25thApril

25thApril

25thApril

 

December 12,2017

ย่านธุรกิจ‘คลังคาซ่า’ฉลุย B2 ซื้อสร้างโรงแรม ๑๒๐ ล. รพ.จ่อลงอีกพันล้าน

            นักธุรกิจโรงแรมซื้อที่ดิน ๑ ไร่ ลงทุนสร้างโรงแรม B2 Premier มูลค่า ๑๒๐ ล้านบาท ๗๙ ห้อง บนที่ดินของ “คลังคาซ่า” ย่านธุรกิจแห่งใหม่พื้นที่กว่า ๓๐๐ ไร่ ย้ำ New CBD ใกล้สมบูรณ์ หลังมีโรงเรียนนานาชาติ ร้านอาหาร และโรงแรมเข้ามาลงทุน พร้อมรอเจรจาโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่จะมาร่วมอีกกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท 

            เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ เวลาประมาณ ๑๓.๓๐ น. ที่ร้านอาหาร 8 Dining ภายในโครงการซิตี้ลิ้งค์ (City Link) ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New Central Business District : New CBD) ของจังหวัดนครราชสีมา ถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีการแถลงข่าวโครงการร่วมลงทุนก่อสร้างโรงแรมหรู B2 (PREMIER) KORAT ระหว่างกลุ่มบริษัท คลังคาซ่า จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และภาคอีสาน เจ้าของโครงการ City Link Condo นำโดยนายจิระศักดิ์ พันธ์ุสายเชื้อ ประธานบริหาร บริษัท คลังคาซ่า จำกัด นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการผู้จัดการ นายสุดที่รัก พันธุ์สายเชื้อ รองกรรมการผู้จัดการ และนายวีรพล จงเจริญใจ ผู้บริหารบริษัทคลังคาซ่า จำกัด กับบริษัท บีทู โฮเทล จำกัด นำโดยนายพิชัย จาวลา กรรมการบริหาร และคณะ

            นายจิระศักดิ์ พันธ์ุสายเชื้อ กล่าวต้อนรับว่า หลังจากที่บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ได้พัฒนาที่ดินใจกลางเมืองเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองโคราช โดยการเริ่มต้นสร้างสังคมคุณภาพ เริ่มจากหมู่บ้านเวนิสพาร์ค ย่านการค้าเวนิสสแควร์ และตามมาด้วยสังคมเมืองอย่างโครงการซิตี้ลิงก์คอนโด หมู่บ้านโมเดิร์นลิงค์ โรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ ย่านการค้าซิตี้ลิงก์ และร้านอาหารต่างๆ และล่าสุดที่ทำให้ภาคภูมิใจคือการได้รับเกียรติจากนายพิชัย จาวลา กรรมการบริหาร บริษัท บีทู โฮเทล จำกัด และกรรมการบริหารกลุ่มจาวลาเชียงใหม่ กรุ๊ป มาร่วมสร้างโรงแรมบีทู พรีเมียร์ ที่จะเป็นหน้าตาและความภาคภูมิใจของเมืองโคราช ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโรงแรมบีทูพรีเมียร์ และโครงการของเราจะได้รับการสนับสนุน และส่งเสริมเป็นอย่างดีจากทุกฝ่าย

            นายไพจิตร มานะศิลป์ กล่าวถึงความเป็นมาและความร่วมมือกับโรงแรมบีทูว่า ทางบริษัทของเราได้รับเกียรติจากโรงแรมบีทู ที่มาร่วมลงทุนใน โครงการของคลังคาซ่าซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ ๓๐๐ ไร่ มูลค่าการลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ปัจจุบันพัฒนาไปแล้วกว่า ๒๒๐ ไร่ เริ่มตั้งแต่โครงการหมู่บ้านเวนิสพาร์ค และซิตี้ลิงค์คอนโด นอกจากนี้ยังมีย่านเศรษฐกิจซึ่งประกอบไปด้วย ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ โดยโครงการของเราอยู่ใกล้ทางลงมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ที่คาดว่าจะเสร็จในปี ๒๕๖๒ ซึ่งมีจุดสิ้นสุดโครงการอยู่ใกล้โครงการของเรา เปิดใช้อย่างช้าต้นปี ๒๕๖๓ และเมื่อลงจากมอเตอร์เวย์ก็สามารถเข้าสู่โครงการเราได้เลย เพราะโครงการอยู่ห่างจากจุดลงมอเตอร์เวย์ประมาณ ๕๐ เมตรเท่านั้น และสามารถลัดเข้าสู่ตัวเมืองได้ในระยะทางเพียง ๑ กม. ซึ่งภายในปี ๒๕๖๑ คลังคาซ่าจะมีการเปิดตัวคอนโดอีก ๒ แท่งกว่า ๕๐๐ ยูนิต ซึ่งปัจจุบันมีการสร้างช่วงแรกแล้วและจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี ๒๕๖๒ สิ่งเหล่านี้เป็นภาพรวมคร่าวๆ ซึ่งบริษัทของเราจะพยายามสร้าง New CBD ให้เป็นทั้งย่านการค้าและที่พักอาศัยให้สมบูรณ์แบบที่สุด 

            ทางด้านนายพิชัย จาวลา เปิดเผยถึงเหตุผลที่เลือกทำเลในโครงการของคลังคาซ่าว่า เหตุผลหลักๆ ที่มาร่วมมือและร่วมลงทุน ๒ เหตุผลหลักคือ เป็นทำเลที่มีศักยภาพ และหลังจากได้พูดคุยกับผู้บริหารทั้งคุณไพจิตรและคุณสุดที่รักแล้ว เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและมีแนวทางการทำธุรกิจที่คล้ายกัน จึงคิดว่าไปด้วยกันได้ดี จึงเป็นที่มาของการร่วมลงทุนในครั้งนี้ 

            จากนั้นเป็นการลงนามในการร่วมลงทุนระหว่าง ๒ บริษัท โดยตัวแทนคลังคาซ่ามีนายจิระศักดิ์ พันธ์ุสายเชื้อ และนายไพจิตร มานะศิลป์ กับนายพิชัย จาวลา และเปิดให้สื่อมวลชนซักถาม ซึ่ง “โคราชคนอีสาน”ขอความชัดเจนในเรื่องการร่วมทุนของทั้งสองบริษัทว่าเป็นในรูปแบบใด นายไพจิตร มานะศิลป์ ชี้แจงว่า บีทูซื้อที่ดินจากคลังคาซ่า จำนวน ๑ ไร่ เหมือนกับที่โรงเรียนแองโกลสิงคโปร์ที่ซื้อที่ดินจากเราเช่นกัน 

            สำหรับมูลค่าการลงทุนโรงแรมนี้ นายพิชัย จาวลา กล่าวว่า การลงทุนสร้างโรงแรมนี้จะอยู่ที่ประมาณ ๑๒๐ ล้านบาท ซึ่งรวมราคาที่ดินด้วย เป็นโรงแรมบีทู พรีเมียร์ จำนวน ๗ ชั้น ๗๙ ห้อง นับเป็นแห่งแรกของภาคอีสานที่เป็นแบบพรีเมียร์ ซึ่งยังเน้นความเป็น Value Hotel คือ เน้นความคุ้มค่า แม้จะเป็นพรีเมียร์แต่ก็เป็นพรีเมียร์แบบ ๔ ดาว โดยที่ผ่านมาแม้จะตั้งราคาห้องพักที่ ๕๐๐-๖๐๐ บาท แต่เมื่อมาพักแล้วลูกค้้าจะได้ความคุ้มค่า โดยราคาห้องของบีทูพรีเมียร์จะอยู่ที่ราคาประมาณ ๙๐๐ บาท แต่มาตรฐานราคาห้องจะประมาณ ๑,๘๐๐ บาท แต่เราจะขายแค่ห้องละประมาณ ๙๐๐-๑,๑๐๐ บาทเท่านั้น 

            นอกจากนี้ นายพิชัยยังเปิดเผยถึงเหตุผลที่เลือกลงทุนที่โคราชว่า “โคราชเป็นเมืองที่มีศักยภาพสูง เป็นจังหวัดใหญ่และตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าของเรา ซึ่งที่ผ่านมาในจังหวัดเล็กๆ มีการลงทุนไปเยอะแล้ว ฉะนั้นจังหวัดใหญ่อย่างโคราช ปัญหาของโรงแรมของเราที่ผ่านมาคือต้นทุน ซึ่งหาต้นทุนที่จะตอบโจทย์โรงแรมในอัตรา(Rate)ที่เราทำได้ยาก อย่างในกรุงเทพฯ ผมอยากได้โรงแรมสัก ๕ แห่ง แต่หาที่ดินหรือทำเลไม่ได้ จึงเปิดได้แค่ ๒ แห่ง เพราะต้นทุนสูง เมื่อต้นทุนสูงเราก็จะควบคุมราคาที่ตั้งไว้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ในส่วนของโคราช ผมก็มองว่า หากสร้างโครงการนี้เสร็จ ก็ตั้งใจจะเปิดสาขาที่ ๓ สาขาที่ ๔ แต่ขอดูแนวโน้มอีก ๒ ปี ให้โครงการนี้เปิดเรียบร้อยก่อน แต่ด้วยศักยภาพของโคราช ผมมองว่า ผมเปิด ๔-๕ สาขาได้สบายๆ เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ที่กลุ่มลูกค้าตรงกับกลุ่มลูกค้าของเรา ที่ส่วนใหญ่เป็นคนเดินทางเป็นหลักมากกว่านักท่องเที่ยว” 

            “นอกจากราคาแล้วสิ่งใดที่ทำให้ลูกค้าเลือกมาพักที่บีทูแล้วมีปัญหาในเรื่องของ Value (ความคุ้มค่า) อย่างน้อยผู้ที่เข้าไปพักก็มีความรู้สึกว่า ห้องที่เขาเข้าไปพักควรจะมีราคามากกว่าที่เขาจ่ายไป ไม่นับรวมการดีไซน์และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราเลือกใช้ รวมทั้งยังมีมาตรฐานในด้านบริการซึ่งต้องไม่แตกต่างจากโรงแรมที่ราคาห้อง ๑,๕๐๐ บาทหรือ ๑,๘๐๐ บาท เรียกได้ว่ามาพักแล้วไม่ผิดหวัง ซึ่งโรงแรมบีทู พรีเมียร์ จะเริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันนี้ไปอีก ๑ ปีเศษก็เสร็จ ตัวอาคารจะสร้างในพื้นที่ประมาณ ๓,๐๐๐ กว่าตารางเมตร ส่วนที่เหลือก็จะเป็นที่จอดรถและอื่นๆ”นายพิชัย กล่าว

            นายพิชัย กล่าวถึงการแข่งขันตลาดห้องพักและโรงแรมในโคราชว่า ทุกวันนี้ในทุกพื้นที่ไม่มีธุรกิจใดที่การแข่งขันต่ำ ล้วนมีการแข่งขันสูงทั้งนั้น ประเด็นของเราจึงอยู่ที่ เมื่อเราไปอยู่ที่ไหนก็ต้องแข่งขันได้ เราไม่ได้เช็คว่า ตลาดจะ Over Supply ไหม แต่จะเช็คว่าตลาดใหญ่เพียงพอหรือไม่ หากเราแข่งขันได้ก็ตัดสินใจลงทุนเลย และจะมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าได้มากกว่าที่คู่แข่งให้ได้ สำหรับบีทูในโคราชมีอยู่แล้ว ๑ แห่งเยื้องๆ เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา (บริเวณซอย ๓๐ กันยา) ซึ่งมีการเปิดตัวไปแล้วเกือบปี แต่เป็นแบบ Budget ธรรมดา ราคาห้องประมาณ ๕๐๐-๖๐๐ บาท ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีอีกหลายจังหวัดที่ต้องการไปลงทุน เช่น จังหวัดสุรินทร์ก็เป็นอีกเป้าหมาย แต่บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับจังหวัดนั้นๆ ด้วย อาจจะไม่ได้ทำเลที่เหมาะสม 

            นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท คลังคาซ่า จำกัด กล่าวอีกครั้งว่า นอกจากโรงแรมที่มาลงทุนในพื้นที่ New CBDของเราแล้ว ยังมีพันธมิตรอื่นที่จะเข้ามาลงทุนอีก ที่พอจะเป็นข่าวเผยแพร่ออกไปบ้างแล้วว่า เรากำลังมีการประสานงานกับโรงพยาบาล ครั้งแรกพูดคุยกับโรงพยาบาล ๑ แห่ง แต่ปัจจุบันมีโรงพยาบาลกว่า ๓ แห่งที่เข้ามาพูดคุยเพื่อลงทุนในพื้นที่โครงการของเรา แต่ยังไม่ตกลงกัน โดยจะพยายามตกลงกันให้จบเร็วที่สุด หวังว่าจะสำเร็จในปีนี้ แต่ก็ไม่น่าจะเกินไตรมาสแรกของปี ๒๕๖๑ เพราะจะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ ๒๔ เดือน (๒ ปี) ใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะเท่าที่ทราบเป็นโรงพยาบาลที่ลงทุนค่อนข้างมากประมาณ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป การก่อสร้างจึงนาน และต้องรีบสรุปให้จบให้เร็วที่สุด 

            “ขณะนี้เหลือพื้นที่ที่จะต้องพัฒนาอีกประมาณ ๘๐ ไร่ ซึ่งหากจะมีการลงทุนอะไรเพิ่มเติมจึงต้องคิดดีดี ควรจะเป็นธุรกิจแบบใดที่จะเข้ามาเติมเต็มให้กับโครงการของเรา สำหรับการตั้งเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ของโคราชนั้น หากพิจารณาแล้วปัจจุบันมีธุรกิจที่เข้ามาลงทุนค่อนข้างครบแล้ว เพราะมีทั้งโรงเรียน (แองโกลสิงคโปร์) ซึ่งจะเปิดประมาณเดือนสิงหาคม ๒๕๖๑ และล่าสุดก็จะมีโรงแรมเข้ามาเติมเต็ม มีร้านอาหารระดับพรีเมียมอยู่ในโครงการหลายร้าน แม้จะดูเหมือนครบแล้ว แต่ยังมีธุรกิจอื่นที่ต้องการให้เข้ามาเติมเต็มอีก” นายไพจิตร กล่าวในท้ายสุด 

 

 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๗๓ วันจันทร์ที่ ๑๑ - วันศุกร์ที่ ๑๕ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐


737 1365