เกิดแล้วนกกระเรียนพันธุ์ไทยคู่แรกในปี ๒๕๖๑ ความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยของสวนสัตว์นครราชสีมา มูลนิธินกกระเรียนสากล สหรัฐอเมริกา ยอมรับให้เป็นศูนย์เพาะเลี้ยงนกกระเรียนพันธุ์ไทยของโลก

         เมื่อเวลา ๑๓.๔๕ น. วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๑ ที่คอกเลี้ยงนกกระเรียน สวนสัตว์นครราชสีมา นายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายบำรุงสัตว์ เปิดตัวลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทยคู่แรกของปี ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทย โดยใช้วิธีธรรมชาติและผสมเทียม

         นายเทวินทร์ รัตนะวงศะวัต เปิดเผยว่า “สวนสัตว์นครราชสีมาได้ลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทยคู่แรกในปี ๒๕๖๑ โดยเมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑ นกกระเรียนพันธ์ุไทยได้ฟักไข่มา ๒ ฟอง และได้ทำการกกไข่เป็นเวลา ๓๐ วัน และฟักออกมาเป็นตัว เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน จำนวน ๑ ตัว และเหลืออีก ๑ ฟองที่ยังไม่ฟัก ซึ่งขณะนี้นกกระเรียนพันธุ์ไทยที่อยู่ในสวนสัตว์นครราชสีมา มีจำนวน ๙๐ ตัว เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ๒๒ คู่ และกำลังเทียบคู่ ๔๖ ตัว ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของสวนสัตว์นครราชสีมา ที่ประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทย โดยทำการเพาะขยายพันธุ์ทั้งวิธีธรรมชาติและผสมเทียม จากความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์ ทำให้ได้รับการยอมรับจากมูลนิธินกกระเรียนสากล (International Crane Foundation) รัฐวิสคอนซิล สหรัฐอเมริกา ให้เป็นศูนย์เพาะเลี้ยงนกกระเรียนพันธุ์ไทยของโลก”

         “สวนสัตว์นครราชสีมาได้รับบริจาคนกกระเรียนคู่แรก จากประชาชนบริเวณแถบชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๒  และได้ทำการเพาะขยายพันธุ์ทั้งวิธีธรรมชาติและผสมเทียม ปัจจุบันสวนสัตว์นครราชสีมามีนกกระเรียนพันธุ์ไทย มากกว่า ๑๓๐ ตัว จากการที่มีนกกระเรียนพันธุ์ไทยจำนวนมาก สวนสัตว์นครราชสีมาจึงได้ดำเนินโครงการปล่อยนกกระเรียนไทยคืนสู่ธรรมชาติ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในการร่วมสำรวจและคัดเลือกพื้นที่ชุ่มน้ำที่เหมาะสมมากที่สุด เพื่อทำการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทย คือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้นำนกกระเรียนพันธุ์ไทย ไปทดลองเพาะเลี้ยง ณ บ้านห้วยแสงเหนือ ต.สะแกโพรง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔- ๒๕๖๑ มีการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยไปแล้ว ๘๙ ตัว ซึ่งนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่นำไปปล่อยจะมีการติดสัญลักษณ์ พร้อมระบบติดตามตัวเพื่อเตรียมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยสังเกตและบันทึกพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้สวนสัตว์นครราชสีมาดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในการเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยโดยวิธีธรรมชาติและผสมเทียม ซึ่งในปี ๒๕๖๑ สวนสัตว์นคร ราชสีมาได้ดำเนินการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติ ๑๒ ตัว และมีนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่ปรับสภาพเพื่อเตรียมปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ที่ จ.บุรีรัมย์ ๙ ตัว และที่สวนสัตว์นครราชสีมา ๙ ตัว” ผอ.สวนสัตว์นครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติม

         ทั้งนี้ นกกระเรียนพันธุ์ไทยเป็นนกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ทรงโปรดเป็นอย่างยิ่ง และมีพระราชกระแสรับสั่งให้สวนสัตว์นครราชสีมาเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยทรงเลี้ยงในพระราชตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ซึ่งมีการเพาะเลี้ยงและอยู่ในความดูแลของสวนสัตว์นครราชสีมา นกกระเรียนพันธุ์ไทยเป็นนกที่มีความสง่างาม รักเดียวใจเดียว มีความสำคัญ เป็น ๑ ใน ๑๕ ชนิด สัตว์ป่าสงวนของไทย และสูญพันธุ์จากธรรมชาติของประเทศ ไทยไปแล้ว

         นอกจากนี้ สวนสัตว์นครราชสีมาได้จัดทำโครงการอบรมเยาวชนกับการอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทย เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสำนึกตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมอนุรักษ์สัตว์ป่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนำไปถ่ายทอดให้กับผู้ที่อาศัยในหมู่บ้าน ชุมชน ในเขตพื้นที่ใกล้เคียงท้องถิ่นของตน เพื่อร่วมอนุรักษ์หวงแหนและรักษาสมดุลให้คงอยู่ในธรรมชาติ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ แล้วให้นกกระเรียนพันธุ์ไทยกลับคืนสู่สมดุลธรรมชาติในประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๕๐๙ วันเสาร์ที่ ๑๖ - วันพุธที่ ๒๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑