25thApril

25thApril

25thApril

 

April 24,2018

“มาสด้า”ทะยานความแรง ทุบสถิติยอดขายสูงสุด ดันคนไทยขึ้นแท่นบริหาร

           ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ยอดขายพุ่งสร้างสถิติใหม่ทะลุ ๕๖,๐๐๐ คัน เพิ่มขึ้น ๓๑% โดยเฉพาะรถเก๋งเล็ก Mazda2 แรงกระชากใจวัยรุ่นเกิดกระแสฟีเวอร์ไปทั่วเมือง ครองอันดับหนึ่ง ส่วน CX-5 แรงไม่แพ้กัน หลังเปิดตัวมาเพียง ๕ เดือน ขายไปแล้วถึง ๓,๙๒๙ คัน ประกาศ เดินหน้าขยายธุรกิจภายใต้ปรัชญา “MAZDA WAY” ดันคนไทยนั่งแท่นบริหารครบทุกฟังก์ชั่น เพื่อขับเคลื่อนองค์กรก้าวสู่ความแข็งแกร่ง ภายใต้การทำงานร่วมกันเป็นทีม 
           นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ตลาดรถยนต์ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐  ต้องยอมรับว่าตลาดเพิ่งเริ่มฟื้นตัว และมองเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นมา แต่เมื่อพิจารณาจากยอดขายของปีงบประมาณ ๒๕๖๐ โดยเริ่มนับตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๖๐ สิ้นสุดเดือนมีนาคม ๒๕๖๑ มาสด้ายังสามารถเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ ส่งผลให้ประสบความสำเร็จสูงสุดเป็นประวัติการณ์มีตัวเลขยอดขายสูงถึง ๕๖,๓๗๙ คัน เติบโตสูงถึง ๓๑% ซึ่งถือเป็นยอดขายสูงสุดในรอบ ๕ ปี ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า ๖.๓% (ประมาณการจากมาสด้า) สูงสุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และครองมาร์เก็ตแชร์สูงสุดเป็นอันดับที่ ๒ ของมาสด้าทั่วโลก ที่สำคัญยังถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตอันดับหนึ่งของมาสด้าทั่วโลก และส่งผลทำให้มาสด้า ประเทศไทย มียอดขายสูงเป็นอันดับที่ ๗ ของโลก รองจากประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และเยอรมนี


           โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง Mazda2 นั้นฮิตติดลมบนมียอดขายสูงกว่า ๓๕,๔๔๐ คัน เพิ่มขึ้น ๔๗% ขึ้นครองเบอร์หนึ่งในตลาดรถเก๋งเล็ก ในขณะที่รถอเนกประสงค์เอสยูวี All-New Mazda CX-5 ฮอตฮิตอย่างรวดเร็วหลังการเปิดตัวมาไม่นานมียอดขายสะสมสูงถึง ๖,๔๑๑ คัน เพิ่มขึ้น ๘๙% ตามมาด้วยรถเก๋งคอมแพคคาร์ Mazda3 ก็ร้อนแรงไม่แพ้กันมียอดขายสูงถึง ๔,๙๔๕ คัน เติบโต ๑๖% ส่วนรถปิกอัพสายพันธุ์แกร่งมาสด้า บีที-๕๐ โปร มียอดขายรวมทั้งสิ้น ๕,๗๙๘ คัน ลดลง ๒๑% และฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์มาสด้า CX-3 ที่แม้จะเจอกับคู่แข่งขันรอบด้านแต่ก็สามารถทำยอดขายได้สูงถึง ๓,๗๕๕ คัน ลดลงเล็กน้อย ๑๐% และสุดท้ายคือรถสปอร์ตเปิดประทุนหลังคาไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก เจ้าของตำนานรถสปอร์ตที่ขับสนุกที่สุดมียอดขายถึง ๓๐ คัน
           สำหรับยอดการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าประจำไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม–มีนาคม ๒๕๖๑) มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น ๑๖,๕๘๖ เติบโตเพิ่มขึ้น ๔๓% ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดถึง ๗.๐% (ประมาณการจากมาสด้า) โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่ง 
          Mazda2  มีจำนวนมากที่สุดถึง ๑๐,๓๑๓ คัน เพิ่มขึ้น ๕๕% ตามมาด้วยรถอเนกประสงค์เอสยูวี All-New Mazda CX-5 จำนวน ๒,๓๗๑ คัน เพิ่มขึ้น ๑๙๘% รถยนต์นั่ง Mazda3 จำนวน ๑,๒๙๐ คัน ลดลงเล็กน้อยเพียง ๓% รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ Mazda CX-3 จำนวน ๙๕๘ คัน ลดลงเล็กน้อยเพียง ๖% รถปิกอัพมาสด้า บีที-๕๐ โปร จำนวน ๑,๖๕๐ ลดลงเล็กน้อย ๘% และรถสปอร์ตเปิดประทุนมาสด้า MX-5 จำนวน ๔ คัน
           อย่างไรก็ตาม มาสด้ายังคงมั่นใจว่าตลาดรถยนต์รวมในปีนี้จะมียอดขายทะลุเกิน ๙ แสนคัน อันเนื่องมาจากกำลังซื้อยังมีอยู่อีกมาก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งและรถอเนกประสงค์เอสยูวี ซึ่งมาสด้าได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วจากยอดการขายรถเก๋งเล็กที่สามารถก้าวขึ้นมาครองอันดับหนึ่งในไตรมาสแรก ในขณะที่ปีนี้มาสด้ามองว่าเซ็กเมนต์ของรถอเนกประสงค์จะเป็นอีกรุ่นที่สอดแทรกเข้ามา
          วันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ที่กำลังร้อนแรงที่สุดคงหนีไม่พ้นยี่ห้อ “มาสด้า” เพราะถือเป็นปีทองของยอดขายที่โตวันโตคืน หลังจากเริ่มส่งรถยนต์รุ่นใหม่ลุยตลาดเมืองไทยภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และการออกแบบอันสง่างามภายใต้ KODO Design ประกอบกับการอัพเกรดเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ตลอดจนการปรับยุทธศาสตร์ขนานใหญ่ เดินหน้ากำจัดจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็ง ด้วยการปรับปรุงกระบวนการทำงานหลังบ้านให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว เน้นคุณภาพการบริการ กำหนดราคาอะไหล่ให้เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ ประกอบกับการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ของโชว์รูม เพิ่มศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง ส่งผลทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงคุณภาพของรถยนต์มาสด้าที่วางจำหน่ายในตลาดภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ


           ถึงแม้ว่าตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา มาสด้าจะมีเพียงการปรับโฉมในแต่ละรุ่นเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใส่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าลูกค้ากลับให้การยอมรับกับแนวทางของมาสด้าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ Mazda2 ทำเซอร์ไพรส์ก้าวขึ้นยึดบัลลังก์แชมป์ยอดขายรถยนต์นั่งขนาดเล็กได้สำเร็จอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทำให้ยิ่งมั่นใจว่า ยอดขายในปีงบประมาณนี้ทะลุเกิน ๖๐,๐๐๐ คันแน่นอน
 ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของมาสด้าเกิดความมั่นคงและแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มาสด้าได้สร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนวงการรถยนต์ ด้วยการแต่งตั้งคนไทยขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารสูงสุดในองค์กรระดับชาติ นั่นคือ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี ๒๕๕๙ ด้วยความลงตัวของการทำงานระหว่างคนไทยด้วยกันส่งผลให้มาสด้าก้าวเติบโตอย่างร้อนแรง แน่นอนว่าในวันนี้ มาสด้าได้สร้างความท้าทายใหม่ให้เกิดขึ้นด้วยการประกาศปรับทัพองค์กรอีกครั้ง โดยการดันคนไทยขึ้นมานั่งแท่นบริหารแบบยกชุดครอบคลุมทุกฟังก์ชั่นการบริหารงาน ตั้งแต่ การวางแผนองค์กร บัญชีและการเงิน การขาย การตลาด การบริการหลังการขาย ระบบขนส่งโลจิสติกส์ส์และอะไหล่ โดยได้ ๘ กุนซือ ที่คลุกคลีกับมาสด้ามายาวนานขึ้นบัญชาการในแต่ละฝ่ายภายใต้ปรัชญาการทำงานเป็นทีม นั่นคือ ONE MAZDA
          สำหรับ นายชาญชัย ตระการอุดมสุข หลังจากเริ่มเข้ามาบริหารงานกับมาสด้าในตำแหน่งประธานบริหาร มาตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นมา และยังวางผู้บริหารคนไทยขึ้นมายกชุดครอบคลุมทุกแผนก ดัน ๕ เสือแห่งมาสด้าก้าวขึ้นบริหารงานหลักขององค์กร เพื่อนำองค์กรก้าวสู่ความแข็งแกร่งภายใต้ ONE MAZDA TEAM เพื่อให้โครงสร้างการบริหารงานเป็นไปด้วยความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น  ให้สอดคล้องกับปรัชญาการบริหารงานขององค์กรมาสด้า หรือ MAZDA WAY โดยมีผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคอยสนับสนุน คือ มร.อัตสึชิ ยาซูโมโต้ เป็นรองประธานบริหาร ส่วนรองประธานบริหารอีก ๒ คน คือ มร.ฮิโรโนริ ทานากะ รองประธานฝ่ายวางแผนองค์กร และมร.ฮิโรชิ คูโก รองประธานฝ่ายบริการลูกค้าและอะไหล่ ได้กลับไปรับหน้าที่ใหม่ที่ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
         โดยรายชื่อผู้บริหารชุดใหม่ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบด้วย นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร, นายอัตสึชิ ยาซูโมโต้ รองประธานบริหารอาวุโส, นายพาสกาล เศรษฐบุตร รองประธานบริหาร ฝ่ายพัฒนาธุรกิจผู้จำหน่ายและบริหารความพึงพอใจลูกค้า กำกับดูแลงานด้านการพัฒนาธุรกิจผู้จำหน่าย การบริหารงานด้านความพึงพอใจของลูกค้า รวมทั้งสร้างสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับลูกค้า, นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ กำกับดูแลงานด้านการตลาด การวางแผนกลยุทธ์การตลาด การสื่อสารการตลาด การสื่อสารการตลาดดิจิตอล การวางแผนผลิตภัณฑ์ การกำหนดกลยุทธ์เพื่อนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาด การวางแผนกลยุทธ์ด้านงานประชาสัมพันธ์ กิจกรรมส่งเสริมการตลาด กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม และการทำงานสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ, ดร.ปณัสย์ บุญค้ำ รองประธานบริหาร ฝ่ายบริการหลังการขาย งานอะไหล่ และบริการภูมิภาค กำกับดูแลการฝ่ายบริการหลังการขายทั้งระบบ, นายสมหมาย แซ่อึ้ง รองประธานบริหาร ฝ่ายขาย กำกับดูแลงานด้านการขายทั่วประเทศ, นางสาวสุวรรณี ชุติรัตนโรจน์ รองประธานบริหาร ฝ่ายบริหารงานองค์กร กำกับดูแลงานด้านการบริหารงานองค์กร ฝ่ายบัญชี การเงิน และระบบไอที, นางสาวจีรภา เสพสวัสดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส การฝ่ายอะไหล่ และระบบขนส่ง กำกับดูแลด้านระบบขนส่งทั้งรถยนต์ใหม่ การขนส่งอะไหล่ ในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน และมร.เคนจิ ซาโต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวางแผนองค์กร กำกับดูแลงานด้านการวางแผนองค์กร
          สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของมาสด้าในวันนี้ ได้ออกประกาศนโยบายการบริหารองค์กรของมาสด้าภายใต้ปรัชญา Mazda Way “common philosophy principle for good work which all employees in Mazda group must have” ประกอบด้วย ๑. INTEGRITY: We keep acting with integrity toward our customers, society and our own work. (ซื่อสัตย์จริงใจ: รักษาความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า สังคม และงานที่ทำ) ๒. BASICS/ FLAWLESS EXECUTION: We devote ourselves to the basics, and make steady efforts in a step by step fashion. (เรียบง่ายไม่บกพร่อง: ปฏิบัติตนอย่างเรียบง่ายและดำเนินงานตามขั้นตอน) ๓. CONTINUOUS KAIZEN: We continue to improve with wisdom and ingenuity. (พัฒนาต่อเนื่อง: พัฒนาตนเองอยู่เสมอ) ๔. CHALLENGER SPIRIT: We set a high goal, and keep challenging to achieve it. (พลังใจผู้กล้า: ตั้งเป้าหมายที่ท้าทายแล้วตั้งใจให้ประสบผลสำเร็จ) ๕. SELF INITIATIVE: We think and act with “Self-Initiative” (ริเริ่มสิ่งใหม่: คิดริเริ่มและลงมือทำสิ่งใหม่ด้วยตนเอง) ๖. TOMOIKU: We learn and teach each other for our mutual growth and success (แบ่งปันเรียนรู้: เรียนรู้และเป็นที่ปรึกษาให้กันละกัน เพื่อก้าวที่เติบโตและสำเร็จไปด้วยกัน) และ ๗. ONE MAZDA : We think and act with the view of “One Mazda” (มาสด้าหนึ่งเดียว : คิดและลงมือทำเพื่อภาพใหญ่ขององค์กร และความเป็นหนึ่งเดียวกันของมาสด้า)
           นอกจากนี้มาสด้ายังได้วางคอนเซ็ปต์สำหรับการให้บริการหลังการขาย ด้วยปรัชญาการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ครอบครองรถมาสด้า ภายใต้แนวคิด “Feel the Passion” 6 principles of customer care ได้แก่ Devotion : มุ่งมั่นดูแลด้วยใจ, Competency : มีความรู้ความสามารถ, Empowerment : กล้าตัดสินใจทุกระดับ, Effectiveness : มีประสิทธิผล, Efficiency : มีประสิทธิภาพ และ Fairness : มีความเป็นธรรม


นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๔๙๘ วันเสาร์ที่  ๒๑  -  วันพุธที่  ๒๕  เดือนเมษายน  พุทธศักราช  ๒๕๖๑


724 1344