เมื่อเวลา ๑๖.๓๐ น. วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ นายบุญยงค์  แก้วฝ่ายนอก ทนายความของ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมทีม “เปรี้ยวสวยหั่นศพ” ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่จังหวัดขอนแก่น ว่า วันนี้เรือนจำกลางขอนแก่นได้ส่งตัวน.ส.ปรียานุช  โนนวังชัย หรือเปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน และน.ส.อภิวันท์  สัตยบัณฑิต หรือแจ้ ไปทำการคุมขังที่เรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา หลังศาลชั้นต้นของศาลจังหวัดขอนแก่น มีคำพิพากษาเป็นเด็ดขาดในคดีความดังกล่าวตามที่โจทก์ คือ พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น และน.ส.พิชชาภา คำเพิงใจ มารดาของน.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย ได้ยื่นฟ้องน.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว จำเลยที่ ๑, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิน จำเลยที่ ๒ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนท์, นายวศิน นามพรม และน.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ ในคดีดำเลขที่ ๑๙๕๗/๒๕๖๐ คดีแดงที่ ๑๐๓๙/๒๕๖๑ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาที่ ๑-๒ และ ๕ มีอัตราโทษเกินกว่าการควบคุมของเรือนจำกลางขอนแก่น

           “คดีความดังกล่าว ศาลชั้นต้นของศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีคำพิพากษาให้น.ส.เปรี้ยว จำเลยที่ ๑ และ น.ส.เอิน จำเลยที่ ๒ จำคุกรวม ๓๔ ปี  ๖ เดือน, จำเลยที่ ๓ น.ส.เบนท์ จำคุก ๑ ปี โดยไม่รอลงอาญา, จำเลยที่ ๔ นายวศิน จำคุก ๒๓ ปี ๔ เดือน ๒๐ วัน และจำเลยที่ ๕ น.ส.แจ้ จำคุก ๓๓ ปี ๙ เดือน นอกจากนี้ยังคงมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายในคดีแพ่ง โดยมีคำสั่งให้จำเลยที่ ๑-๒-๔ และ ๕ จ่ายค่าปลงศพ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว รวม ๑,๐๗๐,๐๐๐ บาท โดยให้แบ่งชำระเป็นเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท รวม ๑๗ ปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ดังนั้นในคดีนี้ จำเลยที่ ๑-๒ และ ๕ มีอัตราโทษเกินกว่ากฎการคุมตัวผู้ต้องหาขังของเรือนจำกลางขอนแก่น เพราะที่เรือนจำกลางขอนแก่นนั้นกำหนดไว้ว่า สามารถคุมขังผู้ต้องหาได้เฉพาะการได้รับคำพิพากษาไม่เกิน ๒๕ ปีเท่านั้น หากเกินกว่าให้ถูกส่งไปยังเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ที่กำหนดไว้ เปรี้ยว-เอิน และแจ้จึงถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา”

           นายบุญยงค์ กล่าวต่ออีกว่า แม้ผู้ต้องหาจะถูกแยกตัวจากการคุมขัง แต่ทั้งหมดได้มอบอำนาจและมีการแต่งตั้งทนายความในคดีแล้ว โดยจะมีการยื่นขออุทธรณ์อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้มีการขยายระยะเวลาของการยื่นอุทธรณ์ออกไปอีก ๑ เดือน เนื่องจากที่ผ่านมายังคงเป็นช่วงของการคัดสำเนาคำพิพากษา การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม รวมทั้งการประชุมร่วมทีมทนายความในคดีดังกล่าว กระทั่งในขณะนี้การเตรียมการในด้านต่างๆ แล้วเสร็จ และมีการเข้าพบกับลูกความแล้วก่อนถูกส่งตัวไปทำการคุมขังที่เรือนจำกลางคลองไผ่ โดยทีมทนายความทุกคนมั่นใจว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษาในทิศทางที่ดีขึ้นและ ลดโทษให้กับลูกความทั้ง ๕ คน

นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๑๔ วันพุธที่ ๑๑ - วันอาทิตย์ที่ ๑๕ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑