เขต ๒ โคราช “ชาติพัฒน์” หวังรักษาแชมป์ “พลังประชารัฐ” อ้างโคราชเจริญเพราะรัฐบาลชุดนี้ “เสรีรวมไทย” ไม่หนุนเผด็จการ ด้าน “เพื่อไทย” เสริม ๓๐ บาทรักษาทุกโรค

       ตามที่ “โคราชคนอีสาน” เคยนำเสนอการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ ในเขตการเลือกตั้งที่ ๑ ว่า ผู้สมัคร ส.ส.แต่พรรคการเมืองมีความพร้อม หรือนโยบายอะไร ซึ่งเขตเลือกตั้งที่ ๒ เป็นอีกหนึ่งเขตที่มีความสำคัญ และเป็นฐานเสียงเก่าของพรรคชาติพัฒนา แต่ครั้งนี้มีนักการเมืองทั้งหน้าใหม่และเก่าที่น่าจับตามองหลายคน

ชพน.เมืองกีฬา-น้ำไม่ท่วม

       โดยแชมป์เก่าหลายสมัย นายวัชรพล โตมรศักดิ์ หรือ “บิ๊กโต” ผู้สมัคร ส.ส.เขต ๒ เบอร์ ๑๘ พรรคชาติพัฒนา เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต ๒ อำเภอเมืองนครราชสีมา ๑๖ ตำบล ด้วยวิธีการเดินเคาะประตูถึงหน้าบ้าน นำเสนอนโยบายพรรคชาติพัฒนา สำหรับคนโคราช ๙ นโยบาย ได้แก่ ๑.โคราชเมืองเกษตรก้าวไกล คือ พืชเกษตร ๕ ตัว ข้าว, อ้อย, ยางพารา, มันสำปะหลัง และปาล์ม เรื่องต้นทุนน้ำ ชลประทาน มีแหล่งน้ำ ๙ ลุ่มน้ำ ๕ เขื่อนใหญ่, ๒.โคราชเมืองอุตสาหกรรมยั่งยืน, ๓.โคราชเมืองคมนาคมทั่วถึง, ๔.โคราชเมืองท่องเที่ยวทุกถิ่น, ๕.โคราชเมืองกีฬาสามัคคี, ๖.โคราชเมืองจราจรคล่องตัว, ๗.โคราชเมืองน้ำไม่ท่วม, ๘.โคราชเมืองอัจฉะริยะทันสมัย และ ๙.โคราชเมืองครัว”

       “ส่วนตัวผมจะเน้นหลักเรื่องกีฬา เคยนั่งเป็นประธาน “สวาทแคท” นครราชสีมา เอฟซี พาทีมเลื่อนชั้นจากดิวชั่น ๒ สู่ไทยลีก ลีกสูงสุดของประเทศ พร้อมกับสร้างทีมวอลเลย์บอล นครราชสีมา เดอะมอลล์ วีซี ทั้งชายและหญิง จนหลายคนยกให้เมืองโคราชเป็นเมืองแห่งวอลเลย์บอล ที่ผ่านมาโคราชจัดการแข่งขันวอลลเลย์บอลระดับนานาชาติหลายรายการ เราจะเน้นให้โคราชเป็นเมืองกีฬา สร้างเยาวชนให้มาสนใจกีฬา เพราะกีฬาสามารถสร้างอาชีพ สร้างอนาคตได้ในปัจจุบัน กีฬากับการท่องเที่ยวเป็นของคู่กัน เมื่อสร้างเป็นเมืองกีฬา นักกีฬา และกองเชียร์ก็จะเดินทางมาท่องเที่ยวในโคราชมากขึ้น” นายวัชรพล กล่าว

       นายวัชรพล โตมรศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า นโยบายที่พรรคชาติพัฒนาพร้อมจะผลักดันคือ โคราชน้ำต้องไม่ท่วม สร้างระบบโครงข่ายน้ำทั้ง ๙ ลุ่มแม่น้ำ วางระบบน้ำอย่างยั่งยืน เช่น การสร้างแก้มลิงในพื้นที่ เพื่อรองรับน้ำจะไหลลงมาจากเขาใหญ่ และลำตะคอง วางระบบชลประทาน เพื่อการเกษตรให้กับเกษตรกร โคราชมีพื้นที่ไร่ประมาณ ๒ แสนล้านไร่ แต่มีเพียง ๗ แสนไร่ ที่มีระบบจัดการน้ำเข้าถึง พรรคชาติพัฒนาต้องการวางระบบจัดการน้ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถทำไร่ ทำนาได้ตลอดทั้งปี เพื่อเพิ่มชีวิตที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้น

       “พรรคชาติพัฒนา เป็นพรรคของคนโคราช และเป็นพื้นที่เมืองหลวงของชาติพัฒนามาตลอด ตั้งแต่ยุคพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี ถึงวันนี้การเมืองจะเปลี่ยนไป แต่กระแสพรรคชาติพัฒนายังไม่ตก เพราะผมไม่เคยทอดทิ้งประชาชนไปไหน อยู่ร่วมดูแลทุกข์สุขประชาชนมาโดยตลอด แม้ว่าการเลือกตั้งจะห่างหายไปกว่า ๗ ปี แต่ผมยังคงลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง การเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองน้องใหม่เกิดขึ้นมาก ตัวเลือกก็เพิ่มมากขึ้น นโยบายก็มีมากขึ้น แต่เชื่อว่าประชาชนฉลาดเลือก เพราะต้องการหาคนดีที่จะเข้าไปทำงานแทนพวกเขาได้ การเมืองครั้งนี้อยากให้เป็นในแบบสร้างสรรค์ โดยส่วนตัวอาศัยความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่หวังเป็นคะแนนเสียง”

       “แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นคนตัดสินใจ จึงอยากฝากให้ประชาชนคัดสรรคนดีเข้าไปทำหน้าที่ เพื่อช่วยดูแลในเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง และพืชผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาลพรรคชาติพัฒนาพร้อมที่จะทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่” บิ๊กโต กล่าว

เพื่อไทย’ชูเรื่องท่องเที่ยว

       นายสุธรรม พรสันเทียะ พรรคเพื่อไทย เบอร์ ๗ เขต ๒ เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า “การลงพื้นที่หาเสียงเขต ๒ พรรคเพื่อไทย เน้นการเดินเคาะประตูเข้าพบประชาชนแบบถึงตัว เพื่อให้รับทราบนโยบายที่ถูกต้อง เพราะขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนมาก กับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ต้องการเศรษฐกิจที่ดีกลับมา แล้วประชาชนมีความมั่นใจในนโยบายของพรรคเพื่อไทย กระแสตอบรับดี เพราะว่าประชาชนมีความหวังว่า พรรคเพื่อไทยจะกลับมาบริหารประเทศ”

       “นโยบาย ๓๐ บาท รักษาทุกโรค เราจะเพิ่มเติมในเรื่องของตัวอย่างให้ดีขึ้น กองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละล้าน ดูแลระบบกองทุนหมู่บ้านให้ดีขึ้น เรื่องของเกษตรกรจัดนโยบาย เพื่อดูแลเกษตรกรในเรื่องของราคาข้าว ราคามันสําปะหลัง ราคาอ้อย และราคายางพารา ทุกอย่างจะเพิ่มเติมขึ้นมาจากเดิม” นายสุธรรม กล่าว

       นายสุธรรม พรสันเทียะ เปิดเผยอีกว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ๔-๕ ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา ประชาชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า พรรคเพื่อไทยอาสาเข้ามา เพราะเห็นว่า โคราชเป็นจุดที่จะต้องเพิ่มศักยภาพหลายๆ อย่าง เช่น แหล่งท่องเที่ยว ทำให้ไม่เป็นเมืองผ่าน ดูแลการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน แหล่งท่องเที่ยวใดยังไม่มีรูปแบบที่สมบูรณ์ก็จะไปต่อยอดให้สมบูรณ์ และให้ท่องเที่ยวแบบต่อเนื่อง เพราะว่าแหล่งท่องเที่ยวแต่ละที่ของโคราช ค่อนข้างไกลกัน การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวต้องให้เป็นเรื่องราวมี มีรูปแบบชัดเจน 

       “การเมืองในขณะนี้อยู่ในบรรยากาศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นในวันที่ ๒๔ มีนาคมนี้ เป็นการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ผมอยากเรียนว่า ให้พี่น้องประชาชน นึกคิดดีๆ ว่า ๔-๕ ปีที่ผ่านมา เราอยู่ดีมีสุขหรือยัง เพราะฉะนั้นให้พี่น้องตัดสินใจดีๆ ครั้งนี้เป็นแบบบัตรเดียว เบอร์เดียว ถ้าประชาชนเลือกผิดในครั้งนี้จะได้รับผลกระทบ แบบนี้ไปอีกหลายปี ถ้าอยากอยู่ดีมีสุขให้พี่น้องประชาชนเลือกข้างที่เป็นประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีนโยบายจับต้องได้ อาสาที่จะเป็นรัฐบาล เพื่อที่จะมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจบ้านเมือง” 

       นายสุธรรม พรสันเทียะ กล่าวปิดท้ายว่า อยากฝากประชาชน พรรคเพื่อไทย เขต ๒ เบอร์ ๗ ขอโอกาสเป็นทางเลือกทางหนึ่ง เพื่อที่จะนำเศรษฐกิจดีๆ กลับมา และเป็นทางเลือกให้ประชาชนลองดูว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จับต้องได้ ไปใช้สิทธิ์กันเยอะๆ และตัดสินใจให้ดี เพราะครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดไปถึงอนาคตของลูกหลาน อนาคตของประชาธิปไตย อนาคตของเศรษฐกิจ ถ้าพี่น้องตัดสินใจไม่ดี อาจจะต้อง มีเศรษฐกิจที่ไม่ดี เหมือน ๔-๕ ปีที่ผ่านมา แล้วก็ดูว่าพรรคไหนตอบโจทย์ในเรื่องของเศรษฐกิจ ปากท้องพี่น้องประชาชน

พปชร.สานต่อนโยบาย‘บิ๊กตู่’

       นายประพิศ นวมโคกสูง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เบอร์ ๙ เขต ๒ เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายโดนใจประชาชน เพราะประชาชนได้บัตรประชารัฐมีกินมีใช้กัน พร้อมนโยบายใหม่ เรื่องของมารดาประชารัฐ เป็นนโยบายที่ถูกใจประชาชนอันดับ ๒ ตั้งครรภ์จะได้รับการดูแล ๓,๐๐๐ ต่อเดือน เป็นเวลา ๙ เดือน พอคลอดลูกจะได้รับเงินอีก ๑๐,๐๐๐ บาท และได้ค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นเวลา ๖ ปี เป็นนโยบายที่พี่น้องประทับใจมาก ส่วนกลุ่มคนที่เป็นหนี้ จะมีกองทุนเงินล้าน พักหนี้ พักดอก เป็นเวลา ๓ ปี แล้วยังมีการดูแลเรื่องมันสำปะหลังให้ไร่ละ ๑,๐๐๐ บาท จำนวน ๒๐ ไร่ รวม ๒๐,๐๐๐ บาท เป็นสิ่งที่พี่น้องประทับใจ ได้รับการตอบรับดีมาก 

       “ถ้าเลือกเบอร์ ๙ พลเอกประยุทธ์ฯ จะนั่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ อย่างที่ประชาชนหวัง ส่วนบัตรประชารัฐ รอบที่ ๓ ที่ตกหล่นจะได้รับการดูแล ทำบัตรต่อไปในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน และพรรคพร้อมที่จะทำให้โคราชเป็นมหานครโคราช โดยเฉพาะเรื่องน้ำ เป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุด เรื่องภัยแล้ง มีการผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มาเติมน้ำให้เขื่อนลำตะคอง เพื่อการเกษตรอย่างพอเพียง รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ต้องสานต่อ รวมถึงรถไฟทางคู่ รถไฟรางเบา ถนนเลี่ยงเมือง ถนนวงแหวน และมอเตอร์เวย์ จะทำให้โคราชเป็นเมืองมหานครอย่างแน่นอน ซึ่งพลเอกประยุทธ์เป็นคนโคราช เกิดที่โคราช มุ่งหวังให้โคราชเป็นเมืองมหานครที่สมบูรณ์ ที่ดินจะมีราคามากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อเมืองโคราชมหาศาล ที่สำคัญยังมีท่าเรือบกที่ทำให้การขนสิ้นค้าดีภายในอีสาน ซึ่งจะเหมือนแหลมฉบังที่จังหวัดชลบุรี เพราะฉะนั้นเศรษฐกิจเมืองโคราชจะดีขึ้น ในขณะเดียวกันทำให้เศรษฐกิจประเทศเราดีขึ้นด้วย” นายประพิศ กล่าว

       ถามถึงความมั่นใจ เรามีผลงานที่จับต้องได้ สามารถทำได้จริง พลเอกประยุทธ์เป็นคนทำจริง เขาเรียกว่าพูดจริง ทำจริง เลือกเบอร์ ๙ พึ่งได้แน่นอน เป็นสัญลักษณ์อยู่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลกี่ยุค กี่สมัยไม่ได้ทำให้โคราชเจริญขนาดนี้ แต่พลเอกประยุทธ์เอื้อให้คนโคราชมหาศาลขนาดนี้ จึงมั่นใจว่านโยบายและผลงานของพลเอกประยุทธ์ที่จะมาเชื่อมโยง ถ้าเอารัฐบาลชุดนี้มาสานต่อถือว่า สมบูรณ์ที่สุดแล้ว 

       นายประพิศ นวมโคกสูง เปิดเผยอีกว่า การต่อสู้ในการเมืองปัจจุบัน เขตสอง มีผู้สมัคร ๓๗ พรรค มีประชาธิปไตยที่เบ่งบานมาก ทำให้ประชาชนมีทางเลือก สามารถเลือกได้ว่าอะไรดี ไม่ดีอย่างไร ทุกคนแข่งขันกันในเกม แล้วเมื่อจบเกมเราก็จบกัน ไม่ใช่ยังอยู่ในการเมืองเดิมๆ มีแต่ความขัดแย้ง เพราะฉะนั้นเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์มาเพื่อยุติปัญหา เช่น อีกฝ่ายหนึ่งขึ้นมาเป็นรัฐบาล อีกฝ่ายหนึ่งเดินขบวน ประชาชนหาความสงบไม่มี ทำมาหากินกันแทบไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าสาเหตุคืออะไร รู้แค่ว่าถ้าบ้านเมืองเราขัดแย้งกัน คงไม่มีใครอยากมาทำมาหากินกับเรา  เพราะฉะนั้น มีนักการเมืองรุ่นใหม่ มีคนมาสมัครจำนวนมากคิดว่า เป็นการเมืองที่ดี หาทางเลือกให้กับประชาชน ได้มารับใช้ประชาชนมีโอกาสให้ประชาชนได้เลือกมากที่สุด เป็นการเมืองที่ตื่นตัว แม้จะดูเป็นการแข่งขันกันรุนแรง แต่คิดว่าคนโคราชไม่รุนแรงขนาดนั้น บ้านเราค่อนข้างประนีประนอมกัน ส.ส. แต่ละพรรคไปหาเสียงมีการจับไม้จับมือกัน เราต่างคนต่างชื่นชมยินดีกัน ต่างทำหน้าที่ของแต่ละพรรค ไม่มีการกลั่นแกล้งกัน เห็นข่าวว่า มีการทำร้ายป้ายบ้าง แต่เขต ๒ ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เราไม่ชิงดี ชิงเด่น ไปปราศรัยก็พูดถึงกันด้วยความเอื้ออาทร เหมือนพี่เหมือนน้อง มีความผูกพันกันดี 

เสรีรวมไทย’คนรุ่นใหม่ขอโอกาส

       ด้านนายนันทวัฒน์ กมลวัทน์ พรรคเสรีรวมไทย เบอร์ ๑๑ เขต ๒ เปิดเผยกับ “โคราชคนอีสาน” ว่า ขณะนี้ผมเดินลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนทุกวัน แม้จะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่พรรคเสรีรวมไทย ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งประชาชนต่างรู้จักในเรื่องการทำงานที่จริงจัง และจริงใจของท่านดี ส่วนตัวชื่นชอบในผลงานของหัวหน้าพรรคมานานแล้ว จึงตัดสินใจไม่ยากที่จะลงสมัครส.ส.ในครั้งนี้ อีกทั้ง อดีตผมเคยผ่านเวทีการเมืองท้องถิ่นกับการลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมามาแล้ว จึงไม่ได้กลัวหรือกดดันอะไรมากกับการเมืองครั้งนี้ เขต ๒ เป็นเขตที่สู้กันสนุก ส่วนตัวก็หวังว่าจะมีโอกาสได้รับใช้พี่น้องประชาชน 

       “นโยบายที่พร้อมจะช่วยพี่น้องประชาชนชาวโคราชคือ การดูแลเรื่องของปากท้อง เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงผลักดันสินค้าภูมิปัญญาของประชาชน ส่วนนโยบายหลักของพรรคคือ ๖ หยุด ได้แก่ ๑.หยุดความยากจน แก้ปัญหาปากท้อง สร้างความกินดีอยู่ดี ๒.หยุดคอร์รัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง เอาเงินของชาติคืนประชาชน ๓.หยุดยาเสพติด ขจัดผู้มีอิทธิพลให้สิ้นซาก ๔.หยุดเผด็จการและปฎิรูปทหาร ๕.หยุดไฟใต้ สร้างสังคมสันติสุข สนามฉันท์ และ ๖.หยุดสงครามสีเสื้อ สร้างความปรองดอง ก้าวสู่อนาคต ซึ่งทุกหมด ๖ ข้อ จะสามารถปลดล็อคประเทศไทยได้ อย่างมีความสุข” นายนันทวัฒน์ กล่าว 

       นายนันทวัฒน์ กล่าวปิดท้ายว่า อยากฝากประชาชนลองพิจารณาคนรุ่นใหม่ที่สนใจการเมือง เข้ามาบริหารบ้านเมืองให้กลับมาสู่ยุคที่เศรษฐกิจรุ่งเรือง พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี พร้อมปราบปรามคนทุจริตคอร์รัปชั่น 

       นายนันทวัฒน์ กมลวัทน์ หรือ “โก้” ปัจจุบันอายุ ๓๖ ปี จบปริญญาโทบริหารธุรกิจ (การจัดการ) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ก่อตั้ง วีรพลแบตเตอรี่เดลิเวอรี่ และฟาสต์ฟิตเซอร์วิส เป็นกรรมการหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ปีบริหาร ๕๘-๕๙, ๖๐-๖๑ และ ๖๒-๖๓ รวมทั้งรองประธานหมู่บ้านสืบสิริแกรนด์วิลล์

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๕๖ วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ - วันจันทร์ที่  ๒๕ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๒