเสาหินที่ตั้งตระหง่าน มีอายุเก่าแก่กว่า ๑๙๕ ล้านปี อยู่บนเทือกเขาภูแลนคาที่มีระดับความสูงกว่าระดับน้ำทะเล ๙๐๐ เมตรขึ้นไป ทุกๆ วันที่พระจันทร์เต็มดวง เสาหินจะส่องแสงขาวนวล สวยงามมาก อีกทั้งในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นฤดูหนาว จะมีอากาศหนาวเย็น เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน ทั้งกางเต็นท์ และชมวิวทิวทัศน์บนยอดภูแห่งนี้ 

           ในปีนี้ยังเหมาะอย่างยิ่งที่จะให้จังหวัดชัยภูมิเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับกิจกรรมครอบครัว เพื่อน หรือคู่รัก โดยเริ่มจากกิจกรรมที่สะท้อนความเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่เอาใจคนรักสุขภาพ สำหรับนักวิ่ง “มินิมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน”ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ณ มอหินขาว เต็มอิ่มกับการก้าวไปข้างหน้า บนเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาเส้นทางวิ่งที่ท้าทาย และบรรยากาศใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ไม่เหมือนใครในโลก บรรยากาศที่เปี่ยมล้นด้วยมนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติ “มอหินขาว” จึงเป็นสถานที่ในดวงใจของนักท่องเที่ยวที่ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมืองไทยและของโลก 

           ในการนับถอยหลัง รอต้อนรับศักราชใหม่ ในค่ำคืนของวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ มีการจัดกิจกรรม “เคาท์ดาวน์โต้ลมหนาวที่มอหินขาว” พร้อมรับมงคลแสงแรกของปีใหม่ วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๑ ด้วยการตักบาตรพระสงฆ์ ให้ได้อิ่มบุญและอิ่มใจ จนอยากหาโอกาสกลับมาอีก ตอกย้ำด้วยกิจกรรมสำหรับคนที่รักการดูแลสุขภาพ ด้วยกิจกรรมสองล้อคู่ใจ ปั่นจักรยานบนมอหินขาว ระหว่างวันที่ ๖-๗ มกราคม ๒๕๖๑ ซึ่งที่ผ่านมา สถานที่แห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักปั่นทั่วประเทศ ที่ปั่นขึ้นมาพิชิตกันถึงยอดภู “มอหินขาว” และปิดท้ายการส่งเสริมการท่องเที่ยวโต้ลมหนาวที่มอหินขาว ในเดือนแห่งความรัก ด้วยกิจกรรม “รักนี้...ที่มอหินขาว” ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษในวันวาเลนไทน์ ๑๔ กุมภาพันธ์  ซึ่งเปิดให้คู่รักสามารถลงทะเบียน เพื่อขึ้นไปจดทะเบียนสมรส ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก โดยให้เสาหินโบราณเป็นพยานรัก เชื่อกันว่า คู่รักที่มาจดทะเบียนที่นี่ จะมีความรักที่ยืนยาว เหมือนกับอายุของเสาหินที่ตั้งตระหง่านมาถึงปัจจุบันมากกว่า ๑๙๕ ล้านปี 

           นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เชื่อว่านักท่องเที่ยวจัดอันดับให้มอหินขาว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจตลอดฤดูหนาวนี้ กระทั่งได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นขาลุยสะพายเป้ ชอบถ่ายรูป คนที่ดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายที่กำลังมองหาเส้นทางใหม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หรือแม้แต่คู่รักที่อยากสร้างความประทับใจด้วยมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ มอหินขาว จะถูกตราไว้ในใจของนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน ใครยังไม่เคยมา อยากให้เปิดใจ ชาวชัยภูมิยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความเต็มใจ

           “ทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดชัยภูมิเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง และส่งผลกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดได้อีกนับหลายพันล้านบาทต่อปี” นายณรงค์ วุ่นซิ้ว กล่าวในท้ายสุด

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๗๓ วันจันทร์ที่ ๑๑ - วันศุกร์ที่ ๑๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐