19thApril

19thApril

19thApril

 

July 09,2018

พตท.เพื่อนบ้านฟ้องหมิ่นไม่เลิก ลูกบ้านวอนสื่อช่วยเป็นพยาน

        ลูกบ้านม.สิรารมย์ พร้อม ผจก.นิติบุคคล วอนสื่อช่วยเป็นพยาน เผยถูกเพื่อนบ้านนายตำรวจชั้นสารวัตรคุกคาม ฟ้องไม่เลิก ล่าสุดโดนอีกข้อฐานหมิ่นออกสื่อ วิ่งหลักทรัพย์ประกันตน ๗ หมื่น คดีแรกศาลเพิ่งยกฟ้องหมิ่นประมาท ๑๐ ล้าน สารวัตรเผยรู้สึกเสียชื่อเสียงมาก ไม่มีไกล่เกลี่ย ต้องให้ศาลพิจารณาตัดสินถึงที่สุด อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องhttp://koratdaily.com/blog.php?id=7092

        ความคืบหน้ากรณีนางลัดดา บูท อายุ ๔๖ ปี ลูกบ้านหมู่บ้านสิรารมย์ โคกกรวด-ยางน้อย ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา และนางอุ่นใจ นามพุทธซา ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านสิรารมย์โคกกรวด–ยางน้อย ที่เคยเข้าร้องเรียนกับสำนักงานหนังสือพิมพ์ “โคราชคนอีสาน” เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๑ ถึงพฤติกรรมเพื่อนบ้านเป็นสารวัตรป้องกันปราบปรามยศพันตำรวจโท และภรรยา ได้พยายามแสดงพฤติกรรมข่มขู่และคุกคามตนเองและครอบครัว 

        จากกรณีนี้ ส่งผลให้นางลัดดา บูท เข้าแจ้งความต่อ สภ.โพธิ์กลาง เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ และต่อมาในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๐ นางลัดดาได้ไปร้องเรียนต่อ พ.ต.ต.หญิง จิราวรรณ ธัญญะเจริญ สว. งาน ๖ (คดีวินัย) ตำรวจภูธรจังหวัดนครราช สีมา กระทั่งภายหลัง พ.ต.ท.อาวุฒิ อ่อนวรรณะ คู่กรณีได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ความอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา โดยมีนางลัดดา บูท เป็นจำเลย ตามคดีหมายเลขดำที่ ๓๔๕๐/๒๕๖๐ และนางอุ่นใจ นามพุทธซา คดีหมายเลขดำที่ ๓๔๕๑/๒๕๖๐ ข้อหาฐานความผิด หมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง เรียกค่าชดเชยและเสียหายจากนางลัดดาและนางอุ่นใจเป็นเงินคนละ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยศาลจังหวัดนครราชสีมานัดไต่สวนเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

        ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสานได้รับการติดต่อจากนางลัดดา บูท และนางอุ่นใจ นามพุทธซา เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีที่ พ.ต.ท. อาวุฒิ อ่อนวรรณะ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ข้อหาฐานความผิด หมิ่นประมาท ทำให้เสียชื่อเสียง เป็นจำนวนเงินคนละ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท  

        นางลัดดา บูท เปิดเผยว่า “ศาลจังหวัดนครราชสีมามีการนัดไปไต่สวนคดีเรื่องหมิ่นประมาทเมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเคยไปร้องเรียนเรื่องการประพฤติวินัยมิชอบของ พ.ต.ท.อาวุฒิ อ่อนวรรณะ ต่อผู้บังคับบัญชาเรื่องคุกคามก่อกวนอยู่หน้าบ้าน เช่น เรียกเด็กแว๊นเข้ามาขับรถจักรยานยนต์ในหมู่บ้าน, กดออดในเวลากลางคืนเป็นประจำ, พากลุ่มเพื่อนมารบกวน,  ขับรถยนต์ตาม, กินสุรายาเมา เสียงดังในยามวิกาล, ปล่อยสุนัขของตนเอง ไม่ดูแลปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุให้เพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนรำคาญ, ยิงปืนขึ้นฟ้าฉลองปีใหม่, ขู่ว่าจะทำอันตรายแก่กาย รวมทั้งไม่ชำระค่าส่วนกลางเป็นเวลา ๑ ปี ทำให้ พ.ต.ท.อาวุฒิ รู้สึกเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง จึงยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลว่ามีการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา ๓๒๖, ๓๒๘ และให้นางลัดดา บูท และนางอุ่นใจ นามพุทธซา ทั้งสองคนชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินคนละ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดย พ.ต.ท.อาวุฒิ คิดคำนวณจากเงินเดือนปัจจุบันคูณอายุราชการที่เหลืออยู่ ๒๓ ปี หากต้องถูกลงโทษทางวินัยโดยถูกไล่ออกหรือปลดออก”

        นางลัดดา บูท เปิดเผยต่อว่า คดีนี้ศาลจังหวัดนครราชสีมา มีการไต่สวนจากพยานหลักฐานพบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ทั้งการกดออดในเวลากลางคืน ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลสุนัข ไม่ชำระเงินค่าสาธารณูปโภคและค่าขยะของหมู่บ้านเป็นระยะเวลา ๑ ปี พา กลุ่มเพื่อนมาดื่มสุรา รวมทั้งพูดคุยเสียงดังภายในบ้าน และการตรวจพบกระสุนปืน ซึ่งศาลพิจารณาเห็นว่าการกระทำได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญแกตนจริง จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๙(๑) และไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ศาลจึงมีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง

        นางลัดดา บูท เล่าต่อว่า “แม้คดีหมิ่นประมาท ๑๐ ล้านบาท ศาลจะยกฟ้องแต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการอุทธรณ์ของโจทย์ แต่ตนก็มั่นใจในหลักฐานและความยุติธรรม นอก จากนี้ยังมีอีกหนึ่งคดีที่ทาง พ.ต.ท.อาวุฒิ อ่อนวรรณะ ได้ยื่นฟ้องตนกับนางอุ่นใจ นามพุทธซา ในคดีร่วมกันหมิ่นประมาทออกสื่อ ซึ่งในขณะนี้ตนและนางอุ่นใจ ได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาด้วยวงเงินคนละ ๓๕,๐๐๐ บาท จึงอยากจะขอให้ทางสื่อมวลชนช่วยเป็นพยานด้วยว่า ตนไม่ได้มากล่าวความเท็จใส่ร้ายใครเพราะตนมีพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งรูปภาพ กล้องวงจรปิด ข้อความการพูดคุยกัน รวมถึงพยานบุคคลอีกกว่า ๑๐ ปาก โดยศาลได้นัดไปฟังการไต่สวนเรื่องร่วมกันหมิ่นประมาทออกสื่อ ในวันที่ ๙ กรกฎาคมนี้ 

        “ที่ผ่านมาไม่คิดว่า เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โตต้องขึ้นศาลแบบนี้ ความจริงแล้วอยากให้จบโดยเร็ว เพราะเสียทั้งเวลาและเงินทองที่ต้องมาวิ่งสู้คดีอยู่แบบนี้ ไม่เคยคิดจะติดใจเอาความ อยากอยู่อย่างสงบสุข และจะไม่ฟ้องกลับด้วย ตนเป็นแค่ประชาชนธรรมดา ถ้าสู้กันในศาลตนมั่นใจเรื่องความยุติธรรมอยู่แล้ว ขออย่างเดียวอย่ามากลั่นแกล้งประชาชนตาดำๆ เพราะในหมู่บ้านแห่งนี้เหมือนจะมีแค่บ้านของตนเท่านั้นที่มีปัญหากับสารวัตรท่านนี้” นางลัดดา กล่าว

        สำหรับ พ.ต.ท.อาวุฒิ อ่อนวรรณะ ปัจจุบันย้ายไปดำรงตำแหน่งสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรพุทไธสง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “ได้ทำการยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทนางลัดดา บูท เพื่อนบ้าน และนางอุ่นใจ นามพุทธซา ผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านสิรารมย์โคกกรวด–ยางน้อย ที่ทำให้ตนเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ถึงแม้เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนครราชสีมาจะมีคำสั่งยกฟ้อง แต่ตนก็ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลไปแล้ว และขณะนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งตนรอคำสั่งอุทธรณ์ของศาลอยู่และคดียังไม่สิ้นสุด

          “โคราชคนอีสาน” สอบถามต่อในกรณีแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม นางลัดดา บูท และนางอุ่นใจ นามพุทธซา ว่าร่วมกันหมิ่นประมาทออกสื่อ พ.ต.ท.อาวุฒิ เปิดเผยว่า “ในวันที่ ๙ กรกฎาคมนี้ ศาลได้มีการนัดจำเลยทั้งสองให้ไปพบ หลังจากที่เขาร้องผ่านสื่อไปและทำให้ผมเสียหายมาก ผมเลยอยากให้ไปฟังความจริงจากศาล”

        ต่อข้อถามว่ามีโอกาสที่จะไกล่เกลี่ยยอมความกันหรือไม่ สารวัตร สภ.พุทไธสง ตอบว่า “ต้องให้ศาลท่านพิจารณาตัดสิน เพราะขั้นตอนและกระบวนการเดินหน้าไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ต้องขอขอบคุณสื่อมากๆ ที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด คาดว่าไม่กี่วันก็น่าจะได้ทราบเรื่องที่ชัดเจน”

        หากมีความคืบหน้า “โคราชคนอีสาน” จะนำเสนอต่อไป

 

นสพ.โคราชคนอรสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๑๓ วันศุกร์ที่ ๖ - วันอังคารที่ ๑๐  เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ 


704 1346