17thApril

17thApril

17thApril

 

August 08,2018

บสย.ปิดยอดค้ำสินเชื่อ SMEs ๖ เดือนทะลุเป้า ๕๖,๑๕๐ ล. ลุยโครงการใหม่พิชิตแสนล้าน

           ๖ เดือน ยอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อทะลุเป้า ๕๖,๑๕๐ ล้านบาท พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องตลอดครึ่งปีหลัง ผ่าน ๒ โครงการใหม่ คาดปิดยอดค้ำฯ สิ้นปีพิชิตเป้าหมาย ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท 

          นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)  เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายการดำเนินงาน บสย. ในฐานะหน่วยงาน ภายใต้กระทรวงการคลัง ซึ่งมีภารกิจด้านการค้ำประกันสินเชื่อให้ผู้ประกอบการSMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงแหล่งทุนให้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ ๒ โครงการ ที่ผ่านความเห็นชอบตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฏาคม ๒๕๖๑ วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ รวม ๑๖๕,๐๐๐ ล้านบาท ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS ๗) และโครงการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneur) ระยะที่ ๓ จะช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อได้คล่องตัวมากขึ้น 

          ทั้งนี้ ในรอบ ๖ เดือน (ม.ค.- มิ.ย. ๒๕๖๑) บสย. มีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม โดยอนุมัติการค้ำประกันสินเชื่อ ทะลุเป้าหมาย  ๕๖,๑๕๐ ล้านบาท เติบโต ๙๐% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปิดยอดค้ำประกันสินเชื่อที่  ๒๙,๕๙๑ ล้านบาท และอนุมัติหนังสือค้ำประกัน รวม ๕๘,๒๙๖ ฉบับ เติบโต ๒๓% เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน ๔๗,๒๐๔  ฉบับ สามารถช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ ๕๗,๑๗๗ ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ ๘๓,๗๗๙ ล้านบาท โดยโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 6  (ปรับปรุงใหม่) สามารถปิดโครงการได้ตามระยะเวลาที่กำหนด (๓๐ มิ.ย.๒๕๖๑) และ สามารถอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อได้เต็มวงเงินที่ได้รับอนุมัติ 

          นอกจากนี้ ยังได้มอบนโยบายการดำเนินงาน บสย.ในครึ่งปีหลัง โดยเร่งจัดทำแผนงานและเปิดรับคำขอค้ำประกัน ภายใน ๒ สัปดาห์ ได้แก่ ๑.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS7) วงเงิน ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ๒.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneur) ระยะที่ ๓ วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท  เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการ SMEs ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง 

          สำหรับรายละเอียดของ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS ๗) วงเงิน ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาท จะแตกต่างจากโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่ผ่านมา จุดเด่นของโครงการนี้คือ มีความหลากหลายและรองรับผู้ประกอบการ SMEs ครอบคลุม ๖ กลุ่มหลัก ได้แก่ SMEs ประชารัฐและนโยบายรัฐ, SMEs นิติบุคคล บัญชีเล่มเดียว, SMEs รายเล็ก, SMEs ที่ได้รับสินเชื่อจาก SFIs, SMEs ทั่วไป และการจัดสรรตามรายสถาบัน  ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันปีแรก คาดว่าจะช่วยให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้กว่า ๔๓,๐๐๐ ราย และก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบ ๒๔๐,๐๐๐ ล้านบาท ค้ำประกันต่อรายไม่เกิน ๔๐ ล้านบาท ระยะเวลาค้ำประกันไม่เกิน ๑๐ ปี และ คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน ๑.๗๕% สิ้นสุดโครงการ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓  

           ในส่วนของ โครงการค้ำประกันสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (Micro Entrepreneur) ระยะที่ ๓ วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก กำหนดวงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาค้ำประกันสินเชื่อไม่เกิน ๑๐ ปี คาดว่าจะช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ๑๕๐,๐๐๐ ราย และเกิดสินเชื่อในระบบ ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท สิ้นสุดโครงการ วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๓  

          นายสุรชัย กล่าวว่า ๒ โครงการนี้ จะมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และผู้ประกอบการ SMEs โดยเน้นย้ำให้ บสย.เร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถเปิดรับคำขอการค้ำประกันสินเชื่อได้ทันภายใน ๒ สัปดาห์ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้คล่องตัว ลดการพึ่งพาเงินนอกระบบ ลดต้นทุนธุรกิจ  อันเป็นนโยบายต่อเนื่องของรัฐบาล โดยใช้กลไกค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. มั่นใจว่าผลการดำเนินงานสิ้นปี บสย.จะสามารถช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ และมียอดการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมายและแผนงานปี ๒๕๖๑

 

 

 

  นสพ.โคราชคนอีสาน ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๑๙ วันจันทร์ที่ ๖ - วันศุกร์ที่ ๑๐ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ 

 

701 1343