25thApril

25thApril

25thApril

 

May 19,2018

รุกล้ำลำตะคองนานปี จังหวัดจับมือทหารลุย นอภ.ให้เวลาอีก 7 วัน

            ผู้ว่าฯ  ร่วมกับ ผบ.มทบ.21 สั่งการลงตรวจแก่งวังเณรซึ่งมีปัญหาเรื้อรังนานปี  กรณีผู้ขายสุราอาหารยังคงรุกล้ำลำพื้นที่ลำน้ำลำตะคอง โดยตั้งโต๊ะ ร่ม เสื่อ ยื่นเข้าไปในลำน้ำ ฝ่าฝืน MOU สั่งป้องกันจังหวัด ร่วม มทบ.21 ลงดาบอย่างเด็ดขาด ป้องการปัญหายืดเยื้อต่อ ด้านนายอำเภอสูงเนินยื้อเวลาต่อให้อีก 7 วัน หลังจากนั้น หากฝ่าฝืนดำเนินคดีแน่นอน ฝ่าย อบต.ตกที่นั่งลำบากให้สร้างโรงแรมโดยไม่ขออนุญาตหลายปีแล้ว

           เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2561 เวลา 14.00 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ พล.ต.ณัฐชนก ศิริทีปตานนท์ ผบ.มทบ.21 ได้สั่งการให้ นายอนุวรรตน์ จันทรสุขเกษม ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ พันโทปราโมทย์ กฤษเกล้า รองหัวหน้ากองข่าว มณฑลทหารบกที่ 21 และนายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน นายอำเภอสูงเนิน พร้อมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่บริเวณแก่งวังเณร หมู่ 2 ตำบลมะเกลือเก่า อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา พบว่า ยังมีการรุกล้ำลำน้ำลำตะคองของผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณดังกล่าวยิ่งกว่าเดิม โดยมีการวาง ร่ม และโต๊ะสำหรับนั่งรับประทานอาหาร ของร้านขายอาหารต่างๆ ทั้งที่ก่อนหน้าที่ได้มีการทำข้อตกลง MOU เรื่องการใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ และจัดระเบียบพื้นที่แก่งวังเณร ระหว่าง อำเภอสูงเนิน องค์การบริหารส่วนตำบลมะเกลือเก่า กับผู้ประกอบการร้านค้าบริเวณแก่งวังเณร ตามมติที่ประชุม ไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 ทั้งนี้ หลังจากคณะทำงานได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณดังกล่าว ได้มีการเรียกผู้ประกอบการทุกรายเข้าร่วมรับฟัง และตกลงร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการยื่นคำขาดครั้งสุดท้ายสำหรับกรณีรุกล้ำลำน้ำสาธารณะของผู้ประกอบการดังกล่าวที่ยืดเยื้อมากว่า 1 ปี

           นายอนุวรรตน์ จันทรสุขเกษม ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้ทางป้องกันจังหวัด ร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) และทางอำเภอสูงเนิน รวมทั้ง สภ.สูงเนิน ได้ร่วมกันตรวจสอบและทำความเข้าใจกับสถานผู้ประกอบการที่บุกรุกพื้นที่สาธารณะน้ำตกวังเณร ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อยาวนานกว่า 1 ปี โดยก่อนหน้านี้เราได้มีการตกลงทำ MOU กันไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนข้อตกลงดังกล่าวในบางส่วน ทั้งนี้ ในส่วนของสิ่งก่อสร้างต่างๆ มีการรื้อออกไปแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ คือมีการเอาโต๊ะไปนั่ง รวมทั้งนำเสื่อลงไปปูในลำน้ำ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วใน MOU นั้นมีข้อห้ามไว้ แต่เราอนุโลมให้ประชาชนสามารถนำเสื่อมาเองได้ ในวันนี้ได้หารือกับนายอำเภอและผู้แทน มทบ.21 แล้ว สรุปว่า ในวันจันทร์ที่ 21 พ.ค.นี้ ทางอบต.จะเอาแนวเขตชั่วคราวมาปักเป็นแนวเขตไว้ก่อน เพื่อให้ทราบว่าแนวเขตของสถานประกอบการอยู่ในตำแหน่งใด หลังจากปักแนวเขตแล้ว สิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่รุกล้ำลำน้ำสาธารณะจะไม่สามารถทำได้ ต้องให้มีการรื้อถอนออก โดยเฉพาะร่ม ส่วนโต๊ะนั่งต่างๆ ก็ต้องถอยออกให้ไปอยู่หลังแนวเขต เพื่อป้องกันปัญหาเรื้อรังต่อไปอีก”

           “ นอกจากนี้ทาง อบต.ยังได้ตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยในที่ประชุมได้ตกลงกันว่า ให้ อบต.ดำเนินการจัด เจ้าหน้าที่มาประจำเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้นำชุมชนด้วย ในขณะเดียวกันก็จะจัดให้มีเครื่องกระจายเสียง เพื่อประชาสัมพันธ์ไม่ให้พี่น้องประชาชน นำอาหารลงไปรับประทานในลำน้ำ เพื่อเป็นการป้องกันขยะ หรือเศษแก้วต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดมลพิษ โดยจะมีการอนุญาตให้ลงเล่นน้ำได้เพียงอย่างเดียว นี่คือข้อตกลงกันในวันนี้ ทั้งนี้ทางนายอำเภอได้ให้เวลากับผู้ประกอบการเป็นเวลา 7 วัน เพื่อดำเนินการการให้เป็นไปตาม MOU หรือภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ถ้าหากพบเห็นว่าผู้ประกอบการรายใดยังดื้อดึงรุกล้ำ เอาโต๊ะ เก้าอี้ เสื่อ หรือ ร่มมากาง แสดงว่ามีเจตนาที่จะบุกรุก โดยเราจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ ยังรวมในส่วนของการต่อเติมสร้างตลิ่งของร้าน ก็ต้องมีการรื้อถอนออกด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้ประการทุกรายก็ได้รับทราบแล้วยอมรับว่า ได้มีการละเมิดลำน้ำจริง เนื่องจากระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน เห็นว่าอีกฝ่ายทำได้ตนก็ทำได้ จึงก่อให้เกิดปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนานมากว่า 1 ปี”ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา กล่าว

            นายอนุวรรตน์ กล่าวสรุปว่า ตนขอความร่วมมือทางสถานผู้ประกอบการร้านค้าให้ดำเนินการตาม MOU ถ้าท่านทำตามและไม่ละเมิดกฎหมาย ก็สามารถประกอบการได้อย่างมีปกติสุข เพราะทางราชการก็ไม่มีจุดประสงค์ใดที่จะรังแกพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว และที่สำคัญที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทางราชการหรือทางผู้ว่าราชการจังหวัด ก็อยากให้ส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อจะได้มีเงินรายได้เข้ามาหมุนเวียนในจังหวัดเรา”

            อนึ่ง ว่าที่ ร.ต.ชวลิต ปรีดาสา ปลัด อบต.สูงเนินซึ่งดูแลพื้นที่เจ้าปัญหานี้ ได้กล่าวยอมรับต่อที่ประชุมว่า โรงแรมหรือห้องพักชั่วคราวหลายแห่งในบริเวณนี้ ไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างและประกอบการ ทำให้ขาดภาษีรายได้หลายปีแล้ว

            โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2560 เวลาประมาณ 17.00 น. ที่ สภ.สูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา นายสุนทร จันทร์รังสี อายุ 70 ปี สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 และประธานที่ปรึกษาสภาวิชาชีพสื่อมวลชนภูมิภาคแห่งชาติ ซึ่งก่อสร้างบ้านพักอาศัยมาเกือบ 20 ปีแล้ว และแจ้งต่อนายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน นายอำเภอสูงเนิน ให้ดำเนินการแก้ไขหลายครั้ง เพื่อรักษาแหล่งน้ำที่ใช้ทำประปา และเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ไม่มีการแก้ไข จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สูงเนิน เพื่อร้องทุกข์ 1.กรณีมีคนบุกรุกเข้าไปบริเวณบ้าน แล้วทำการรังวัดที่ดิน โดยไม่แจ้งให้ทราบและไม่มีหน้าที่ในการดำเนินการดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเป็นคนของนายณัชวันก์ อัลภาชน์ เตชะเสน นายอำเภอสูงเนิน โดยได้มอบภาพถ่ายให้พนักงานสอบสวนจำนวน 1 แผ่น 2.กรณีละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของนายอำเภอสูงเนิน คือปล่อยให้ผู้ประกอบการร้านอาหารบุกรุกที่ดินสาธารณะซึ่งเป็นแหล่งน้ำบริโภคบริเวณน้ำตกวังเณร เป็นเวลาหลายปีแล้ว ซึ่งเมื่อร้องเรียนถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม นายณัชวันก์ ก็ประชุมผู้ประกอบการ และกำหนดจะให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำสาธารณะให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 25 มิ.ย. 2560 โดยเด็ดขาด แต่ถึงกำหนดกลับได้ให้ขยายเวลาได้อีก 5 วัน ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2560 มิฉะนั้นจะดำเนินคดี แต่ถึงวันที่ 5 ก.ค. 2560 ปรากฏว่ายังไม่มีการรื้อถอนเลย 3.กรณีนายอำเภอสูงเนิน ไม่ดำเนินการกับร้านอาหารที่มีห้องพักและเปิดให้เช่าค้างคืนและชั่วคราวที่มีการเปิดบริการมาแล้วกว่าสามปี และขณะนี้กำลังมีการก่อสร้างเพิ่มเติม โดยนายสุนทรได้ทำการร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายอำเภอสูงเนิน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ซึ่งที่ผ่านมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ก็ลงพื้นที่ไปตรวจถึง 2 ครั้ง และมีคำสั่งให้นายอำเภอแก้ไข แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น


(ภาพจากแฟ้ม) นายวิเชียร จันทรโณทัย ลงตรวจสอบพื้นที่เมื่อ15พย2560


ตั้งโต๊ะอาหารนอกแนวเขตที่กำหนด ทำให้ลำน้ำสกปรก


ลงจากตลิ่ง ตั้งโต๊ะกลางแก่ง


ละเมิดข้อตกลงรุกล้ำลำน้ำชัดเจน


696 1342