สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน, ตำรวจ, ทหาร และฝ่ายปกครองบุกตรวจร้านจำหน่ายอาหารเสริมในเครือเมจิกสกิน พบนำไปเปลี่ยนชื่อใหม่ เลขที่ อย.ไม่ตรงกับสินค้า แล้วนำกลับมาขาย รวม ๓๕ รายการ คิดเป็นมูลค่าเสียหายกว่า ๕๐๐,๐๐ บาท ตั้ง ๙ ข้อหาหนักเอาผิดเจ้าของร้านทุกราย

            เมื่อวันที่ ๗ มิ.ย.๒๕๖๑ ที่ศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) สภ.เมืองขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรหมณัฐเขต ฮามอำไพ ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และ นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอาง ที่ลักลอบจำหน่ายอย่างผิดกฎหมาย ภายหลังจากที่กำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน, ตำรวจ, ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้บุกเข้าทำการตรวจค้นร้ายจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชื่อดัง รวมทั้งหมด ๘ แห่ง โดยสามารถจับกุมสินค้าผิดกฎหมายรวมสินค้า ๓๕ รายการ มูลค่ากว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท

            นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การเข้าทำการตรวจค้นจนนำไปสู่การจับกุมสินค้าผิดกฎหมายครั้งนี้พบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือของบริษัทสยามเฮลท์ และเมจิกสกิน ซึ่ง อย.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการให้นำสินค้าดังกล่าวส่งคืน อย. และห้ามนำออกจำหน่ายอีก แต่ปรากฏว่าทางผู้ประกอบการที่ขอนแก่นได้นำสินค้าดังกล่าวไปทำการเปลี่ยนชื่อใหม่ และใช้เลขที่ อย.ปลอม ทั้งยังคงนำกลับมาจำหน่ายให้ลูกค้าอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

            " จากการตรวจค้นดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังคงพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการแสดงสลากไม่ถูกต้อง พบการจำหน่ายอาหาร และเครื่องสำอางปลอม พบการจำหน่ายเครื่องสำอางที่ใช้สลากซึ่งทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญ และพบการขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ซึ่งมีโทษทั้งจำคุก ทั้งปรับ หรือความผิดบางอย่างมีทั้งโทษจำคุกและปรับ"

            ขณะที่ นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา สาธารณสุขได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องสำอาง และอาหารเสริมทุกราย เพื่อแจ้งถึงการที่ อย.ได้ประกาศเก็บคืนสินค้าเมจิกสกิน และห้ามนำออกไปจำหน่ายอีก โดยหากผู้ประกอบการรายใดมีสินค้าดังกล่าวอยู่ก็ขอให้ส่งคืน อย. โดยที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเป็นอย่างดี เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอางและร้านที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทั้งจังหวัดแล้ว ๓ ครั้ง ปรากฏว่าไม่พบสินค้าในเครือเมจิกสกิน แต่อย่างใด แต่การออกตรวจครั้งนี้กลับพบว่ามีผู้ประกอบการหลายรายนำสินค้าตัวเดียวกันที่อยู่ในเครือเมจิกสกิน แต่นำไปเปลี่ยนชื่อใหม่ และใช้เลขที่ อย.สินค้าอย่างอื่นแทน ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อยอาจจะรู้ไม่เท่าทันหรืออย่างไรก็แล้วแต่จึงได้รับเอาสินค้าดังกล่าวมาจำหน่ายต่อก็ถือว่าเป็นความผิดเช่นกัน

            อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดสินค้ารวม ๓๕ รายการ จากร้านค้าทั้ง ๘ แห่งที่ตรวจพบ ซึ่งส่วนใหญ่เปิดจำหน่ายอยู่ที่ตลาดค้าส่งประตูน้ำและภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบรวมทั้งเอาผิดเจ้าของร้าน ใน ๙ ข้อหาหนัก ประกอบด้วย จำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาท, จำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, จำหน่ายเครื่องสำอางที่ถูกเพิกถอนการจดแจ้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน ๖ เดือน และปรับไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท, จำหน่ายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, จำหน่ายเครื่องสำอางปลอม ซึ่งเป็นเครื่องสำอางที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิตหรือแหล่งผลิตที่มิใช่ความจริง มีโทษจำคุก ๓ เดือนหรือปรับ ๓๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, จำหน่ายเครื่องสำอางที่ใช้ฉลากซึ่งทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง มีโทษจำคุก ๓ เดือน หรือปรับ ๓๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท, ขายยาแผนโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท และขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยามีโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของร้านให้ได้รับทราบทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป