ลูกแชร์หลุดมือเมืองช้าง แห่แจ้งจับเท้าแชร์สุดแสบ เชิดเงินหนีกว่าพันล้านบาท รวบตัวหัวหน้าทีม ๒ รายแล้ว พบเป็นภรรยาตำรวจ ผกก.ยืนยันดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเท่าเทียม ด้านรายใหญ่ยังลอยนวล 

           สืบเนื่องจากเท้าแชร์หลุดมือหญิง ๒ ราย ซึ่งเป็นผู้เชิญชวนให้ประชาชนมาซื้อแชร์หลุดมือจากเท้าแชร์รายใหญ่ ได้ออกประกาศไลฟ์สดทางเฟซ  บุ๊กส่วนตัว เมื่อเวลา ๑๘.๐๐-๑๙.๐๐ น. ค่ำวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ แจ้งสมาชิกว่า ‘ขณะนี้ เท้าแชร์หลุดมือรายใหญ่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบสำนักงานและยึดทรัพย์สินไว้แล้ว ไม่สามารถจ่ายเงินผลตอบแทนให้สมาชิกได้’ จึงทำให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนที่หลงเชื่อซื้อแชร์หลุดมือ แม้พยายามติดต่อเจ้ามือแชร์รายย่อยทั้ง ๒ รายก็ติดต่อไม่ได้ จึงได้เริ่มเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ ๒๒-๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ มีจำนวนกว่า ๓๐ ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะมีประชาชนถูกหลอกกว่า ๑๐๐ ราย

           จากนั้นในวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ นายณัฎฐกานต์ ทับทิม อายุ ๔๒ ปี เจ้าของธุรกิจร้านเสริมสวย พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหายเหยื่อแชร์ออนไลน์กว่า ๒๐๐ คน เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สหภาพ จันทหง่อม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุรินทร์ ว่า ตนและเพื่อนๆ ที่ร่วมกันเล่นแชร์ออนไลน์จากเท้าแชร์ชื่อ สุธีพร สร้อยจิตร ชาว จ.สุรินทร์ โดยเป็นวงแชร์ ราย ๑๕ วัน และรายเดือน เป็นการเล่นแชร์ลงทุนเงิน เพื่อหวังผลกำไรในระยะสั้นๆ ตามคำโฆษณาชวนเชื่อ โดยมีลูกแชร์ที่เล่นในกลุ่มไลน์ร่วมกว่า ๑,๐๐๐ คน โดยผู้เสียหายที่ร่วมเล่นแชร์มีทั้งลูกตำรวจ พยาบาล และอีกหลายอาชีพ รวมเงินผู้เสียหายแต่ละคนประมาณ ๔๕,๐๐๐–๖๐๐,๐๐๐ รวมเป็นเงินที่สูญเสียไปกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท 

           นายณัฎฐกานต์ ทับทิม อายุ ๔๒ ปี เจ้าของธุรกิจร้านเสริมสวย หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า “ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังสอบปากคำผู้เสียหาย ได้สร้างเป็นโมเดลแยกออกเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มของผู้เสียหายที่ลงทุนไป แล้วยังไม่ได้ทุนกลับมาคืน และอีกโมเดล คือ ผู้ได้ลงทุนไปแล้วได้เงินกลับมาคืนบ้างแล้วบางส่วน เพื่อง่ายต่อการสืบสวนสอบสวน ซักถามมูลค่าความเสียหายที่สูญเสียไปในแต่ละราย แม่ทีมมีทั้งชาว จ.สุรินทร์ และชาว จ.นครราชสีมา ปัจจุบันอยู่ที่ จ.สุรินทร์ ค่าตอบแทนมีตั้งแต่ ๑๐-๑๑๐% ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการลงทุน และผลกำไรที่จะได้รับ หากลงทุน ๔๕,๐๐๐ บาท จะได้กำไร ๕,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ บาท ในระยะเวลา ๑๕ วัน ผู้เสียหายที่มาร่วมแจ้งความดำเนินคดีในวันนี้ร่วมกว่า ๑๐๐ คน และที่รอเข้ามาแจ้งความอีกกว่า ๑,๐๐๐ คน” 

           “หลังเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้จับกุมตัว แม่ทีมเท้าแชร์รายย่อยมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อสืบขยายผลเพื่อจับกุมตัวแม่ทีมเท้าแชร์รายใหญ่ต่อไป มูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท ถ้าจะพูดว่า เป็นกลุ่มเท้าแชร์เลยก็คงไม่ใช่ แต่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อในการลงทุนว่าจะได้ผลกำไร เพราะไม่มีการไปปิดดอกเอาเงินมา เป็นการซื้อขายที่ได้ผลกำไรชัดเจน และมีระยะเวลาที่จะได้รับผลกำไรชัดเจน วันนี้เป็นการรวมตัวกลุ่มผู้เสียหายในพื้นที่ จ.สุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายทั่วประเทศไทยและต่างประเทศอีกเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายต่อหนึ่งห้องกลุ่มไลน์ เสียหายประมาณกว่า ๓๐ ล้านบาท” นายณัฎฐกานต์ กล่าว

           ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ มีประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์กว่า ๓๐ ราย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน และแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ตลอดทั้งวัน ซึ่งให้เหตุผลว่า ถูกเท้าแชร์เป็นหญิง ๒ ราย ใช้เฟซบุ๊กเชิญชวนให้ทำการลงทุนซื้อแชร์หลุดมือจากเท้าแชร์รายใหญ่ แล้วได้กำไรเป็นร้อยเท่า มีการนำรถยนต์ราคาแพง ทองคำแท่งจำนวนมาก บ้านหรู ที่ดิน และเงินสดในบัญชี มาแสดงเพื่อเชิญชวนให้ประชาชนหลงเชื่อและมั่นใจว่า เมื่อซื้อแชร์หลุดมือแล้วนำไปลงทุนต่อได้กำไรเป็นเท่าตัว และยังมีลูกแชร์                  รายอื่นๆ อีกจำนวนมาก นำเอาภาพทรัพย์สิน สิ่งของมีค่า ที่ได้จากการลงทุนแชร์หลุดมือ                       ไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อหาลูกค้า และมีประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

           พ.ต.อ.ยศวัตร์ งามสง่า ผู้กำกับการ สภ.เมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ มีประชาชนผู้เสียหายจากแชร์หลุดมือ เดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่า ถูกเท้าแชร์ลูกโซ่โกงเงิน พร้อมนำหลักฐาน การลงทุน และการโพสต์ทางเฟซบุ๊กเพื่อเชิญชวนให้มีการลงทุนซื้อแซร์หลุดมือ จากนางสาวสุรีพร สร้อยจิต อายุ ๒๒ ปี บ้านเลขที่ ๑๐๕/๓๑ ถ.โพธิ์ร้าง ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ และนางสาววราภรณ์ เข็มนอก อายุ ๓๒ ปี บ้านเลขที่ ๓๗ หมู่ ๒ ต.ตลาดไทร์ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้เสียที่มาแจ้งความพร้อมหลักฐานแล้ว และเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้ทำการจับกุ่มผู้ต้องหาทั้ง ๒ ราย และถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองสุรินทร์ในขณะนี้

           พ.ต.อ.ยศวัตร์ งามสง่า เปิดเผยอีกว่า “สำหรับแซร์หลุดมือ ยกตัวอย่างว่า ซื้อแซร์หลุดมือ ในราคา ๖๕,๐๐๐ บาท แต่จ่ายเพียง ๕๐,๐๐๐ บาท พอครบรอบ ๑ เดือน ก็จะได้กำไรไป ๑๕,๐๐๐ บาท และมีการประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจลงทุนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ สอบปากคำไปแล้ว ๑๕ ปาก และยังมีผู้เสียหาย อีก ๒๐ ราย ที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม และในวันนี้ได้บอกให้ผู้เสียหายทยอยเดินทางมาแจ้งความ เพราะมาเยอะพนักงานสอบสวนไม่เพียงพอ คาดว่าจะมีผู้เสียหายจากแซร์หลุดมือกว่า ๑,๐๐๐ ราย ซึ่งได้ย้ำเตือนประชาชนให้ทราบแล้วว่า แซร์ลูกโซ่แบบนี้ เป็นการกระทำผิดกฎหมาย อย่าได้หลงเชื่อ ฝากประชาชนให้ตรวจสอบความถูกต้องก่อนการลงทุน ซึ่งการซื้อแชร์หลุดมือจะใช้วิธีการโอนเงินสดเข้าบัญชีของเท้าแชร์ โอนแล้วส่งสลิปเงินที่เป็นหลักฐานการโอนเข้าไลน์ของเท้าแชร์ เป็นการยืนยันการจ่ายเงิน”

           “สาเหตุของการแจ้งความดำเนินคดี เพราะเท้าแชร์ทั้ง ๒ ราย ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กว่า เท้าแซร์รายใหญ่ถูกเจ้าหน้าที่ ปปง.เข้าตรวจสอบและอายึดทรัพย์สินไว้หมด ไม่มีเงินจ่ายผลตอบแทน ทำให้ลูกแชร์พากันมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ และจากการตรวจสอบบัญชีของเท้าแชร์ทั้ง ๒ ราย จำนวน ๗ บัญชี มีเงินหมุนเวียน ๒๐๐ กว่าล้านบาท มีผู้ลงทุนโอนซื้อแชร์หลุดมือสูงสุด ๔ ล้านบาท ผู้เสียหายมีความเสียหายแตกต่างกัน แล้วแต่ว่าคนใดจะซื้อมากหรือซื้อน้อย บางรายที่ลงทุนครั้งแรกอาจได้เงินตอบแทนคืนหมดแล้ว ตำรวจจะได้สอบปากคำผู้ต้องหา ขยายผล มีผู้เกี่ยวข้องกี่รายจะได้นำตัวมาดำเนินคดี ส่วนทรัพย์สินทั้งเงินสด บ้าน รถยนต์ และทองคำแท่ง เมื่อตรวจสอบแล้วเกี่ยวข้องกับคดีก็จะยึดทรัพย์สินต่อไป เบื้องต้นตำรวจอายัดเงินสดไว้แล้ว ๒๐ ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาหญิงทั้งสองราย รายหนึ่งเป็นภรรยาตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นภรรยา หรือเป็นลูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกับประชาชนทั่วไป” ผู้กำกับการ สภ.เมืองสุรินทร์ กล่าว

 ปีที่ ๔๔ ฉบับที่ ๒๕๕๗ วันอังคารที่ ๒๖ - วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๒