ตั้งกลุ่มจิตอาสาทำเต้านมเทียมจากไหมพรมแจกฟรี ผู้หญิงที่ป่วยมะเร็งเต้านม และต้องตัดเต้านมทิ้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ดำเนินชีวิตได้เหมือนปกติผู้สนใจขอรับได้ฟรี

        ที่อาคารบำบัดโรงพยาบาลมะเร็ง จังหวัดอุบลราชธานี ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี นายแพทย์พงศธร ศุภอรรถกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี รับมอบเต้านมเทียมทำจากใยสังเคราะห์ทอด้วยไหมพรมจากนางสาวฉัตรธิดา บุญบันเทิง อายุ ๓๗ ปี เจ้าของร้านไม้วิเศษจำหน่ายอุปกรณ์ถักไหมพรมและรับสอนไหมพรม ตั้งอยู่ตึกพหลโยธินเพลส แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ซึ่งนำเต้านมเทียมจำนวน ๑๗๐ คู่ มอบให้กับโรงพยาบาลส่งต่อให้แก่ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม และแพทย์ได้ทำการตัดเต้านมทิ้ง เพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยไว้ แต่หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะขาดความมั่นใจในตัวเอง เนื่องจากขาดอวัยวะสำคัญของร่างกายไป ผู้ป่วยบางรายที่มีทุนทรัพย์ จะซื้อเต้านมเทียมทำจาก ซิลิโคนมาใส่ แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่ไม่มีทุนทรัพย์ เนื่องจากหมดไปจากการรักษาตัวจากโรคดังกล่าว ทำให้การดำเนินชีวิตไม่มีความสุข

        นายแพทย์พงศธร ศุภอรรถกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี กล่าวถึงอัตราการป่วยของผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมในภาคอีสานอยู่ในอันดับ ๓ ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง รองจากโรคมะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งตับ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม หากพบระยะแรกของอาการ สามารถให้การรักษา โดยไม่ต้องตัดเต้านมทิ้ง แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่เมื่อมาพบแพทย์ มะเร็งเริ่มเป็นก้อนโตแล้ว จำเป็นต้องรักษาด้วยการตัดเต้านมออก ซึ่งนมเป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง เมื่อถูกตัดออกก็จะรู้สึกไม่มั่นใจ  เต้านมเทียมที่นางสาวฉัตรธิดาและจิตอาสาช่วยกันทำแล้วนำมาบริจาคให้วันนี้ สามารถช่วยทำให้ความรู้สึกทางด้านจิตใจของผู้ป่วยที่ถูกตัดเต้านมดีขึ้น กล้าใช้ชีวิตในสังคม เพราะเต้านมจากไหมพรม จะไม่ทำให้รู้ว่าเป็นผู้ป่วยที่ถูกตัดเต้านมมาแล้ว

        นางสาวฉัตรธิดา แม่ค้าน้ำใจงามรายนี้ เล่าว่า ปกติเปิดร้านจำหน่ายไหมพรมและอุปกรณ์ใช้ถักไหมพรม ที่ผ่านมาก็ถักหมวกไหมพรมบริจาคให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ทำคีโมต่อต้านมะเร็ง จนทำให้ผมร่วงนำไปสวมใส่ฟรีๆ แต่มาวันหนึ่ง มีผู้ป่วยมะเร็งและถูกตัดเต้านมมาหาที่ร้าน พร้อมนำคลิปการทำเต้านมเทียมจากไหมพรมของประเทศเยอรมนีมาให้ดู และขอให้ช่วยนางสาวฉัตรธิดา ช่วยทำเต้านมเทียมด้วยวิธีนี้ให้ด้วย ซึ่งตนลองทำปรากฏว่าได้ผลดี และเชื่อว่ายังมีผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ถูกตัดเต้านมยังมีความต้องการ จึงลองเข้าไปโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเพียงวันเดียว มีผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมเข้ามาแสดงความจำนงขอรับบริจาคเต้านมเทียมที่ทำจากไหมพรมจำนวนมาก

        นอกจากมีผู้ป่วยแล้ว ยังมีกลุ่มถักไหมพรมที่เป็นจิตอาสาได้มาแสดงความจำนงต้องการให้ความช่วยเหลือด้วย จึงตั้งเป็นกลุ่ม “โครงการส่งต่อกำลังใจ” ช่วยกันถักไหมพรมทำเป็นเต้านมเทียม เพราะมีราคาถูกกว่าเต้านมที่ทำจากผ้า หรือซิลิโคน รวมทั้งยังมีผู้บริจาคไหมพรมและอุปกรณ์ใช้ทอมาให้ช่วยกันทำจำนวนมากด้วย ทำให้กลุ่มจิตอาสาทั้งหมดมีทุนทำต่อ สำหรับที่คิดทำเต้านมเทียมให้กับผู้ป่วยที่ถูกตัดเต้านม ก็เพราะเข้าใจในฐานะที่เป็นผู้หญิง การขาดเต้านมไป ทำให้ผู้หญิงขาดความมั่นใจในการดำเนินชีวิต ในรายของผู้ป่วยที่มีทุนทรัพย์สามารถซื้อเต้านมเทียมทำจากซิลิโคนมาใส่แทนได้ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่หมดเงินไปกับการรักษาตัว ทำให้ไม่มีทุนทรัพย์ จึงต้องการช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้หญิงเหล่านี้ มีความมั่นใจและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

        สำหรับผู้ที่ต้องการรับเต้านมเทียมนี้ สามารถติดต่อแจ้งชื่อ ที่อยู่ และขนาดของเต้านมที่ต้องการ หลังจากนั้นทางกลุ่มจะดำเนินการส่งไปให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตั้งแต่เดือนเมษายน ๒๕๖๑ มาถึงปัจจุบันได้ส่งมอบเต้านมเทียมให้ผู้ป่วยไปแล้วประมาณ ๒,๐๐๐ คู่ และตั้งใจจะทำแล้วนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็งทั้ง ๘ แห่งในประเทศไทย เพื่อส่งมอบกำลังใจให้กับผู้ป่วย เพราะกำลังใจเป็นยาที่ดีที่สุด

        ด้านนางนิด (นามสมมุติ) อายุ ๔๐ ปี ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและได้รับมอบเต้านมเทียมในวันนี้ กล่าวถึงความรู้สึกว่า ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ถูกตัดเต้านม จะสูญเสียความมั่นใจในการดำเนินชีวิต เพราะความสวยความงามเป็นใหญ่ของผู้หญิง เมื่อขาดเต้านมไปแล้ว ทำให้ชีวิตไม่เป็นปกติ แต่เมื่อได้เต้านมเทียมมาทดแทน จะทำให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจมากขึ้น สามารถสร้างแรงบันดาลใจ สร้างกำลังใจให้ผู้ป่วยสู้กับโรคร้ายต่อไปได้

นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๒๕๐๙ วันเสาร์ที่ ๑๖ - วันพุธที่ ๒๐ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๑