24thApril

24thApril

24thApril

 

January 13,2018

ระวัง!!แก๊งต้มตุ๋นสุดแสบ หลอกผู้สูงอายุลุ้นรางวัล แต่ต้องใช้เงินซื้อหมดตัว

         เตือนภัย!! แก๊งต้มตุ๋นหลอกจับสลากได้รางวัลต้องซื้อ คุณตาเมืองช้างวัย ๘๒ ปี ยังไม่เว้น จ่ายไปพันกว่าบาท ได้ของรางวัล กลับมาราคาแค่หลักร้อย

         เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๒๐ น.  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสิทธิชัย นามทอง กำนันตำบลหัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์ ว่า มีแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงออกอาละวาด ในหมู่บ้านหัวงัว หมู่ที่ ๘ ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์ โดยหลอกให้เปิดสลาก ถ้าเปิดเจอของรางวัลห้ามคืนต้องซื้อเท่านั้น แถมซื้อในราคาที่เกินจริงมาก ขนาดคุณตาวัย ๘๒ ปีก็ยังไม่เว้น ถูกหลอกให้จับสลากแลกของรางวัล ได้สบู่ ๒ ก้อน และนาฬิกา ๑ เรือน แล้วบังคับให้จ่ายเป็นเงินสด ๒,๕๐๐ บาท แต่คุณตาไม่มีเงิน แม้ควักทั้งกระเป๋าจนเกลี้ยงมีแค่ ๑,๒๐๐ บาท

         ผู้สื่อข่าวรุดลงพื้นที่ตรวจสอบไปยังที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหัวงัว ได้พบกับนางวงเดือน พันธ์มณี ผู้ใหญ่บ้านหัวงัว เปิดเผยว่า ราษฎรที่ตกเป็นเหยื่อและโดนหลอกสูญเงิน คือ คุณตากันหา ชมชื่น อายุ ๘๒ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๕ บ้านหัวงัว หลังรู้ตัวว่าโดนแก๊งตุ้มตุ๋นหลอกลวง จึงให้นางสาวนวลใย ชมชื่น รีบวิ่งเข้ามาแจ้งให้ตนรู้ในฐานะผู้ใหญ่บ้านทราบ

         คุณตากันหา ชมชื่น อายุ ๘๒ ปี เปิดเผยว่า บ้านอยู่ห่างไกลจากชุมชนและหมู่บ้านพอสมควร ขณะที่นายเดช เเละเครือ ลูกเขยกำลังทำงานอยู่หลังบ้าน ตนก็นอนเล่นอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านเพียงลำพัง เมื่อเวลาประมาณ ๑๕.๒๐ น. ได้มีรถยนต์กระบะสีขาว ยี่ห้อโตโยต้า จำหมายเลขทะเบียนและหมวดจังหวัดไม่ได้ วิ่งและเลี้ยวเข้ามาในบริเวณบ้านของตน ตอนแรกนึกว่าเป็นลูกชาย แต่สักพักได้มีผู้หญิงจำนวน ๒ คน รูปร่างอวบๆ ผมยาวประบ่าและมีผู้ชายอีก ๑ คนเป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว โดยผู้หญิงเดินเข้ามาหาตน และบอกให้จับสลากฟรีได้รางวัลไม่เสียตังค์แม้แต่บาทเดียว ตนจึงจับสลากไปสองอัน ปรากฏว่าไม่ได้รางวัลอะไรเลย สักพักผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า “นี่..ตาได้นาฬิกา แต่คุณตาต้องเสียเงิน ๒,๕๐๐ บาทนะ” แล้วเดินไปบอกผู้ชายที่อยู่ในรถยนต์กระบะให้เอานาฬิกามาให้ ตนก็เถียงจับสลากไม่ได้อะไร แต่ผู้หญิงก็ยืนยันเสียงแข็งว่าตนเองได้รางวัลใหญ่เป็นนาฬิกาเรือนทอง  ส่วนลูกเขยที่อยู่หลังบ้านก็โดนผู้หญิงในแก๊งเดียวกันประกบ พูดจาลักษณะถามว่า “มีคนมาขายสบู่ไหม” กระทั่งลูกเขยเอะใจรีบเดินออกมาหาตนเอง ลูกเขยจึงพอทราบว่าตนถูกหลอกให้จับสลาก

         “หลังได้รางวัลเป็นนาฬิกาเรือนทองที่ต้องเสียเงิน ๒,๕๐๐ บาท ปรากฏว่า ลูกเขยไม่ยอมจ่ายเงินให้กับแก๊งต้มตุ๋น เพราะเห็นว่า นาฬิกาเรือนดังกล่าวมีราคาเพียง ๑๐๐ กว่าบาท กระทั่งมีปากเสียงกับแก๊งต้มตุ๋นอย่างรุนแรง จากนั้น ลูกเขยได้บอกกับตนว่า อย่าพึ่งจ่ายเงินเดี๋ยวจะบอกภรรยาซึ่งเป็นลูกสาวของตน ก่อนพากันไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ระหว่างไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเวลาไม่ถึง ๑๐ นาที ลูกเขยกลับมาบ้านพร้อมกับภรรยาและนายสมนึก พิมพ์ลา สารวัตรกำนัน ต.หัวงัว แต่ปรากฏว่า แก๊งต้มตุ๋นก็ไม่อยู่แล้ว” 

         จากการสอบถาม คุณตากันหา ชมชื่น ทราบว่า ในขณะที่คุณตารอลูกสาวไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน คุณตายอมจ่ายเงินให้แก๊งต้มตุ๋นไปเป็นเงินสดจำนวน ๑,๒๐๐ บาท สาเหตุที่ยอมจ่าย เพราะผู้ชายที่อยู่ในแก๊งพูดจาข่มขู่ และบอกว่าจะเอาเงินเท่าที่มี ทั้งกระเป๋ามีเงินแค่ ๑,๒๐๐ บาท ทั้งเหรียญ ทั้งธนบัตร โกยเกลี้ยง ก่อนพากันรีบขับรถยนต์ออกไปอย่างลอยนวล โดยมุ่งหน้าไปเส้นทาง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ทิ้งไว้เพียงสบู่ ๒ ก้อน กับนาฬิกาเรือนทอง จำนวน ๑ เรือน ที่ราคาเรือนละร้อยกว่าบาทไว้ให้ดูต่างหน้า หลังจากนี้คุณตาและครอบครัวจะเข้าแจ้งความที่ สภ.สนม ต่อไป

 

 

นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๗๙ วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ - วันจันทร์ที่ ๑๕ เดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๑


688 1344