26thApril

26thApril

26thApril

 

February 21,2018

กลุ่มบางจาก’เผยแผน ๕ ปี ใช้นวัตกรรมสีเขียวเคลื่อนธุรกิจ เน้นเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม

           บางจากฯ เผยแผนธุรกิจต่อเนื่อง ๕ ปี ของบริษัทใหญ่และบริษัทในกลุ่ม ที่มุ่งเน้นสร้างเทคโนโลยีสีเขียวผ่านนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมธุรกิจหลัก ธุรกิจโรงไฟฟ้า ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ และธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นคงด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างศักยภาพสู่การลงทุนใน EEC

           นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี ๒๕๖๑ และแผนงาน ๕ ปี ต่อเนื่องถึงปี ๒๕๖๕ ว่า บริษัท บางจากฯ และบริษัทในกลุ่ม จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ ๑.๑ แสนล้านบาท ในการขยายธุรกิจหลักและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เทคโนโลยี ดิจิทัล และนวัตกรรมด้านพลังงานที่ทันสมัยมาพัฒนา ต่อยอดธุรกิจ เตรียมพร้อมในทุกมิติ เพื่อสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจไทยในยุค ๔.๐ พร้อมกำหนดทิศทาง กลยุทธ์ในการเพิ่มขีดความสามารถ มุ่งสู่กลุ่มบริษัทนวัตกรรมสีเขียวชั้นนำในเอเชีย ที่มีบรรษัทภิบาลที่ดีและดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางแบบมีส่วนร่วมและยั่งยืน

           โดยในด้านธุรกิจโรงกลั่น มีแผนดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการกลั่น โดยให้ความสำคัญในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยเป็นอันดับสูงสุดในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต และในปีนี้บริษัท บางจากฯ มีแผนจะหยุดซ่อมบำรุง ๔๕ วันในเดือนเมษายน–มิถุนายน ๒๕๖๑ ด้านธุรกิจการตลาด จะสร้างระบบนิเวศน์สีเขียวและประสบการณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Eco System) เพิ่มความทันสมัยในทำเลยุทธศาสตร์ในรูปแบบ Greenovative Experience และจะนำระบบดิจิทัลมาใช้ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการรับบริการ นอกจากนี้ มีแผนขยายธุรกิจร้าน SPAR Supermarket รวมทั้งนำผลิตภัณฑ์ชุมชนจากเกษตรกรไทยไปจำหน่ายในร้าน SPAR ในสาขาต่างประเทศเพื่อสร้างโอกาสเข้าสู่ตลาดโลกของสินค้าชุมชน ส่วนร้านกาแฟอินทนิลจะขยายสู่ตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพสูง ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม

           ในส่วนของธุรกิจผลิตไฟฟ้า ที่บริหารโดยบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปลายเดือนกันยายน ปี ๒๕๕๙ ได้รับความสนใจและเชื่อมั่นจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ มาร์เก็ตแคปของบริษัท ณ สิ้นปี ๒๕๖๐ สูงกว่า ๔๖,๐๐๐ ล้านบาท (มากกว่า ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ณ ปัจจุบัน) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากวันแรกของการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (มาร์เก็ตแคป ๑๙,๙๐๐ ล้านบาท) และในปี ๒๕๖๐ บริษัท บีซีพีจีฯ ใช้เงินลงทุนขยายธุรกิจไปประมาณ ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นปี ๒๕๖๐ บริษัท บีซีพีจีฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามสัดส่วนถือหุ้นรวมอยู่ที่ประมาณ ๖๐๐ เมกะวัตต์

           สำหรับแผนการลงทุนของบีซีพีจีใน ๓ ปีข้างหน้า ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนราว ๓ หมื่นล้านบาท เน้นลงทุนในโครงการที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๑๕ เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และ EBITDA ไม่ต่ำกว่าปีละร้อยละ ๑๕-๒๐ ซึ่งในปี ๒๕๖๑ บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าให้ได้อีก ๒๐๐ เมกะวัตต์ จากสิ้นปี ๒๕๖๐ โดยวางแผนไว้ว่าจะมาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าในส่วนที่เป็น Retail ผ่านธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปในประเทศในรูปแบบต่างๆ จำนวน ๓๐ เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก ๑๗๐ เมกะวัตต์ จะมาจากธุรกิจรูปแบบปัจจุบันทั้งในและต่างประเทศ

           ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ จะพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีด้านชีวภาพเพื่อให้เกิดเป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าเพิ่มสูง โดยนายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด กล่าวว่า บริษัท บางจากฯ ได้มีการรวบรวมบริษัทระหว่าง บริษัท บีบีพี โฮลดิ้ง จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เคเอสแอลจีไอ จำกัด (บริษัทย่อยของบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน)) เป็นบริษัท บีบีจีไอ จำกัด ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีกำลังการผลิตรวม ๑.๗๑ ล้านลิตรต่อวัน โดยไบโอดีเซล B๑๐๐ มีกำลังการผลิตที่ ๘๑๐,๐๐๐ ลิตรต่อวัน และเอทานอล มีกำลังการผลิตที่ ๙๐๐,๐๐๐ ลิตรต่อวัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ สร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มโอกาสทางการเติบโตไปสู่ผลิตภัณฑ์ชีวภาพอื่นๆ ที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังของ ปี ๒๕๖๑ พร้อมปักธงจะขยายการลงทุนด้านธุรกิจชีวภาพในเขต EEC ภายใน ๕ ปี


 นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๘๗ วันพุธที่ ๒๑ - วันอาทิตย์ที่ ๒๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๑ 


694 1342