29thMarch

29thMarch

29thMarch

 

July 10,2018

ฟอร์ดลุยผลิต‘เรนเจอร์ แร็พเตอร์’ ส่งมอบลูกค้าทั่วประเทศสิงหานี้

 

“เรนเจอร์ แร็พเตอร์” พร้อมส่งมอบแก่ลูกค้าทั่วประเทศในเดือนสิงหาคมนี้ หลัง “ฟอร์ด” เดินสายการผลิตที่โรงงานระยอง ตอกย้ำ ‘เกิดมาแกร่ง’ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง เครื่องยนต์แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด ๒.๐ ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ ๑๐ สปีด พร้อมมอบขุมกำลังสูงสุดถึง ๒๑๓ แรงม้า และแรงบิดสูงสุด ๕๐๐ นิวตันเมตร

         เมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เปิดสายการผลิตของ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” รถกระบะสายพันธุ์ใหม่อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก  ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง หรือ เอฟทีเอ็ม จังหวัดระยอง ทั้งนี้ หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการและเปิดรับจองเป็นครั้งแรก ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ๒๐๑๘ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงจากโรงงานรุ่นแรกของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก จะพร้อมส่งมอบให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

         “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” เป็นการผสมผสานดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) และสมรรถนะเหนือชั้นที่สะท้อนนิยาม “เกิดมาแกร่ง” ของฟอร์ด เรนเจอร์ ได้อย่างลงตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือมาตรฐานใหม่ของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง โดดเด่นด้วยโลโก้ฟอร์ดแบบตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์บนกระจังหน้า ซึ่งสื่อถึงความดุดันของรถกระบะสายพันธุ์ใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือที่สุดของฟอร์ด เรนเจอร์ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดุดัน และสมรรถนะเชิงออฟโรดที่เหนือชั้น เรนเจอร์ แร็พเตอร์ คือรถกระบะสายพันธุ์ใหม่แห่งภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก อย่างแท้จริง” นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน หรือ “วิคกี้” ประธาน ฟอร์ด อาเซียน กล่าว

         เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด ๒.๐ ลิตร และระบบเกียร์อัตโนมัติ ๑๐ สปีด เพื่อมอบขุมพลังสูงสุดถึง ๒๑๓ แรงม้า (๑๕๗ กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงถึง ๕๐๐ นิวตันเมตร นอกจากนี้ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังได้รับการออกแบบให้ช่วงล่างยกสูงขึ้น และมีระยะช่วงล้อที่กว้างกว่าเดิม พร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX เพื่อซับแรงกระแทก ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการทรงตัวและการควบคุมรถ แม้ในสภาพถนนแบบออฟโรดสุดหฤโหด รวมทั้งมาพร้อมระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับโหมดการขับขี่ทั้งหมด ๖ รูปแบบ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย รวมถึงโหมดบาฮา ซึ่งเหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อค ทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น แม้ในระหว่างการขับขี่ด้วยความเร็วสูง และในส่วนของพวงมาลัยของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมกับแป้น Paddle Shift ขนาดใหญ่ที่ผลิตจากแม็กนีเซียมน้ำหนักเบา ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วตามความต้องการในทุกสภาพถนน นอกจากนี้ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังมาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่างอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทก โดยผลิตจากเหล็กกล้า (High-strength steel) ที่มีความหนา ๒.๓ มิลลิเมตร และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของ ฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มีสีภายนอกให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ สีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey) ซึ่งเป็นสีใหม่พิเศษเฉพาะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) และสีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) อย่างไรก็ตาม “เรนเจอร์ แร็พเตอร์” จะผลิตที่โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง (เอฟทีเอ็ม) เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยในปี ๒๕๕๘ ฟอร์ดได้ประกาศเพิ่มการลงทุน ๑๘๖ ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว ๖,๒๖๙ ล้านบาท ที่โรงงานเอฟทีเอ็ม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตฟอร์ด เรนเจอร์ ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

 

นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๑๔ วันพุธที่ ๑๑ - วันอาทิตย์ที่ ๑๕ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑


701 1342