ลงตรวจครั้งนี้ไร้เงา ‘นอภ.โน่’ แต่ยังพบรุกล้ำลำตะคอง ละเมิดข้อตกลงประปราย ลูกค้าให้ความเห็น สนับสนุนจัดระเบียบ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่เผลอก็ทำอีก ด้านป้องกันจังหวัดย้ำให้ร้านค้ารักษาความสะอาด ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเปิดให้บริการ ๑๖ มิถุนายนนี้ ฝ่ายคนสวนสุนทรหวั่นถูกลั่นไก รุดเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน หลังถูก ‘บู๊’ ขู่เอาชีวิตต่อหน้า ‘โน่’ และคณะ

     จากกรณีเมื่อวันที่ ๑๘ และวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยคำสั่งของนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับพล.ต.ณัฐชนก ศิริทีปตานนท์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๑ ค่ายสุรนารี ได้สั่งการให้นายอนุวรรตน์ จันทรสุขเกษม ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่แก้ปัญหาการบุกรุกลำตะคองบริเวณวังเณร ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ซึ่งเรื้อรังมาหลายปี โดยประสานกับนายณัชวันก์ (โน่) อัลภาชน์ เตชะเสน นายอำเภอสูงเนิน พร้อมทั้ง นายวินัย นิลสูงเนิน รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มะเกลือเก่า ว่าที่ ร.ต.ชวลิต ปรีดาสา ปลัดอบต.มะเกลือเก่า และเจ้าพนักงานตรวจท่า สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ ๔ เพื่อตรวจสอบบริเวณแก่งวังเณร เนื่องจากผู้ค้าสุราอาหารที่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลง (MOU) เรื่องการใช้พื้นที่สาธารณ ประโยชน์และจัดระเบียบพื้นที่แก่งวังเณร ตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ซึ่งนายวิเชียรได้ลงพื้นที่ด้วยตนเอง แต่ก็ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ทั้งนี้พบว่าร้านอาหารส่วนใหญ่ได้นำสิ่งของที่อยู่ภายในแนวเขตออกไปแล้ว แต่ก็พบว่ายังมีร้านอาหารของภรรยานายบู๊ที่ยังคงฝ่าฝืน มีสิ่งปลูกสร้างเป็นบันไดปูน รวมถึงการวางเต็นท์ขายของที่ล้ำเข้ามาในแนวเขต ซึ่งนายอำเภอโน่กำชับอีกครั้งว่าให้เวลา ๗ วัน ในการรื้อถอน

     เมื่อครบกำหนด ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ นายอนุวรรตน์ จันทรสุขเกษม ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา ร่วมด้วย นายณัชวันก์ (โน่) อัลภาชน์ เตชะเสน นายอำเภอสูงเนิน พร้อมทั้งรองนายกอบต.มะเกลือเก่า ปลัดอบต. ผู้ใหญ่บ้าน และคณะทำงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่บริเวณแก่งวังเณรอีกครั้ง พบว่าร้านค้าที่ปลูกสร้างบันไดปูน วางเต็นท์ขายของที่ล้ำเข้ามาในแนวเขตได้ทุทำลายและเคลื่อนย้ายออกแล้ว แต่ยังมีโต๊ะเก้าอี้อีก ๒ ชุด ที่เป็นของร้านนายบู๊เจ้าเดิม และฝั่งตรงข้ามยังมีร้านอาหารอีก ๑ ราย ยังคงวางโต๊ะและเรือนนั่งล้ำเข้ามาในแนวเขต ทางป้องกันจังหวัดนครราชสีมาจึงสั่งการเคลื่อนย้ายให้อยู่หลังแนวเขต โดยเจ้าของร้านอ้างว่า ไม่ทราบว่ารุกล้ำ เพราะยังไม่มีการปักแนวเขต เนื่องจากก่อนนี้เจ้าหน้าที่เพิ่งมาตอกแนวเขตเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคมที่ผ่านมา

     ต่อมาเมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ มีการลงพื้นที่สำรวจแก่งวังเณรของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีป้องกันจังหวัดนครราช สีมา นายอำเภอสูงเนิน และคณะทำงานเดิม พบว่า เจ้าของร้านอาหารได้มีการรื้อถอน เคลื่อนย้ายวัสดุที่รุกล้ำลำน้ำออกจากแนวเขตเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันนายอำเภอโน่ได้พาคณะฯ มาตรวจที่รั้วบ้านนายสุนทร จันทร์รังสี และกล่าวหาว่านายสุนทรรุกล้ำที่ดิน ๕๐ ซม. ระหว่างการลงพื้นที่ คนสวนของนายสุนทรซึ่งอยู่ภายในบ้านได้ยืนถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน สร้างความโกรธแค้นให้กับนายบู๊ที่ติดตามมาด้วยเป็นอย่างมาก จึงได้กล่าวข่มขู่เอาชีวิตคนสวนของนายสุนทรต่อหน้าเจ้าหน้าที่รัฐบ้านเมืองหลายฝ่าย โดยไม่มีการเข้าห้ามปรามแต่อย่างใด สร้างความหวาดกลัวต่อครอบครัวของนายสาธิต 

     ล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๑๔.๒๐ น. นายอนุวรรตน์ จันทรสุขเกษม ป้องกันจังหวัดฯ พร้อมกับคณะทำงาน ประกอบด้วย ปลัดอำเภอสูงเนิน ว่าที่ร.ต.ชวลิต ปรีดาสา ปลัดอบต.มะเกลือเก่า และนายกิตติพงษ์ ภิญโญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๒ ตำบลมะเกลือเก่า ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยเช่นเคย โดยไม่ปรากฏตัวนายอำเภอโน่ 

     นายอนุวรรตน์ เปิดเผยว่า “วันนี้ได้รับความร่วมมือในระดับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ โดยได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาสัมพันธ์เรื่องความสะอาด เพราะร้านอาหารไม่รักษาความสะอาด อาทิ ถุงพลาสติก ขวดน้ำอัดลม ปล่อยให้ลงไปในลำธารสาธารณะจะส่งผลต่อบุคคลที่อยู่ปลายน้ำ จึงให้ประชาสัมพันธ์ไปยังร้านค้าให้รักษาความสะอาดด้วย ส่วนทางด้านศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ติดตั้งไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ตามข้อตกลงคือต้องจัดเจ้าหน้าที่มาอยู่ประจำเพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย หรือให้คำปรึกษา คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว ส่วนในวันธรรมดาก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน กำนันตำบลมะเกลือเก่าที่ต้องจัดเจ้าหน้าที่มาอยู่วันละ ๑ นาย ขณะนี้ได้ประสานไปทางกำนันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็รับทราบและพร้อมปฏิบัติตาม ด้านการรุกล้ำแนวเขต ทางร้านค้าก็ให้ความร่วมมือ ในวันนี้ไม่พบผู้รุกล้ำแนวเขตเรียบร้อยดี”

     นายอนุวรรตน์ กล่าวอีกว่า “อยากจะฝากไปยังร้านค้าด้วยว่า ความจริงแล้วทางจังหวัดฯ ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวและการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องคืนธรรมชาติสู่สังคมด้วย ในเรื่องของความสะอาด เพราะร้านค้าก็ได้ประโยชน์จากพื้นที่สาธารณะวังเณร อยากให้ทางร้านค้าช่วยกันประชาสัมพันธ์เวลานักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว นำอาหารเข้ามาก็ขอความร่วมมือเรื่องของขยะด้วย เท่าที่ตรวจดูก็จะมีบางร้านมีถุงดำเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวใส่ขยะ ต้องขอชมเชยที่มีส่วนร่วม ส่วนการลงพื้นที่ในครั้งต่อไปคงให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลมะเกลือเก่าลงมาตรวจสอบและส่งรายงานให้ทราบ”

     ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพื้นที่ของ ‘โคราชคนอีสาน’ ร้านของนายบู๊ยังฝ่าฝืนข้อตกลง MOU ในข้อ ๔.๓ โดยมีการนำแผ่นคอนกรีตเข้ามาฝังในพื้นที่ห้าม ๓ จุด รวมทั้งการวางถังปูนสำหรับปักร่มไว้เป็นระยะ (ตามภาพหน้า ๑) ทั้งที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวมานั่งแต่อย่างใด

     ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินตรวจพื้นที่อยู่นั้น มีกลุ่มราชการวัยเกษียณมาจัดเลี้ยงสังสรรค์กันในบริเวณแก่งวังเณร ได้กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าอยู่ในขณะนั้น หนึ่งในนั้นเปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “ผมได้ติดตามข่าววังเณรอยู่ เพราะผมก็เป็นคนสูงเนิน มีความเห็นด้วย และพร้อมให้การสนับสนุน ขอให้ช่วยดูแลแบบนี้ และอยากให้มีการจัดระเบียบแบบนี้ไปทุกพื้นที่ที่มีการบุกรุกสถานที่สาธารณะ จัดระเบียบแบบนี้ถูกแล้ว แต่อย่าเผลอ ถ้าเผลอเป็นไม่ได้ เพราะมีร้านค้าบางรายไม่เคารพกฎกติกาเท่าไหร่ ช่วงเจ้าหน้าที่มาลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยก็เรียบร้อยดี แต่เมื่อไหร่ที่เจ้าหน้าที่เผลอ ก็ทำเช่นเดิม ขอบคุณหน่วยงานราชการที่จัดระเบียบได้ดี”

     จากนั้น เวลา ๑๖.๐๐ น. วันเดียวกัน นายสาธิต ม้อยจังหาร อายุ ๓๑ ปี คนสวนนายสุนทร เข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันต่อ ร.ต.อ.ธงชัย กล้าหาญ ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรอำเภอสูงเนินว่า เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๑๔.๓๐ น. มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ นำโดยนายณัชวันก์ (โน่) อัลภาชน์ เตชะเสน นายอำเภอสูงเนิน และนายอนุวรรตน์ จันทรสุขเกษม ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา มาตรวจที่ดินบริเวณน้ำตกวังเณร และนายสาธิต ซึ่งเป็นผู้ดูแลที่ดินของนายจ้าง ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิป เพื่อจะได้นำไว้รายงานให้นายสุนทร จันทร์รังสีทราบ ในขณะที่กำลังถ่ายคลิป นายบู๊ วังเณร ซึ่งเช่าที่ดินติดกันและเดินตามหลังเจ้าหน้าที่ เข้ามาหานายสาธิตและพูดว่า “หยุดถ่ายได้แล้ว ถ้ามึงไม่หยุดกูจะฆ่ามึง จะยิงหัวมึง” และพูดว่า “เย็นนี้มึงนอนไม่ได้หรอก ยังไงมึงก็อยู่นี้ไม่ได้” โดยไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดห้ามปราม จึงมาแจ้งไว้เป็นหลักฐานก่อน และหากพบว่ามีการกระทำผิดในกรณีดังกล่าวจะมาแจ้งความดำเนินคดี ต่อไป

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๕๐๙ วันเสาร์ที่ ๑๖ - วันพุธที่ ๒๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑