“ยักษ์วัสดุ” ทุ่ม ๕๐๐ ล้าน ขยายอาณาจักรสู่โคราช พื้นที่ขายกว่า ๑๘,๐๐๐ ตารางเมตร ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้ารักการตกแต่งบ้านและกลุ่มผู้รับเหมา หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานเปิด พร้อมเยี่ยมชม

           เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๓๐ น. ที่ศูนย์ไทวัสดุ สาขานครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายสหพล กาญจนเวนิช รองนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.สุรศักดิ์ ถนัดศีลธรรม 

           ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี นายธนาคม วิมลวัตรเวที ประธานกรรมาธิการสถาปนิกอีสาน สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมทั้งผู้ประกอบการร้านค้าวัสดุก่อสร้าง และประชาชนที่สนใจกว่า ๑๕๐ คน ร่วมงาน “Grand Opening ไทวัสดุ สาขานครราชสีมา”

           สำหรับบรรยากาศภายในงาน เป็นไปอย่างคึกคัก พร้อมบรรยากาศต้อนรับตรุษจีน (Chinese New Year) ที่มีทั้งการตกแต่งสถานที่ด้วยโคมไฟแบบจีน เริ่มต้นงานด้วย วงโยธวาทิตกว่า ๗๐ คน จากโรงเรียนสุรนารีวิทยา ต่อด้วยขบวนเชิดสิงโตอวยพรแบบจีน พร้อมการตีกลองเปิดงานอย่างเป็นทางการ ปิดท้ายด้วยการเดินชมสถานที่ และสินค้าที่จัดจำหน่ายในไทวัสดุ สาขานครราชสีมา

           นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาซึ่งรับเชิญเป็นประธานในพิธีเปิด กล่าวว่า “จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน เป็นประตูสู่ภาคอีสาน และภาคอีสานก็เป็นประตูสู่อินโดจีน  เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย ประมาณ ๒๐,๕๐๐ ตร.กม. และเป็นจังหวัดที่มีจำนวนประชากรรองจากกรุงเทพฯ ซึ่งโคราชมีจำนวนประชากรประมาณ ๒.๖ ล้านคน  และมีประชากรแฝงอีกหลายล้านคน เนื่องจากว่าจังหวัดนครราชสีมีโรงงานอุตสาหกรรม มีเขตอุสาหกรรมมากมาย เพราะฉะนั้น จะมีประชาชนจากหลายจังหวัดเข้ามาทำงาน โคราชเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรม เพราะมีนิคมอุตสาหกรรมจำนวนมาก เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นเมืองมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนไว้กับองค์การยูเนสโก ที่สำคัญอีกอย่างคือโคราชเป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้ง เพราะว่าเรามีช้อปปิ้งมอลล์ใหญ่ๆ หลายที่ เป็นรองแค่ กรุงเทพฯ เท่านั้นเอง”

           นายเทวัญ กล่าวต่อว่า “โคราชมีความเจริญเติบโตในทุกๆ ด้าน ที่สำคัญ เช่น โครงการมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นถนนสายพิเศษเชื่อมระหว่างเมือง เริ่มจากบางปะอินมาถึงโคราช เดิมระยะทางประมาณ ๒๕๐ กม. ถ้าเส้นทางนี้เสร็จ จะวิ่งจากบางปะอินมาโคราชใช้ระยะทางทั้งหมด ๑๙๐ กม. จะวิ่งรถเหมือนวิ่งบนทางด่วน ทำให้ผู้เดินทางขับขี่ได้อย่างสะดวก ซึ่งคาดว่าปลายปี ๒๕๖๓ พวกเราจะได้ใช้เส้นทางนี้ ”

           นายเทวัญ กล่าวอีกว่า “อีกหนึ่งโครงการคือ รถไฟความเร็วสูง ที่มีความเร็วประมาณ ๒๕๐ กม./ชม. เป็นเส้นทางจากกรุงเทพฯ มาโคราช ในอนาคตจะเชื่อมต่อไปถึงหนองคาย เช่นเดียวกับมอเตอร์เวย์จะต่อไปถึงขอนแก่น รถไฟความเร็วสูงในปัจจุบันเริ่มก่อสร้างแล้ว เฟสแรก (กลางดง-ปากอโศก) และจะมีอีก ๓ เฟส คือ ปากช่อง-คลองขนานจิตร, แก่งคอย-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะเวลาก่อสร้างทั้งโครงการ ๔ ปี คาดเปิดให้บริการได้ในปี ๒๕๖๔ ถ้ารถไฟความเร็วสูงเสร็จ ผมว่า คงมีพี่น้องประชาชนชาวโคราชหรือจากอีสานมาใช้ตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง ๑ ชม.กว่าๆ ไม่แน่ไปทานข้าวที่กรุงเทพฯ และกลับมาโคราชตอนเย็นก็ยังได้ ใครที่ไปทำงานก็จะสะดวกมากขึ้น”

           “ไทวัสดุมาเปิดตรงนี้ถือว่าตอบโจทย์ของเมืองโคราชที่กำลังจะเจริญเติบโตในอนาคต ซึ่งในอนาคตโคราชจะเป็นศูนย์กลางทุกอย่าง ศูนย์กลางของการคมนาคม และขณะนี้เราเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม และกำลังจะเป็นศูนย์กลางของอสังหาริมทรัพย์ ฉะนั้นการที่เปิดไทวัสดุถือว่าผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่ดี ตอบรับลูกค้าที่กำลังจะปลูกบ้านหรือจะเป็นผู้รับเหมาที่รับงานก่อสร้าง ไทวัสดุคือวันสตอปเซอร์วิส สมัยก่อนถ้าเราจะทำงานก่อสร้าง วันหนึ่งเราไปที่ร้านเสาเข็ม อีกวันไปที่ร้านเสาปูน อีกวันก็ไปที่ร้านหินทราย หรือซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน วันนี้มาที่ไทวัสดุที่นี่ที่เดียว ครบวงจรทั้งหมด ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ที่ดีที่สุดของคนโคราช ที่สำคัญสาขานี้มีความพิเศษคือ ติดแอร์ โดยทั่วไปร้านไทวัสดุส่วนมากจะไม่ติดแอร์ เนื่องจากมีลูกค้ามาเดินเลือกซื้อของเป็นชั่วโมง ผู้บริหารจึงเล็งเห็นความสำคัญของลูกค้า และได้ให้บริการอย่างถึงที่สุด พร้อมทำรูปแบบร้านสมัยใหม่ อีกทั้งยังทำให้เกิดการจ้างงานในโคราช หมายความว่า พนักงานหลายร้อยคน อยู่ในโคราชเป็นส่วนใหญ่ หรือจังหวัดใกล้เคียง” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าว

           นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้าน กลุ่มเซ็นทรัล ผู้ดำเนินธุรกิจไทวัสดุ กล่าวว่า “ไทวัสดุ เราตั้งใจเดินหน้าเปิดสาขาไปทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราเปิดสาขาขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา ด้วยทุนสร้างกว่า ๕๐๐ ล้านบาท ซึ่งสาขานี้นับเป็นสาขาที่ ๔๖ และเป็นสาขาลำดับที่ ๑๑ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บนพื้นที่กว่า ๒๐ ไร่ ตั้งอยู่บนถนนเลี่ยงเมือง โดยในระยะรัศมี ๕๐ กิโลเมตร มีจำนวนบ้านเรือนมากกว่า ๒๕๓,๐๐๐ ครัวเรือน และมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเกิดขึ้นใหม่อีกมากกว่า ๓๓ โครงการ รวมทั้งแนวโน้มกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในอนาคตตามแนวถนนวงแหวนที่จะตัดใหม่ โดยกลุ่มเป้าหมายของเรายังคงเน้นลูกค้าบ้านและ กลุ่มผู้รับเหมา อีกทั้งทำเลแห่งนี้ยังใกล้จุดขึ้นลงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ซึ่งนับเป็นทำเลที่มีศักยภาพ พร้อมตอบรับความต้องการของจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

           อนึ่ง ไทวัสดุ สาขานครราชสีมา ถือเป็นสาขาแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีรูปแบบอาคารแบบใหม่ และติดเครื่องปรับอากาศภายในทั้งศูนย์ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในเลือกซื้อสินค้า พร้อมด้วยสินค้าที่ครบครันเรื่องบ้าน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุโครงสร้าง อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เครื่องมือช่าง กระเบื้องและห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครัวและอุปกรณ์ครัว และของตกแต่งบ้าน พร้อมกันนี้เรายังได้เพิ่มโซลูชั่นบริการเรื่องบ้านกับ “vFIX” บริการที่จะตอบโจทย์ในทุกปัญหา ไม่ว่าจะงานติดตั้ง ต่อเติม ตกแต่งหรือซ่อมแซม งานจะเล็กหรืองานใหญ่ ขนาดไหนเราพร้อมดูแล ด้วยทีมงานคุณภาพเพื่อให้ทุกงานได้มาตรฐาน พร้อมบริการผ่านแอปพลิเคชัน หรือ Contact Center 1308 ทั้งหมดนี้คือความตั้งใจที่เราอยากให้กับลูกค้าเพื่อตอกย้ำแนวคิด ครบเรื่องบ้าน ถูกและดี” 

           สำหรับบริเวณที่ตั้งไทวัสดุ อยู่ติดกับปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา (By Pass) ช่วงกม.ที่ ๓ ใกล้จุดลงมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา บนพื้นที่กว่า ๒๐ ไร่ เดิมที่เป็นที่ดินของ นายบุญชัย พรมนะกิจ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.บุญชัยราชสีมา นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถนนทางหลวง ซึ่งเซ็นทรัลได้ซื้อมาเพื่อเตรียมก่อสร้างเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา แต่ได้มีการโยกย้ายทำเลที่ตั้งไปยังตรงข้ามมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล เนื่องจากพื้นที่แห่งนั้นมีจุดเด่นมากกว่า คือรายล้อมด้วยมหาวิทยาลัย ๓ แห่ง (ราชภัฏ ราชมงคล และวงษ์ชวลิตกุล) และเป็นเขตที่อยู่อาศัยที่มีประชาชนจำนวนมาก 

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๕๒ วันศุกร์ที่ ๑ - วันอังคารที่ ๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๒