20thApril

20thApril

20thApril

 

October 06,2018

ทีเส็บเผยกลยุทธ์รับเทรนด์ไมซ์ปี’๖๒ ดันไทยศูนย์กลางประชุมแห่งเอเชีย

          “ทีเส็บ”ปั้นแบรนด์ส่งเสริมการตลาดไมซ์ไทย Thailand: Redefine Your Business Events ขยับตัวเป็นหุ้นส่วนความสำเร็จของผู้จัดงาน ใช้ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และการขยายตัวในเอเชียเป็นฐานเพื่อดันไทยเป็นศูนย์กลางไมซ์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ตลาดไมซ์ของไทยในทวีปเอเชียมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว กล่าวคือภูมิภาคอาเซียนมีการเติบโตสูงถึง ๓๕% และในกลุ่ม CLMV มีการเติบโตถึง ๑๐๐% และหากพิจารณาโดยแบ่งตามกลุ่มธุรกิจในปี ๒๕๖๒ พบว่าในกลุ่มการจัดประชุมสัมมนาและอินเซนทีฟ (Meeting and Incentives) เอเชียจะยังเป็นตลาดใหญ่โดยเฉพาะจีน ประกอบกับการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียจะช่วยขับเคลื่อนการเดินทางธุรกิจ เช่น จากอินเดียและอินโดนีเซีย ที่มีอัตราการเติบโตของนักเดินทางธุรกิจในระดับสูง คือ ๑๑.๓% และ ๘.๗% ตามลำดับ

          อย่างไรก็ตาม ตลาดไมซ์ของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากตามสภาพทางสังคมและพัฒนาการทางเทคโนโลยี เช่น เกิดการประชุมรูปแบบใหม่ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Active Learning) และการสร้างการมีส่วนร่วม ตลอดจนการใช้แอปพลิเคชันเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมประชุมการควบรวมงานแสดงสินค้าของผู้จัดงานระดับโลก การเพิ่มขึ้นของงานด้านสุขภาพ ด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ และด้าน start up เป็นต้น

          จากทิศทางดังกล่าว ทีเส็บ จึงกำหนดทิศทางกลยุทธ์ทางการตลาดของไมซ์ไทยในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ดังนี้ ๑) ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อ/เข้าถึงตลาด ASEAN และ CLMV ๒) ใช้ศักยภาพใหม่ของไทยในการสร้างงานไมซ์ ผ่านนโยบายประเทศไทย ๔.๐, โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC)  ๑๐ อุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ที่สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาประเทศ ๓) ปรับบทบาทของทีเส็บ จากการเป็นผู้สนับสนุนด้านการตลาดสู่การเป็นผู้อำนวยความสะดวก ผู้พัฒนา ผู้นำทางความคิด ขยายพันธมิตรใหม่ และ ๔) ส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ไทยด้วยแบรนด์ส่งเสริมการตลาดใหม่ซึ่งจะสร้างความหมายใหม่ที่แตกต่างให้กับภาพลักษณ์ไมซ์ประเทศไทย Thailand Redefine Your Business Events (ไทยแลนด์ รีดีไฟน์ยัวร์ บิสิเนส อีเว้นท์)

          “ในโลกธุรกิจและการแข่งขันทุกวันนี้ ต้องพบเจอการเปลี่ยนแปลงมากมาย สิ่งสำคัญสำหรับการทำธุรกิจไม่ใช่แค่เงินทุน แต่คือความพร้อมที่จะเปิดมุมมองใหม่ และปรับตัวให้กับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ของอนาคต การเลือกจัดกิจกรรมทางธุรกิจในประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และศิลปวัฒนธรรมบวกกับความพร้อมของการจัดงาน ก็เสมือนกับการเปิดโอกาสให้ธุรกิจได้เจอกับความเป็นไปได้ใหม่ๆ พบเจอเรื่องราวประทับใจ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางธุรกิจเพื่อพัฒนาต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นี่คือคอนเซ็ปต์ไอเดียของแบรนด์ Thailand: Redefine Your Business Events โดยทีเส็บเองก็จะสร้างบทบาทขององค์กรให้ชัดเจนและเข้มแข็งมากขึ้นในการเป็นผู้ให้การส่งเสริมสนับสนุนในการจัดการประชุมและนิทรรศการ ที่เปลี่ยนจากแค่ผู้ส่งเสริมการตลาด เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ (Co-creator) เป็นพันธมิตรและผู้ร่วมมือทางธุรกิจ (Partnership and Collaboration) ตลอดจนการเป็นผู้นำทางความคิด (Thought Leader) และการจากที่รัฐบาลไฟเขียวให้ทีเส็บเดินหน้าโดยใช้โอกาสที่ภาพรวมของเศรษฐกิจประเทศไทยกำลังขยายตัวในช่วงนี้ ทีเส็บจึงต้องปฏิบัติการเชิงรุกในการสร้างอุตสาหกรรมไมซ์ไทยให้เข็มแข็งจากความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ และเป็นศูนย์กลางแห่งไมซ์ของภูมิภาคให้ได้ในเร็ววัน” นางนิชาภา ยศวีร์ กล่าว

          สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒ ทีเส็บมีการคาดการณ์จำนวนนักเดินทางกลุ่มไมซ์ที่จะเข้ามาในประเทศไทยในปีงบประมาณหน้า ซึ่งรวมกลุ่มการจัดอีเว้นท์จำนวน ๑,๔๑๙,๘๙๐ ราย สามารถสร้างรายได้ประมาณ ๑๓๐,๒๐๐ ล้านบาท จากการใช้กลยุทธ์การดึงงานไมซ์ในด้านต่างๆ อาทิ การเน้นการประมูลการจัดงานขนาดใหญ่ (Mega-sized) มากขึ้น หรือหากเป็นกลุ่มเล็กก็จะเน้นกลุ่มพรีเมียม สร้างเครื่องมือและข้อมูลที่จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ในการเข้าร่วมงานให้กับผู้เข้าร่วมประชุมต่างชาติและทำให้เกิดประโยชน์กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับแคมเปญสนับสนุนผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมไมซ์ (Stakeholders) ทั้งผู้ที่ต้องการพบปะเจรจา ผู้จัดงานต่างประเทศ และคนไทยและต่างชาติที่ตกลงทำธุรกิจร่วมกันจัดงาน / ให้การสนับสนุนงบประมาณสำหรับผู้จัดงานภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ขณะเดียวกันยังมี แคมเปญ Exhibiz in Market ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้แสดงสินค้า (Exhibitors) และ ASEAN+6 Privilege ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ชมงาน (Visitors) ไว้รองรับด้วยเช่นกัน

          “ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ ๑๘-๒๐ กันยายน ๒๕๖๑ ประเทศไทยมีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพการจัดงาน Incentive Travel & Conventions, Meetings Asia (IT&CMA) ครั้งที่ ๒๖ และ งาน Corporate Travel World Asia-Pacific (CTW Asia-Pacific) ครั้งที่ ๒๑ ซึ่งจัดอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยมาเป็นปีที่ ๑๗ ณ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ ชั้น ๒๒ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์แอทเซ็นทรัลเวิลด์ โดยล่าสุดได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานต่อเนื่องจนถึงปี พ.ศ.๒๕๖๓ คาดการณ์ปีนี้มีผู้เข้าร่วมงานประมาณ ๒,๖๔๖ คน จาก ๕๒ ประเทศทั่วโลก โดยทีเส็บได้จัดสร้างคูหานิทรรศการประเทศไทย (Thailand Pavilion) เพื่อผู้ประกอบการไมซ์ไทย จำนวน ๖๙ ราย ได้ร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อ โดยมีบริษัทธุรกิจด้านการโรงแรมระดับชั้นนำของประเทศไทยและของโลก ธุรกิจบริการด้านการประชุมและอินเซนทีฟ พื้นที่รวมทั้งหมดถึง ๖๐๐ ตารางเมตรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ Innovation เพื่อให้สอดรับกับแบรนด์สื่อสารใหม่ทางด้านไมซ์ของประเทศไทยด้วย” นางนิชาภา กล่าวท้ายสุด 

 

 

 

 นสพ.โคราชคนอีสาน  ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๒๘ วันจันทร์ที่ ๑ - วันศุกร์ที่ ๕ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ 

 

 


704 1343